Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนา จ.สุราษฏร์ธานี เผยถูกกลุ่มคนอ้างตัวเป็น ตำรวจภูธรภาค 8 เข้าค้นบ้าน แต่ไม่มีหมายค้นแถมชักปืนขู่ ทำทรัพย์สินพังยับ แถมเงินที่ชาวบ้านรวบรวมช่วยน้ำท่วมก็หายไปด้วย เมื่อวันที่ 12 พ.ย.54 เวลาประมาณ 16.00 น.มีกลุ่มชายจำนวน 6 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ แต่งกายแบบครึ่งท่อนสวมเสื้อกันกระสุนและมีวิทยุสื่อสาร เดินทางเข้ามาในชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี โดยนำรถส่วนตัวเป็นรถกระบะตอนครึ่งสีขาวไม่ทราบเลขทะเบียนมาจอดไว้แล้วเดินเท้าเข้ามาในชุมชน และได้เข้าตรวจค้นบ้านของชาวบ้านโดยไม่มีหมายค้น ชาวบ้านในชุมชนคลองไทรพัฒนาเล่าว่า บ้านที่ถูกตรวจค้นคือบ้านของนายลือ (นามสมมติ) ซึ่งเปิดเป็นรานค้า และบุคคลดังกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจมาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8และต้องการเข้าตรวจค้นบ้านเพราะมีคนแจ้งว่าที่บ้านนายลือมีอาวุธผิดกฎหมาย ภรรยาของนายลือซึ่งอยู่บ้านในขณะนั้นจึงสอบถามว่ามีหมายค้นหรือไม่ แต่บุคคลดังกล่าวไม่ตอบ กลับชักปืนขึ้นมาข่มขู่และบอกว่าปากดี เดี๋ยวจะพาไปโรงพัก ชาวบ้านเล่าด้วยว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทำการค้นภายในบ้านโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของเจ้าของบ้าน ภรรยาของนายลือจึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วยเหลือ จากนั้นกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจดังกล่าวจึงล่าถอยออกไป เมื่อเข้าไปสำรวจความเสียหายหลังจากที่กลุ่มคนดังกล่าวใช้เวลารื้อค้นราว 10 นาที พบว่า ข้าวของเสียหายยับเยิน และมีเงินหายไป 30,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในร้าน และมีเงินที่ชาวบ้านร่วมลงขันกันเพื่อจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมรวมอยู่ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านเห็นกลุ่มบุคคลดังกล่าวอยู่ที่แคมป์ที่พักคนงานของบริษัทเจ้าของสวนปาล์มซึ่งเป็นคู่กรณีกับชาวบ้านในชุมชนจากปัญหาเรื่องการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้าออกชุมชน โดยชาวบ้านส่วนหนึ่งมั่นใจว่ากลุ่มบุคคลที่เข้ามาตรวจค้นบ้านในชุมชนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากมีเสื้อกันกระสุนและมีวิทยุสื่อสารของตำรวจ ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งเห็นว่าหากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง การกระทำดังกล่าวก็ถือเป็นการนำอำนาจหน้าที่ของข้าราชการมารับใช้กลุ่มอิทธิพลและกลุ่มทุน ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานด้วยว่าชาวบ้านไม่มีความไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 ส.ค.52 เกิดเหตุการณ์ที่ตำรวจใช้ข้ออ้างเรื่องอาวุธผิดกฎหมายเข้าตรวจค้นชุมชนมาครั้งหนึ่งแล้วซึ่งก็ไม่พบอะไร แต่หลังจากตำรวจกลับออกไปจากพื้นที่ก็ได้มีชุดคุ้มครองหมู่บ้าน (ชรบ.) พร้อมด้วยรถแทรกเตอร์ (รถไถจาน) จำนวน 3 คัน เข้าทำการไถดัน ทำลายบ้านเรือนที่พักอาศัยของสมาชิกชุมชนคลองไทรจนได้รับความเสียหายจำนวน 60 หลังคาเรือน แต่การสอบสวนหาผู้กระทำผิดกลับไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ยิงข่มขู่เกิดขึ้นในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ก็มีเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้ ขณะที่การติดตามคดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ และแม้แต่คดีที่ชาวบ้านในชุมชนถูกยิงเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมปี 53 ถึงขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า “กรมตำรวจแห่งชาติ ชาวบ้านตาดำๆ ที่เป็นเกษตรกรถูกกลั่นแกล้ง แต่บริษัทและกลุ่มอิทธิพลกลับอยู่เหนือกฎหมาย ทั้งๆ ที่อยู่แบบผิดกฎหมาย ฝากถึงผู้มีอำนาจช่วยพิจารนาทีเถอะครับ” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว ทั้งนี้ ชุมชนคลองไทรพัฒนา เป็นสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินกับรัฐบาลตั้งแต่ในสมัยของรัฐบาลที่นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยการจัดทำโฉนดชุมชน โดยเป็น 1 ใน 35 พื้นที่นำร่องจัดทำโฉนดชุมชนที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช.)แต่พื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการผลักดันให้กระทรวงทรัพย์ส่งมอบพื้นที่ให้สำนักงานโฉนดชุมชนดำเนินการจัดทำโฉนดชุมชน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ.2553 อีกทั้งขณะนี้นโยบายดังกล่าวได้หยุดชะงักไป นอกจากนี้ พื้นที่ชุมชนดังกล่าวยังอยู่ในพื้นที่ฟ้องร้องดำเนินคดีระหว่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กับบริษัทจิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด โดย ส.ป.ก.ฟ้องขับไล่ให้บริษัทเอกชนออกจากพื้นที่ แต่ขณะนี้บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ผลอาสินไว้ ลำดับเหตุการณ์ชุมชนคลองไทรพัฒนา อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี วัน เดือน ปี เหตุการณ์ พฤศจิกายน 2551 มีการรวมกลุ่มของชาวบ้านประมาณ 120 ครอบครัวขอเข้าไปใช้พื้นที่ตั้งเป็นชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามตรวจสอบผลักดันการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยต้องการให้นำที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปเพื่อชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยเร็ว มีนาคม 2552 บริษัทจิวกังจุ้ย พัฒนาจำกัด ได้ฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากชาวบ้าน 3 คนได้แก่นายบัญญัติ จอง นายอดุลย์ รามจันทร์ และนายสมหมาย ลิกขชัย เป็นจำนวน 3,000,000 บาท โดยโจทก์ขอคุ้มครองชั่วคราวและให้มีหมายจับจำเลยทั้ง 3 ต่อมาศาลได้ถอนฟ้องนายบัญญัติฯจำเลยที่ 1 เนื่องจากมาทราบข้อเท็จจริงภายหลังว่า นายบัญญัติฯเป็นคนวิกลจริต ปัจจุบันรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ โดยจำเลยที่ 2และ 3 ยินยอมออกจากพื้นที่ 9 สิงหาคม 2552 06.30 น. มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 40 คันรถปิ๊กอัพ นำโดยผู้บังคับการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและกำลังตรวจจากสถานีตำรวจชัยบุรี เข้าไปตรวจค้นอาวุธและยาเสพติด ตรวจค้นอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทยอยกลับได้มีรถไถจำนวนหลายคัน และมีกลุ่มชายฉกรรจ์ถืออาวุธปืนยาวหลายคนเดินนำรถไถพังรั้วของชุมชนเข้ามาไถบ้านของชาวบ้านพังจำนวน 60 หลัง ซึ่งชาวได้แจ้งตำรวจแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้ไปแจ้งความที่โรงพัก ชาวบ้านได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้และในวันเดียวกันได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรชัยบุรี แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดรับเรื่อง 10 สิงหาคม 2552 ชรบ.ประมาณ 40 นายเข้ามาตรึงกำลังที่แคมป์ของบริษัท ได้มีชาวบ้าน 5 คน เข้าไปแจ้งความอีกครั้ง มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรชัยบุรี ปัจจุบันคดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด 2-7 พฤศจิกายน 2552 คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการช่วยเหลือและแก้ปัญหาคดีความของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิลและคณะ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐโดย พ.ต.ท.สันต์ทรง ตังละแม และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ ชุมชนคลองไทรพัฒนา, ชุมชนน้ำแดง และชุมชนสันติพัฒนา ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเสนอต่อคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความฯ และเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินต่อไป 29 ธันวาคม 2552 12.05 น. พ.ต.ท.โกเมธ ชูชมชื่น จาก สภอ.เขาพนม จ.กระบี่ มาพร้อมกับนายทวี แดงอนันต์ ผู้จัดการบริษัทจิวกังจุ้ย พัฒนาจำกัด และพวกอีก 5 คน ใช้รถปิ๊กอัพ 2 คัน เข้ามาในชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และสอบถามข้อมูลต่างๆ จากสมาชิกบางคนในชุมชน ไม่ทราบจึงเกิดความไม่พอใจ พ.ต.ท.โกเมธ ชูชมชื่น จึงตบหน้านายอภินนท์ สังข์ทอง สมาชิกชุมชนคลองไทรฯ นายอภินนท์ จึงเอากล้องมาขอถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่ พ.ต.ท.โกเมธ ชูชมชื่น และกลุ่มบุคคลที่มาด้วยเอาปืนมาจี้ที่น่าอกนายอภินนท์ สังข์ทอง และนางมาลิดา เจียกรัมย์ (ภรรยานายอภินนท์) จึงไม่ได้ภาพไว้เป็นหลักฐาน และกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เดินทางออกไปจากชุมชน 11 มกราคม 2553 19.00 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองและปืนเอ็ม.16 ยิงเข้าใส่วงสนทนาและรับประทานอาหารค่ำที่นอกชานหน้ากระท่อมที่พักของนายฟอง ขุนฤทธิ์ ซึ่งมีนายสมพร พัฒนภูมิ เพื่อนบ้านมานั่งอยู่ด้วยและเป็นที่ถูกกระสุนปืนจนเสียชีวิตหลังจากวิ่งหนีมาได้ประมาณ 10 เมตรเศษ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำตรวจ สภ.