TCIJ: ชาวบ้านสวนปาล์ม รุกพบรองนายกฯ ยงยุทธ จี้แก้ปัญหาที่ดิน-กลุ่มอิทธิพล

วันนี้ (15 ต.ค.54) ตัวแทนชาวบ้านสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) เข้าพบและยื่นหนังสือต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินทางมาทอดกระถินที่วัดเขาพระนิ่ม อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ธานี พร้อมชี้แจงเกี่ยวกับกรณีปัญหาที่ดินทำกิน และเรื่องความไม่ปลอดภัยจากกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่สวนปาล์ม โดยหลังการพูดคุยชี้แจงประมาณ 5 นาที นายยงยุทธรับปากดูแลปัญหาของชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ต่อเนื่องจาก วานนี้ (14 ต.ค.54) ชาวบ้านชุมชนไทรงามพัฒนา พร้อมสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้เข้ายื่นเรื่องที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อส่งหนังสือถึง นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอคัดค้านการประกันตัว นายสุนทร ช่วยบำรุง และนายพงศักดิ์ สุขขาทิพ ผู้ต้องหา หมายเลขคดี ป.2261/54 พร้อมรายชื่อของชาวบ้านเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ 255 คน ที่ร่วมคัดค้านการประกันตัวดังกล่าว และเอกสารลำดับเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุก่อนหน้านี้ เนื่องจากถึงวันครบกำหนดการฝากขัง 7 วัน หนังสือดังกล่าวระบุเหตุผลการคัดค้านการประกันตัวว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.เขาพนม จ.กระบี่ เกรงออกมาใช้อิทธิพล ข่มขู่ทำลายพยานหลักฐาน และอาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน เพราะโกรธแค้นที่สมาชิกชุมชุมแจ้งความทำให้โดนจับกุม อีกทั้งที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเคยนำอาวุธสงครามเข้าไปข่มขู่คุกคามและก่อรุนแรงต่อชาวบ้านในชุมชนคลองไทร และชุมชนไทรงามพัฒนา ซึ่งเป็นสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังคงขังถูกฝากขังต่อที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 ต.ค.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านชุมชนไทรงามพัฒนา หมู่ที่ 5 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี ว่ามีกลุ่มอิทธิพลเข้าไปคุกคามชาวบ้านในพื้นที่ จึงลงพื้นที่ดูเหตุการณ์ พบรถกระบะต้องสงสัยจึงเรียกตรวจแต่ผู้ต้องหาขับหนี จึงเกิดการไล่ล่าและยิงต่อสู้กันขึ้น สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้าย 2 คน พร้อมอาวุธปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก, ปืนขนาด .22 แม็กนั่ม 1 กระบอก, ปืนลูกซองยาว ชนิดบรรจุกระสุน 3 นัด และปืนไรเฟิลจำนวน 1 กระบอก อีกทั้งยังมีกระสุนจำนวนมาก นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ ร้องทุกข์ให้แก้ปัญหากลุ่มอิทธิพลสวนปาล์ม อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากมีกลุ่มชาวบ้านไร้ที่ดินทำกินซึ่งเข้าไปทำการเกษตรและจัดตั้งเป็นชุมชนในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ในหมู่ที่ 5 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี ถูกคุกคามด้านความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินจากกลุ่มอิทธิพลดังกล่าว ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหา คือ 1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ช่วยดูแล กำกับ นายอำเภอชัยบุรีให้ควบคุมกำกับการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หมู่ที่ 2 และหมู่ 5 ต.ไทรทอง และการปฏิบัติหน้าที่ของชุดรักษาความสงบหมู่บ้านที่หลายครั้งปฏิบัติการผิดวัตถุประสงค์2.ให้นายอำเภอชัยบุรีควบคุมกำกับการยิงปืนและพลุไฟตอนกลางคืนในแคมป์ของผู้ประกอบการสวนปาล์มซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับชุมชน 3.ให้ตรวจค้นอาวุธในแคมป์ของผู้ประกอบการจำนวน 3-4 แห่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี 4.ให้หน่วยงานระดับอำเภอและสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฏร์ธานีเร่งดำเนินการรื้อประตูเหล็กที่กลุ่มอิทธิพลนำมาปิดกั้นถนน ซึ่งเป็นทางสัญจรสาธารณะในเขต ส.ป.ก. 5.ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฏร์ธานีดำเนินการให้อัยการผู้ดำเนินคดีฟ้องขับไล่ นายเกษม เจริญพานิชย์ ออกจากพื้นที่กว่า 1,700ไร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัย และทำการเกษตรของกลุ่มชาวบ้าน 5 ชุมชน พร้อมยื่นเรื่องให้มีการบังคับคดีรื้อถอนแคมป์ที่พักคนงาน เนื่องจากศาลชั้นต้นได้พิพากษาขับไล่นายเกษม (จำเลย) และบริวารพร้อมทั้งให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง ที่พักคนงาน, สำนักงาน ออกจากพื้นที่ดังกล่าว โดยคดีนี้จำเลยได้อุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับคำขออุทธรณ์ จึงถือว่าคดีได้สิ้นสุดแล้ว ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ เรื่อง ขอคัดค้านการประกันตัว นายสุนทร ช่วยบำรุง และนายพงศักดิ์ สุขขาทิพ ผู้ต้องหา หมายเลขคดี ป.๒๒๖๑/๕๔ เรียน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. รายชื่อผู้ร้องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา จำนวน ..................... คน ๒. ลำดับเหตุการณ์ความรุนแรงที่คุกคามชุมชนคลองไทรพัฒนาและเหตุการณ์ที่ชุมชนไทรงาม พัฒนา เนื่องจาก ผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานีและอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ได้นำอาวุธสงครามมาข่มขู่คุกคามและก่อเหตุการณ์ความรุนแรงกับชาวบ้านในชุมชนคลองไทร และบ้านไทรงามพัฒนาที่เป็นสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) อย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านทำได้แค่แจ้งความร้องทุกข์ ลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สภ.ชัยบุรี และบางเหตุการณ์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับลงบันทึกประจำวันและจากการให้ข้อมูลของชาวบ้านในพื้นที่ว่ากลุ่มนายสุนทรยังเป็นกลุ่มอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และผลประโยชน์จากผลอาสิน จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นหลายครั้งนี้จะ เห็นได้ว่ากลุ่มนายสุนทรเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง จึงได้ขยายพื้นที่เข้าไปคุกคามชาวบ้านในชุมชนไทรงามพัฒนา หมู่ที่ ๕ ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหตุการณ์ล่าสุดนายสุนทรและพวกรวม ๔ คน ได้เข้ามาพูดจาข่มขู่สมาชิกในชุมชนจนมีปากเสียงกันกลุ่มนายสุนทรได้ชักอาวุธปืนจ่อศีรษะชาวบ้านที่มีปากเสียงกัน ทางตัวแทนชุมชนเห็นเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ หลังจากรับแจ้งเหตุ ได้พบกับรถของนายสุนทร จนเกิดเหตุการณ์การขัดขวางการจับกุมขึ้นตามรายละเอียดที่แนบมา เพื่อท่านได้พิจารณา ดังนั้น ชาวบ้านจึงมีความเห็นร่วมกันว่าถ้านายสุนทร และพวกได้ประกันตัวออกไป จะใช้อิทธิพล ข่มขู่ทำลายพยานหลักฐานได้ และอาจใช้อิทธิพลทำลายชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านเพราะโกรธแค้นที่ชาวบ้านสมาชิกแจ้งเหตุไปที่โรงพัก อันเป็นเหตุให้โดนจับ ชาวบ้านในชุมชนทั้ง 5 ชุมชนจึงขอร้องเรียนมายังท่านโปรดพิจารณาคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนตามหมายเลขคดี ป. 2261/54 พรอ้มทั้งเอกสารประกอบการพิจารณาของท่านตามที่เรียนมาข้างต้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะกรุณามองเห็นถึงความเดือดร้อน และความปลอดภัยในชีวิตของชาวบ้านในครั้งนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถือ ชื่อ……………………..ตัวแทนชุมชน (……………………………) ชื่อ………………………ตัวแทนชุมชน (……………………………) ชื่อ……………………….ตัวแทนชุมชน (……………………………) ชื่อ………………………….ตัวแทนชุมชน (……………………………) ชื่อ……………………..ตัวแทนชุมชน (……………………………) ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เรื่อง ร้องทุกข์ให้แก้ปัญหากลุ่มอิทธิพลสวนปาล์มอำเภอชัยบุรีจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. รายงานการปฏิบัติการของกลุ่มอิทธิพลสวนปาล์มอำเภอชัยบุรี ๒. รายงานเหตุการณ์และสถานการณ์ล่าสุด การปฏิบัติการของกลุ่มอิทธิพลสวนปาล์มอำเภอชัยบุรีที่เข้ามาข่มขู่ ขับไล่กลุ่มเกษตรกร ๖ ชุมชนให้ออกจากพื้นที่ ๓. เอกสารการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มอิทธิพลสวนปาล์มที่กระทำต่อกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ๖ ชุมชน ๔. เอกสารการอนุญาตให้กลุ่มเกษตรกร ทำการเกษตร และอยู่อาศัยในพื้นที่ชั่วคราวจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ ๕. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่วนที่ ๖ ข้อที่ ๖.๒.