Skip to main content
sharethis

นักศึกษาที่เชียงใหม่จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 5 ปีการเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่ต้านรัฐประหาร 19 กันยา 49 วันนี้ (31 ตุลาคม 2554) เวลา 15.00 น นักศึกษาใน จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันทำกิจกรรมรำลึกครบรอบ 5 ปีเหตุการณ์ที่นายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับรถแท็กซี่ผูกคอตายเพื่อต่อต้านการรัฐประหารบริเวณใต้สะพานลอยย่านวิภาดีรังสิต ภายหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยกลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาเสรีชนล้านนา และกลุ่มนักศึกษาหลายกลุ่มทำกิจกรรมรำลึกครั้งนี้ ร่วมกันหุ่นผ้าจำลอง พร้อมข้อความต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารบนตัวหุ่น จากนั้นได้มีการผูกเข้ากับท้ายรถมอเตอร์ไซต์ ก่อนนำหุ่นลากไปยังบริเวณต่างๆ ทั่วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมทั้งมีการแจกเอกสารรำลึกถึงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความตายของนายนวมทอง ไพรวัลย์ให้กับผู้ที่สนใจและผ่านไปผ่านมาในมหาวิทยาลัยด้วย อีกทั้งในตอนท้ายกิจกรรมยังได้นำหุ่นจำลองไปแขวนไว้บริเวณต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามสำนักหอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยด้วย ทำให้ผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก นายปรีชาพล ชูชัยมงคล ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาเสรีชนล้านนา เล่าว่ากิจกรรมนี้กลุ่มนักศึกษาอยากสะท้อนให้เห็นถึงความตายของคนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร การต่อสู้ของสามัญชนจนยอมพลีชีพเพื่อประชาธิปไตยและอุดมการณ์ที่เขาเชื่อ หลังจากที่ในตอนแรก ลุงนวมทองได้เอาแท็กซี่พุ่งชนรถถัง แต่ไม่ตาย การผูกคอตายอีกครั้งจึงตอกย้ำถึงเจตนารมย์ของการไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร โดยกิจกรรมการแขวนคอหุ่นจำลองทำให้คนที่ผ่านไปเห็นและเกิดการตั้งคำถาม และอาจไปแสวงหาคำตอบถึงความตายของลุงนวมทอง นายปรีชาพลกล่าวต่อว่าตนทำกิจกรรมนี้เพื่อย้ำเตือนให้คนนึกถึงว่าบุคคลแบบนี้ไม่ควรถูกทำให้เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์การต่อสู้ ในตอนแรกตนรู้ถึงการขับแท็กซี่ชนรถถังจากหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ แต่ก็ยังไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมารู้สึกสะเทือนใจ เมื่อลุงนวมทองได้แขวนคอตายอีกครั้ง ทำให้ตนตั้งคำถามว่าสังคมและคนทำรัฐประหารในตอนนั้นไม่รู้สึกรับผิดชอบต่อความตายนี้เลยหรือ สำหรับข้อความตอนหนึ่งในเอกสารที่กลุ่มนักศึกษาแจกได้ระบุว่า “จดหมายลาตายของ (นายนวมทอง) ระบุว่าต้องการลบคำสบประมาทของพันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคปค.ที่ว่า ‘ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้’...ความตายของเขาจึงไม่เพียงแต่สั่นคลอนโวหารที่ผูกขาดความกล้าหาญและความเสียสละไว้กับบุคคลในเครื่องแบบเพียงไม่กี่คนไม่กี่กลุ่ม หากแต่ยังท้าทายสถาบันจารีตที่ผูกขาดความจงรักภักดีด้วยการเสนอว่าหลักการอื่นๆ เช่น ความเสมอภาค และความเป็นธรรม ก็สามารถเป็นหลักยึดของผู้คนในแผ่นดินนี้ได้ไม่แพ้กัน “เรามักจะถูกสอนให้จำ ในสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นจริง และถูกสอนให้ลืมในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง หากต้องการให้ ประเทศมีความสงบและประชาชนอยู่ดีมีสุข ตามระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ควรย้อนกลับไปมองดูสิ่งที่สังคมได้สร้างและจรรโลงลงบนสังคมโดยชนชั้นนำ เพื่อครอบงำประชาชน ถูกผลิตซ้ำๆ เดิมๆ นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ควรหรือไม่ควร ที่ต้องมีการชำระประวัติศาสตร์แบบไทยๆ ให้ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net