Skip to main content
sharethis

9 เดือนหลังจากการลุกฮือของประชาชนจนสามารถโค่นล้มผู้นำเผด็จการลงได้ ในที่สุดวันนี้ (23 ต.ค.) ชาวตูนีเซียก็ได้ใช้สิทธิในการเลือกตั้งผู้นำที่จะมาทำหน้าที่บัญญัติกฏให้กับระบอบการปกครองใหม่ของประเทศ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 7:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของตูนีเซีย ได้เปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 4.4 ล้านคนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 217 ราย ซึ่งสภาฯ ที่มีสมาชิกจากหลายพรรคการเมืองนี้ นอกจากจะเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ยังมีหน้าที่คัดเลือกประธานาธิบดีรักษาการและรัฐบาลชั่วคราวในช่วงที่ยังคงมีการร่างรัฐธรรมนูญด้วย มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่า 11,000 รายซึ่งเป็นตัวแทนมาจาก 80 พรรคการเมือง ขณะที่อีกหลายพันคนสมัครไม่สังกัดพรรคการเมือง โดยจะปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะมีการประกาศผลในวันจันทร์ (24 ต.ค.) นี้ รัฐบาลตูนีเซียกล่าวว่า ได้นำกำลังตำรวจและทหาร 40,000 นายมาคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่ให้มีการชุมนุมซึ่งอาจจะนำไปสู่ความรุนแรง ขณะที่เจ้าของร้านขายของในตูนีเซียบอกว่าประชาชนพากันกักตุนนมและน้ำดื่มไว้เผื่อกรณีที่เกิดการจลาจล คาเมล เจนดูวบี ประธานกรรมการการเลือกตั้งของตูนีเซีย ในนามองค์กรอิสระ ISIE ประกาศว่าทางคณะกรรมการพร้อมและมั่นใจในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรปบอกว่าการจัดเลือกตั้งในตูนีเซียแทบไม่มีโอกาสให้โกงหรือบิดเบือนผลการเลือกตั้งได้เลย ทางด้านมารดาของ โมฮาเมด บูวอาซีซี คนขายผักที่เผาตัวเองประท่วงจนเป็นที่มาของการประท้วงใหญ่เมื่อ ธ.ค. ปีที่แล้ว (2553) บอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับศักดิ์ศรีและเสรีภาพ \ตอนนี้ฉันมีความสุขแล้วที่การตายของลูกชายฉัน ทำให้เราข้ามพ้นความกลัวและความอยุติธรรม\" มานูวเบีย บูวอาซีซี กล่าว \"ฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดี ฉันอยากให้ประเทศชาติประสบความสำเร็จ\" สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นครั้งแรกสำหรับชาวตูนีเซียจำนวนมากที่มีโอกาสได้เลือกจากพรรคการเมืองที่หลากหลาย \"ฉันอายุ 39 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เลือกตั้ง มันถึงเวลาแล้ว\" เมห์ดี บาราดุลลาห์ ผู้ใช้สิทธิในสถานีเลือกตั้งที่ตูนิสกล่าว \"ฉันมีความสุขมากๆ สำหรับประเทศตูนีเซีย มันเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สำหรับพวกเรา กระดาษแผ่นนี้ที่ฉันจะแสดงให้คุณดู (เอกสารลงทะเบียนยืนยันสิทธิในการเลือกตั้ง) เป็นประดาษที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา ฉันกำลังลงคะแนนเสียงเพื่ออนาคตของลูกสาวฉันและฉันก็รู้สึกปิติยินดีมาก\" \"ผมรู้สึกว่าหัวใจพองโตจนแทบระเบิด ทั้งในวันนี้และอีกสองสามวันหลังจากนี้\" วาหลีด ผู้ใช้สิทธิอายุ 35 ปีกล่าว \"ผมแทบนอนไม่หลับเมื่อคืนนี้ ผมเคยคิดว่าผมอาจไม่ได้พบเจออะไรแบบนี้เลยในชีวิต จากการที่อยู่ภายใต้ระบอบของเบน อาลี (อดีต ปธน. ตูนีเซีย) มันช่างเหมือนกับ...นรก แต่ตอนนี้ผมเป็นอิสระแล้ว ผมรู้สึกภาคภูมิใจกับเปล่าพลเมืองในประเทศผมมาก\" วาหลีดกล่าวนอกสถานีเลือกตั้งในตูนิส การประท้วงประปราย ตูนีเซียเป็นประเทศจุดชนวนให้เกิดปรากฏการณ์ \"ดอกไม้บานในอาหรับ\" (Arab Spring) หลังจากที่มีการลุกฮือของประชาชนจนทำให้ประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบีดีน เบน อาลี หนีจากประเทศไปยังซาอุดิอารเบีย การประท้วงลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างอิยิปต์และลิเบียอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเทศอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลางอย่างซีเรีย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net