Skip to main content
sharethis

ประชุมแจงข้อมูลกร่อย ไม่มีตัวแทนราชการ แต่ฝากเอกสารให้เซ็นชื่อยินยอม ชาวบ้านจวกโครงการไม่ให้ข้อมูล-ไม่ถามความเห็น เอ็นจีโอเผยโครงการย่อยโยง โขง เลย ชี มูล เหตุเลี่ยงศึกษาผลกระทบ วันที่ 11 ต.ค.54 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลจำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี กลุ่มชาวบ้านจากบ้านโนนสว่าง และบ้านเหล่าคาม ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่มีที่ดินทำกินติดกับลำน้ำห้วยโมง ได้เข้ามาประชุมรับฟังการชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงจากตัวแทนหน่วยงานราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการขุดลอกห้วยโมง เพื่อจะซักถามข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการฯ สืบเนื่องจาก ในช่วงที่ผ่านมามีหนังสือจากอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี ขอให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีที่ดินทำกินติดกับลำน้ำห้วยโมง อุทิศที่ดินให้กับราชการเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยจะดำเนินโครงการขุดลอกห้วยโมง ขนาดความกว้าง 40 เมตร ความลึก 5 เมตร และทำถนนลาดยางความกว้าง 6 เมตร ตลอดแนวตลิ่งทั้งสองฝั่งลำน้ำห้วยโมง มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่กลุ่มชาวบ้านเกิดข้อกังขาต่อความไม่เป็นธรรม และความโปร่งใสในการดำเนินการ อีกทั้งยังกังวลถึงผลกระทบต่อที่ดินทำกินและระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยโมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในวันนี้ ไม่มีตัวแทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อชาวบ้าน ทั้งที่เป็นผู้ออกหนังสือเชิญนัดหมายชาวบ้าน มีเพียงเจ้าหน้าที่ช่างโยธาขององค์การบริหารส่วนตำบลจำปาโมง ฝากเอกสารให้ชาวบ้านเซ็นชื่อยินยอมให้มีการขุดลอก จึงไม่มีชาวบ้านรายใดยอมเซ็นชื่อ และหลังจากนั้นได้มีตัวแทนชาวบ้านเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอบ้านผือ เพื่อยื่นหนังสือไม่เห็นด้วยในการดำเนินโครงการต่อนายอำเภอบ้านผือ นางสาวสมัย พินิจ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลจำปาโมง แกนนำกลุ่มชาวบ้านเจ้าของที่ดินทำกินที่ติดกับลำน้ำห้วยโมง กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ชลประทาน ไม่มาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รู้ถึงรายละเอียดของโครงการว่าเป็นอย่างไร ซึ่งชาวบ้านหลายคนที่กังวลว่าที่นาจะถูกขุดไปหมดเตรียมตัวที่จะมาถามว่าที่จะมาขุดห้วยโมงนั้น ทำไมถึงต้องขุด แล้วขุดแล้วจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือไม่ “ที่สำคัญที่ผ่านมา ไม่เคยมาถามชาวบ้านสักคำว่าอยากให้ขุดลอกห้วยโมงไหม อยู่ดีก็มีหนังสือมาขอให้ชาวบ้านมอบที่ดินให้ราชการ เพื่อที่จะดำเนินการขุดลอกห้วยโมง ทำแบบนี้มันไม่เป็นธรรมกับเจ้าของที่นา” นางสาวสมัย กล่าว ด้าน นางคำพอง ทาสาลี ตัวแทนชาวบ้านตำบลจำปาโมง แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เห็นด้วย หากจะมีการขุดลอกห้วยโมง เพราะจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่สูญเสียที่ดินทำกิน และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยโมง “เมื่อปีสามหนึ่ง ก็เคยมาขุดลอกไปแล้วครั้งหนึ่งขุดไปกว้างประมาณ 30 เมตร ชาวบ้านหลายรายได้เสียที่นาไปในการขุดครั้งนั้นหลายไร่ และถ้าจะมาขุดอีกในครั้งนี้ชาวบ้านบางรายแทบจะหมดที่นาไปกับการขุดห้วยโมงเลย และสิ่งที่จะตามมาก็คือเมื่อขุดแล้วสภาพพื้นที่จะเปลี่ยนไป โดยประสบการณ์การขุดในครั้งแรกนั้น เห็นได้ชัดเลยว่า จำนวนปลาลดลงเป็นอย่างมาก” นางคำพองให้ข้อมูล ส่วน นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ผู้ประสานงานศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ ภาคอีสาน (ศสส.) แสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการขุดลอกห้วยโมงในครั้งนี้ว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอำเภอ ที่ทำการออกหนังสือมาถึงชาวบ้าน โดยระบุว่าให้ชาวบ้านมอบที่ดินให้รัฐ เพื่อจะนำไปดำเนินโครงการเพื่อประโยชน์สาธารณะนั้น เป็นการละเมิดสิทธิของชาวบ้านอย่างเห็นได้ชัด เพราะภาครัฐกำลังใช้อำนาจบังคับชาวบ้านทางอ้อม “ที่ผ่านมาไม่ได้สร้างการมีส่วนร่วมให้กับชาวบ้านเลย ไม่เคยมีการชี้แจงข้อมูลความเป็นมา ผลประโยชน์และผลกระทบ รวมทั้งไม่เคยถามชาวบ้านว่าอยากได้โครงการขุดลอกหรือไม่ การดำเนินโครงการจึงเสมือนการตั้งธงไว้แล้วว่า จะทำ โดยชาวบ้านในพื้นที่ต้องน้อมรับยอมตาม” นายสุวิทย์กล่าว สุวิทย์ กล่าวด้วยว่า หากทำการวิเคราะห์ให้เห็นสถานการณ์การพยามยามผลักดัน โครงการ โขง เลย ชี มูล ที่ กรมชลประทานกำลังจะผลักดันอยู่นั้น ดูจากข้อมูลจะเห็นได้ว่า การขุดลอกห้วยโมง ซอยย่อยให้องค์กรท้องถิ่นดำเนินการให้นั้นสอดรับกับโครงการใหญ่ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการทำการศึกษาถึงผลกระทบทั้งระบบในการทำโครงการ ซึ่งห้วยโมงก็เป็นหนึ่งในเส้นทางการผันน้ำของโครงการ โขง เลย ชี มูล เอกสารอุทิศที่ดิน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net