ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท 7 จังหวัด เริ่ม 1 เม.ย.55

คณะกรรมการค่าจ้างเคาะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 40% ทั่วประเทศเริ่ม 1 เม.ย.55 ปรับ 7 จังหวัด ค่าจ้างวันละ 300 บ. พิจารณาปรับครบทุกจังหวัดปี 56 (17 ต.ค.54) เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 กระทรวงแรงงาน ได้มีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง ซึ่งมี นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุม โดยเป็นการพิจารณาถึงการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวเริ่มขึ้นล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมคือเวลา 09.30 น. เนื่องจาก นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ได้เชิญปลัดกระทรวงฯและตัวแทนฝ่ายนายจ้างเข้าหารือนอกรอบก่อน ที่ห้องทำงานรัฐมนตรี จากนั้นการประชุมดังกล่าวจึงเริ่มขึ้น ซึ่งใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นพ.สมเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อมูลของคณะกรรมการค่าจ้างจังหวัด และข้อเสนอจากคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองของคณะกรรมการค่าจ้างกลาง จึงมีมติเอกฉันท์ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับปี 2555 ขึ้นทั่วประเทศอีกประมาณร้อยละ 40 ซึ่งมี 7 จังหวัดที่ได้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม และภูเก็ต โดยจะให้เริ่มในวันที่ 1 ม.ค.55 แต่เนื่องจากขณะนี้เกิดภาวะวิกฤตน้ำท่วม ทางคณะกรรมการฯจึงจะเสนอให้เปลี่ยนไปบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย.55 ส่วนจังหวัดที่มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำยังไม่ถึง 300 บาท ก็จะมีการพิจารณาในปี 56 ต่อไป ขณะที่จังหวัดที่ได้ปรับถึง 300 บาทแล้วก็ให้คงอัตรานี้ไว้ไปจนถึงปี 58 อย่างไรก็ตาม หากสภาพเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ก็จะมีการพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัดให้เร็วขึ้นกว่ากำหนด เมื่อถามว่ามติดังกล่าวเป็นผลจากการหารือนอกรอบระหว่างรมว.แรงงาน กับตัวแทนฝ่ายนายจ้าง ใช่หรือไม่ นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า รมว.แรงงานไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมีการพูดคุยกันบ้าง แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมการค่าจ้างกลาง ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงมาตรการที่จะช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ที่กระทรวงการคลังเห็นชอบ เช่น การลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อย 23 ในปี 2555 และการหักรายจ่ายของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปหักภาษีนิติบุคคลได้ 1.5 เท่า จากที่ก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานได้เสนอไว้ที่ 2 เท่า โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ในที่ประชุม กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้างได้เสนอมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การเสนอขอลดภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 3 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 7 ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มธุรกิจ แต่ครอบคลุมเฉพาะบุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้รับไปพิจารณา รวมทั้งการลดการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม และขยายเวลาการนำส่งเงินสมทบประกันสังคม ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอในเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมในการประชุมวันที่ 25 ต.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ทั่วประเทศ จะทำให้อัตราค่าจ้างแต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้นดังนี้ จ.ภูเก็ต กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรสาคร 300 บาทต่อวัน จ.ชลบุรี 274.4 บาทต่อวัน จ.ฉะเชิงเทรา และสระบุรี 270.2 บาทต่อวัน จ.พระนครศรีอยุธยา 266 บาทต่อวัน จ.ระยอง 264.6 บาทต่อวัน จ.พังงา 260.4 บาทต่อวัน จ.ระนอง 259 บาทต่อวัน จ.กระบี่ 257.6 บาทต่อวัน จ.นครราชสีมา และปราจีนบุรี 256.2 บาทต่อวัน จ.ลพบุรี 254.8 บาทต่อวัน จ.กาญจนบุรี 253.4 บาทต่อวัน จ.เชียงใหม่ และราชบุรี 252 บาทต่อวัน จ.จันทบุรี และเพชรบุรี 250.6 บาทต่อวัน จ.สงขลา และสิงห์บุรี 246.4 บาทต่อวัน จังหวัดตรัง 254 บาทต่อวัน จ.นครศรีธรรมราช และอ่างทอง 243.6 บาทต่อวัน จ.เลย ชุมพร พัทลุง สตูล และสระแก้ว 242.2 บาทต่อวัน จ.สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา สุราษฎร์ธานี 240.8 บาทต่อวัน จ.นราธิวาส อุบลราชธานี และอุดรธานี 239.4 บาทต่อวัน จ.นครนายก และปัตตานี 238 บาทต่อวัน จ.หนองคาย ตราด และลำพูน 236.6 บาทต่อวัน จ.กำแพงเพชร และอุทัยธานี 235.2 บาทต่อวัน จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท และสุพรรณบุรี 233.8 บาทต่อวัน จ.เชียงราย นครสวรรค์ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด และสกลนคร 232.4 บาทต่อวัน จ.ชัยภูมิ มุกดาหาร ลำปาง สุโขทัย และหนองบัวลำภู 231 บาทต่อวัน จ.นครพนม 229.6 บาทต่อวัน จ.พิจิตร พิษณุโลก แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์ 228.2 บาทต่อวัน จ.ตาก และสุรินทร์ 226.8 บาทต่อวัน จ.น่าน 225.4 บาทต่อวัน จ.ศรีสะเกษ 224 บาทต่อวัน และจ.พะเยา 222.6 บาทต่อวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท