Skip to main content
sharethis

ศาลจังหวัดปัตตานีพิพากษายกฟ้องสุกรี อาดำ กับพวกอีก 1 คดีฆ่าโหดตัดคอชาวบ้าน ส่วนจำเลยที่ 2 มีหลักฐานยืนยัน ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2554 ศาลจังหวัดปัตตานีนัดฟังคำพิพากษาคดีนายสุกรี อาดำกับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลยร่วมกันคดีฆ่าตัดคอนายจวน ทองประคำ ชาวบ้านไทยพุทธ ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธ์ จังหวัดปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2550 คดีหมายเลขดำที่ 832/2550 เหตุเกิดที่โรงสีข้าวไม่มีเลขที่ ในหมู่ 6 ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี คำพิพากษาระบุให้ยกฟ้องนายสุกรี กับนายอาหามัดซากี กียะ จำเลยที่ 1 และ 3 ส่วนนายมูหามะ แวกะจิ จำเลยที่ 2 ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต คำพิพากษาระบุสรุปว่า คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2550 ในข้อหาร่วมกันก่อการร้าย ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และอาวุธมีด ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุสมควร ผลการพิจารณาคดีปรากฏว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 โจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดจริง จึงสั่งยกฟ้อง คำพิพากษาระบุสรุปอีกว่า แต่เชื่อว่าจำเลยที่ 2 คือนายมูหามะ แวกะจิ กระทำความผิดจริง เนื่องจากมีพยานพบเห็นจำเลยดังกล่าว ขับขี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ในวันที่เกิดเหตุ และยังพบเห็นว่า บรรทุกกระสอบสีขาวหม่นที่ถูกอ้างเป็นหลักฐานว่า บรรจุศีรษะของนายจวน แก้วทองประคำ ในวันเกิดเหตุ พยานยังยืนยันอีกว่า จำเลยดังกล่าวมีคราบข้าวเปลือกติดตามเสื้อของจำเลย จึงเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้ สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2550 โดยมีผู้พบศพนายจวน ในสภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีคมจนถึงแก่ชีวิตและไม่มีศีรษะที่โรงสีข้าวไม่มีเลขที่ ในหมู่ 6 ตำบลนาประดู่ ต่อมาร้อยตำรวจตรีสุรจิต เพชรจอม พนักงานสืบสวนสอบสวน(สบ.1) สถานีตำรวจภูธรนาประดู่ สืบสวนจนทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุคือนายสุกรี อาดำและพวก โดยนายสุกรี เป็นผู้ดูต้นทาง โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ร่วมประชุมวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำที่ห้องพักของนายสาการียา สาแม็ง สำหรับจำเลยที่ 1 คือนายสุกรี อาดำ ขณะเกิดเหตุเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตปัตตานี คดีนี้จำเลยที่ 2 มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาภายในเวลา 30 วัน เช่นเดียวกับพนักงานอัยการที่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 3 ภายใน 30 วันเช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net