๑ คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน เนื่องจากมีกลุ่มชาวบ้านไร้ที่ดินทำกินได้เข้าไปทำการเกษตรและจัดตั้งเป็นชุมชนในที่ดินที่เป็นพื้นที่ เขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.) ในหมู่ที่ ๕ ตำบล ไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฏร์ธานี กำลังประสบกับปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินจากการปฏิบัติการของกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่กลุ่มนี้ จากสาเหตุเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐขาดการปฏิบัติการที่เข้มแข็ง จริงจัง ในการแก้ปัญหาดังกล่าว และจากความไร้ประสิทธิภาพทางปฏิบัตินี้เองที่ทำให้กลุ่มอิทธิพลเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมายในการกระทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่าในรูปแบบต่างๆ จากสภาพความเป็นจริงที่พบเห็นในปัจจุบันพื้นที่ หมู่ที่ ๕ , หมู่ที่ ๒ ในตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี ได้พัฒนาการกลายเป็นที่ซ่องสุมของคนที่หนีคดี และกลุ่มมือปืน รวมถึงการพัฒนาการของกลุ่มค้ายาเสพติดด้วย อนึ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๕ และกำนัน ในตำบล รวมทั้งข้าราชการบางส่วนในหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจึงทำให้เกิดเป็น พื้นที่อันตรายขึ้นในหมู่ที่ ๕ ซึ่งเป็นสวนปาล์มน้ำมันที่มีอาณาเขตกว้างขวางหมื่นกว่าไร่และเป็นพื้นที่รอยต่อ ๓ จังหวัด คือ กระบี่ นครศรีธรรมราช และสุราษฏร์ธานี โดยเฉพาะการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของกลุ่มอิทธิพลยาเสพติดได้โยงใยสัมพันธ์กับกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่ม ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งเป็นเหตุให้พี่น้องเกษตรกร ที่เรียกร้องที่ดินทำกินจากภาครัฐต้องเผชิญกับปัญหา กลุ่มอิทธิพลที่ซับซ้อนและเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากยิ่งขึ้น ดังนั้นกลุ่มเกษตรกรจึงขอร้องทุกข์ต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านธีระยุทธ เอี่ยมตระกูลให้ช่วยแก้ปัญหานี้ด้วย ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหามีดังนี้ ข้อที่ ๑. ให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดูแล กำกับ นายอำเภอชัยบุรีให้ควบคุมกำกับการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หมู่ที่ ๒ และหมู่๕ ตำบลไทรทอง และการปฏิบัติหน้าที่ของชุดรักษาความสงบของหมู่บ้านที่หลายครั้งปฏิบัติการผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย ข้อที่๒. ให้นายอำเภอชัยบุรีควบคุมกำกับการยิงปืนและพลุไฟในแคมป์ของผู้ประกอบการยามค่ำคืนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับชุมชน ข้อที่ ๓.ให้ตรวจค้นอาวุธในแคมป์ของผู้ประกอบการจำนวน ๓-๔ แคมป์ในพื้นที่หมู่ที่ ๕ และหมู่ที่ ๒ ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฏร์ธานี ข้อที่๔. ให้หน่วยงานอำเภอและสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฏร์ธานีเร่งดำเนินการรื้อ ประตูเหล็กที่กลุ่มอิทธิพลนำมาปิดกั้นถนนซึ่งเป็นทางสัญจรสาธารณะในเขต สปก. ข้อที่๕.ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฏร์ธานีดำเนินการให้อัยการผู้ดำเนินคดีฟ้องขับไล่ นายเกษม เจริญพานิชย์ได้นำคำบอกกล่าว ให้ศาลบังคับคดีรื้อถอนแคมป์ที่พักคนงาน เนื่องด้วยคดีของนายเกษม เจริญพานิชย์ศาลชั้นต้น ได้พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารพร้อมทั้งให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง ที่พักคนงาน, สำนักงาน ออกจากพื้นที่ดังกล่าว คดีนี้จำเลยได้อุทธรณ์แต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับคำขออุทธรณ์จึงถือว่าคดีได้สิ้นสุดแล้ว (แปลงพื้นที่ นายเกษม เจริญพานิชย์มีพื้นที่ทั้งหมด ๑๗๐๐ กว่าไร่ ปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัย และทำการเกษตรของกลุ่มชาวบ้าน ๕ ชุมชน) จึงเรียนมาเพื่อทราบและขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดโปรดพิจารณาดำเนินการด้วย ขอแสดงความนับถืออย่างสูง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้แทนชุมชนไทรงามพัฒนา ๑ (………………………………………………) ลงชื่อ ……………………………………………… ผู้แทนชุมชนไทรงามพัฒนา ๒ (……………………………………………...) ลงชื่อ ……………………………………………… ผู้แทนชุมชนไทรงามพัฒนา ๓ (……………………………………………….) ลงชื่อ…………………………………………….. ผู้แทนชุมชนไทรงามพัฒนา ๔ (……………………………………………….) ลงชื่อ …………………………………………… ผู้แทนชุมชนสันติพัฒนา (……………………………………………….)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท