ปัญหาเรื่อง “วิจารณ์เจ้า” ได้ –ไม่ได้ ยังสับสนอยู่ เช่นที่ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา แสดงความเห็นในรายการ \ตอบโจทย์\" ทำนองว่า บางคนวิจารณ์เจ้าแล้วโดน ม.112 บางคนไม่โดน อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ โดน แต่รอด อย่างคุณอานันท์ ปันยารชุน อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ก็พูด หรือเขียนเกี่ยวกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกันแต่ไม่โดน แล้วก็มีการแสดงความเห็นต่อเนื่องของผู้ร่วมรายกายทำนองว่า “ถ้าวิจารณ์ด้วยเหตุด้วยผล ไม่เข้าข่าย ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย 4 บุคคล ตามที่ระบุใน ม.112 ก็ถือว่าวิจารณ์ได้” หรือว่าวิจารณ์ได้โดยอ้างพระราชดำรัส “the king can do wrong” ความเห็นต่อเนื่องดังกล่าวนี้ เป็นความเข้าใจผิด เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ “บุคคลสาธารณะ” ย่อมหมายถึง การพูดถึงข้อดี ข้อเสีย ชี้ถูก ชี้ผิดได้ และ/หรือเรียกร้องให้รับผิดชอบได้ ซึ่งต้องมีกฎหมายรับรองสิทธิที่จะทำได้เช่นนั้นด้วย ไม่ใช่จะทำได้ด้วยเพียงการอ้างพระราชดำรัสดังกล่าว เรามักเข้าใจผิดๆ ว่า อ.สุลักษณ์ อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นต้น “วิจารณ์เจ้า” ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ยังไม่มีใครในประเทศนี้ที่วิจารณ์เจ้าในความหมายดังกล่าวได้จริงๆ จังๆ เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับให้ทำได้ ที่ อ.สุลักษณ์ อ.สมศักดิ์วิจารณ์นั้น เป็นการวิจารณ์กติกา โครงสร้างโดยรวม การปลูกฝังอุดมการณ์เกี่ยวกับสถานะ อำนาจ บทบาทของสถาบันกษัตริย์ว่า เป็นโครงสร้างที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างไร และเสนอว่าควรแก้ไขกติกาอะไรบ้างเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ให้เป็นประชาธิปไตย (ดังข้อเสนอ 8 ข้อของ อ.สมศักดิ์ เป็นต้น) การวิจารณ์โครงสร้าง อุดมการณ์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และการเสนอว่า สถาบันกษัตริย์ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบได้ เช่นข้อเสนอให้ยกเลิก ม.112 แก้รัฐธรรมนูญ ม.8 หรือข้อเสนอ 8 ข้อของ อ.สมศักดิ์ (หรือเป็นข้อเสนอของใครก็ตามทำนองนี้) ยังถือว่า เป็นการวิจารณ์ภายใน “ขอบเขต” ของ ม.112 หรือ ม.8 คือไม่ผิดกฎหมายสองมาตรานี้ ซึ่งหมายความว่าเป็นการวิจารณ์และการเสนอ “ข้อเสนอ” ที่เป็นไปตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหาของบ้านเราอยู่ที่ มันมีการ “บิดเบือน” การวิจารณ์กติกา โครงสร้าง อุดมการณ์เกี่ยวกับสถาบันในลักษณะดังกล่าวนั้นว่า เป็นการ “วิจารณ์เจ้า” และบิดเบือนข้อเสนอเพื่อปฏิรูปกติกา โครงสร้าง อุดมการณ์เกี่ยวกับสถาบันให้เป็นประชาธิปไตย โปร่งใสตรวจสอบได้ดังกล่าว ว่าเป็นการ “ล้มเจ้า” และภายใต้สถานการณ์ทางการเมือง 5 ปี มานี้ มีการใช้ ม.112 ไล่ล่าแบบเหวี่ยงแห ไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วยกับ อ.สุลักษณ์ หรือ อ.สมศักดิ์ (ความเห็นสองท่านนี้มีรายละเอียดต่างกัน แต่จุดร่วมคือ “สถาบันกษัตริย์ต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญและถูกวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบได้”) ไม่กล้าออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนเท่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตาม หากการวิจารณ์และการเสนอแบบ อ.สุลักษณ์ และ อ.สมศักดิ์ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ และหากเราเห็นว่าการปฏิรูปโครงสร้างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ให้เป็นประชาธิปไตยเป็นเบื้องต้นก่อนเท่านั้น สังคมเราจึงจะได้ระบบประชาธิปไตยที่สถาบันกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ก็คงเป็นเรื่องที่เราจะปฏิเสธ “ความรับผิดชอบร่วมกัน” ไม่ได้ว่า เราต้องเอาชนะ “ความกลัว” เพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ โดย “แบบทดสอบ” แรกสุด คือต้องคิดเรื่อง “ปัญหา ม.112” ให้ทะลุ และมองให้เห็นความเชื่อมโยงกับ ม.8 หรือการแก้โครงสร้างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์แบบเป็นแพ็กเกจอย่างที่ อ.สมศักดิ์เคยเสนอ เพื่อนำไปสู่การได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่สถาบันกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง อยากให้ลองพิจารณา “แบบทดสอบ” (เบื้องต้น) ของ อ.สมศักดิ์ ข้างล่างนี้ \"แบบทดสอบ\" หรือ test สำหรับ คนทีเสนอว่า 112 ให้ \"แก้-ลดโทษ\" จะ \"เป็นจริง\" (realistic) ได้มากกว่า จะเสนอให้ \"เลิก\" เลย และเป็น \"แบบทดสอบ\" สำหรับ บรรดา \"รอยัลลิสต์\" ที่ตอนนี้ ออกมาสนับสนุนการ \"แก้-ลดโทษ\" ด้วย (อานันท์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)