อ.ชัยบุรี ได้ตรวจพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอกและปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 7 ปลอก มีข้อสังเกตว่าก่อนเกิดเหตุยิงใส่กลุ่มสมาชิกชุมชนคลองไทรฯ ที่หน้ากระท่อมของนายฟอง ขุนฤทธิ์ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่าพบเห็นนายทวี แดงอนันต์ ผู้จัดการบริษัทจิวกังจุ้ย เข้าตรวจเดินดูสภาพต่างๆ ในชุมชนโดยเฉพาะบริเวณด้านหลังที่เกิดเหตุ 19 มกราคม 2553 เครือข่ายปฏิรูป (คปท) ได้รวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องติดตามผลการแก้ไขปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.สุราษฏร์ธานี และ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท) เรื่องการตรวจสอบพื้นที่เขต ส.ป.ก.และกรณีสมาชิกเครือข่ายถูกทำร้ายเสียชีวิตในชุมชนคลองไทรพัฒนาเขต ส.ป.ก.สุราษฏร์ธานี ตลอดจนขอรับความคุ้มครองความปลอดภัย ใน 4 ชุมชน ในเขตพื้นที่ ส.ป.ก. สุราษฏร์ธานี อันได้แก่ พื้นที่ชุมชนสันติพัฒนา หมู่ที่ 6 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี พื้นที่ชุมชนบ้านน้ำแดง หมู่ที่ 9 ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี พื้นที่ชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ที่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี และพื้นที่ชุมชนไทรงามพัฒนา หมู่ที่ 5 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี 11 กุมภาพันธ์ 2553 09.35 น. มีคนงานจำนวน 25 คน ของบริษัทจิวกังจุ้ยซึ่งเป็นบริษัทที่เก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงการดำเนินคดีฟ้องร้องของ ส.ป.ก.สุราษฎร์ธานี เข้าทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตจนเสร็จสิ้นในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันเดียวกัน หลังจากคนงานเหล่านี้ได้ออกจากชุมชนเพียงครู่หนึ่ง สมาชิกในชุมชนก็ได้เสียงปืนดังขึ้นอีกจำนวนกว่า 20 นัด จากฝั่งที่คนงานดังกล่าวอยู่ ทำให้ชาวบ้านในชุมชนครองไทรพัฒนาแตกตื่นและต่างพากันวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางชุมชนได้ประสานไปที่ชุดกำลัง ตชด.ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับชุมชน แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด อีกทั้งยังอ้างด้วยว่าชุดปฏิบัติการ ตชด.ไม่มียานพาหนะที่จะเดินทางเข้าไปในชุมชน ซึ่งห่างจากจุดพัก ตชด.กว่า 3 กิโลเมตร ทั้งๆ ที่การให้ ตชด.ลงพื้นดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตชุมชนเป็นคำสั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 19 กรกฎาคม 2554 14.00 น. นายฉลอง มณีโชติ หัวหน้าปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชัยบุรีว่า ได้มีการซื้อขายพื้นที่ของ ส.ป.ก.และได้ทำลายพื้นที่ให้เสียหาย จากนั้น เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจกว่าสิบนายได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว และได้พบรถบรรทุกสิบล้อ 1 คัน รถแบคโฮ 1 คัน และรถไถ 1 คันพร้อมคนขับ ตำรวจจึงได้จับกุมและเชิญตัวไป สภ.ชัยบุรีเพื่อดำเนินคดี จากนั้นนายฉลอง เข้าให้ปากคำกับร้อยเวร สภ.ชัยบุรีเพื่อลงบันทึกประจำวัน ถึงกรณีนี้ว่า บริษัทจิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด มีเนื้อที่ 1,051 ไร่ เป็นบริษัทที่ ส.ป.ก.ฟ้องขับไล่ให้ออกจากพี้นที่ ส.ป.ก. แต่บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ผลอาสินไว้กับศาลภาค 8 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กระทำผิดต่อคำสั่งศาลนอกจากนั้นยังละเมิดคำสั่งศาลที่ระบุว่าห้ามทำการใดๆ ที่ทำให้เกินผลเสียหายต่อพื้นที่ ส.ป.ก. โดยบริษัทได้ว่าจ้างให้ไปขุดดินเป็นร่องคูแบ่งแนวเขต เพื่อทำการขายเปลี่ยนมือ 31 กรกฎาคม 2554 20.00 น. มีกลุ่มคนใช้อาวุธสงครามยิงกระหน่ำบ้านชาวบ้านในชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฏร์ธานี กว่า 50 นัด พบปลอกกระสุนหล่นอยู่เกลื่อนพื้น บ้านเรือนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net