Skip to main content
sharethis

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยันค้านแก้ ม.112 แต่ต้องทำให้ดียิ่งขึ้นไป เชื่อเป็นไปไม่ได้พวกเคลื่อนไหวหวังล้มล้างสถาบัน ไม่หนุนปฏิวัติ ชี้ว่ากันไปตามกฏหมาย ด้านมท.กำชับผู้ว่า-นายอำเภอ ชุมนุม \ต้าน-หนุน แก้ 112\" อย่าปิดถนนหรือละเมิดสิทธิ์คนอื่น 3 ก.พ. 55 - ASTV ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่าที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มนิติราษฏร์พยายามเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขประมวล กฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ตนเป็นคนไทยและสำนึกในความเป็นคนไทย ทหารทุกคนในกองทัพไทยสำนึกในความเป็นคนไทย และเราเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นทหารที่อยู่กับประชาชนและต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาได้ถวายสัตย์อย่างไรยืนยันว่า ยังเป็นอย่างนั้น ส่วนกฎกติกามีผู้ที่เกี่ยวข้องที่สำนึกความเป็นไทยก็ว่ากันไป และทำให้ทุกอย่างออกมาในทางที่ดี พวกเราทุกคนอยู่มาจนถึงทุกวันนี้เราสบาย มีการศึกษา มีความเป็นอยู่ที่ดี ประเทศไทยอยู่สบายที่สุด ทุกคนอยากมาอยู่ประเทศไทย เราควรรักษาไว้ซึ่งการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ สำนึกในวีรชน บรรพบุรุษที่ทำให้เราอยู่ตรงนี้ ตนมั่นใจว่า ทุกคนสำนึกในจุดนี้ ส่วนที่รัฐธรรมนูญเปิดให้ทุกคนทำโน่นทำนี้ได้ก็จะมีกติกา แต่ที่สำคัญคือ ผู้ที่มีหน้าที่แต่ละระดับชั้น ทั้งนี้หวังว่า บุคคลเหล่านั้นจะมีสำนึกความเป็นคนไทย รู้ว่า อะไรควรหรือไม่ควร “การแก้ไขมาตรา112 นั้น ผมตอบแบบทหาร ถ้าจะให้คัดค้าน เราคัดค้านอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ออกไปประท้วง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปแตะ แต่ควรส่งเสริมให้ดียิ่งๆขึ้นไป การดำเนินการต่างๆ ส่วนเกี่ยวข้องต้องดูว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้น มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ หรือเพื่ออะไรซึ่งเป็นเรื่องที่พี่น้องคนไทยทุกคนต้องช่วยรักษาสิ่งเหล่านี้ ไว้ ความเป็นคนไทยเกิดมาได้จากพระมหากษัตริย์ กองทัพปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เรายืนยันในเจตนารมณ์ หากมีการกล่าวถึงระดับหน่วยเหนือ คือ รัฐบาล ซึ่งมีหลายคนที่ออกมาพูดว่า ไม่เห็นด้วย และไม่ควรจะทำ รวมถึงกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งยังมีการถกเถียงกันอยู่ ถ้าต่างคนต่างพูดไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป และไปพูดกันให้รู้เรื่อง เมื่อพูดรู้เรื่องก็พูดไปตามขั้นตอนกติกา ทุกท่านเป็นประชาธิปไตย และทุกอย่างจะต้องออกมาตามแบบประชาธิปไตย เราเกิดเป็นคนไทย ถ้าเราไม่สำนึกบุญคุณ ความเจริญรุ่งเรืองจะไปที่อื่น บ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธ แม้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เป็นสิ่งที่เราเชื่อถือ ปลูกฝัง เป็นสิ่งที่เราซาบซึ้งและซึมเข้ามาเรื่อยๆ ทุกวันนี้มีใครจะปฏิเสธบ้างว่า สิ่งต่างๆเจริญได้ ชาวบ้านอยู่ดี ล้วนเป็นสิ่งที่กษัตริย์และราชวงศ์ทรงเสียสละเพื่อพวกเรา”พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว เมื่อถามว่า รัฐบาลควรแสดงท่าทีที่ชัดเจนในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ต้องให้รัฐบาลตอบ ตนอยู่ในกรอบของตน และมีหลักอยู่ว่า ตนทำหน้าที่ตามที่ได้รับผิดชอบ พูดในเรื่องที่รับผิดชอบ ถ้าถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตนเห็นสิ่งดีๆที่ท่านได้พระราชทานลงมามากมาย แต่เราะจะแสดงความไม่เห็นด้วยภายใต้กฎ กติกา มารยาท ฉะนั้น ต้องกลับไปถามสื่อมวลชนว่า อยากให้ประเทศเป็นอย่างไร ทุกคนมองว่า ประเทศเราไปได้ดี ตนไม่เข้าใจที่มีคนคิดแปลกๆ สมัยก่อนเราไม่ได้เรียนต่างประเทศ กษัตริย์เป็นคนส่งเราไปเรียนและเปิดการศึกษาเพื่อนำความเจริญเข้ามา สิ่งเหล่านี้สอนกันไม่ได้เป็นสำนึก เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ ใครที่รับผิดชอบต้องออกมารับผิดชอบทำตามขั้นตอน ตั้งแต่เรื่องกฎหมาย เรื่องความมั่นคง โดยเริ่มตั้งแต่พื้นฐาน เจตนารมณ์ หรืออะไรแอบแฝง ขณะนี้สังคมเปิดทุกอย่างโปร่งใส ทุกอย่างควรพูดในเรื่องจริง เมื่อถามว่า เสียงสะท้อนของกองทัพจะดังพอให้กลุ่มที่เคลื่อนไหวสำนึกหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เสียงตนจะดังหรือไม่อยู่ที่สื่อ การแสดงความรู้สึกมีหลายวิธี ขอให้เป็นไปตามกฏกติกา ทุกคนมีสิทธิ์พูด ทำอย่างไรก็ได้ให้สงบก้าวไปข้างหน้า หลายประเทศชื่นชมเรา และเป็นตัวอย่างเทิดทูนสถาบันแต่ของเราควรทำให้ดียิ่งขึ้น เมื่อถามว่า คนส่วนใหญ่ต้องออกมาแสดงพลังคัดค้านหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าพูดไม่ชัด ก็เหมือนกับว่า ไปบอกให้คนออกมาเดินขบวน แต่การแสดงความรู้สึกมีหลายวิธีที่ให้เป็นไปตามกฎ กติกา และ รัฐธรรมนูญ ทุกคนมีสิทธิ์พูด และ ทำอะไร เพียงแต่จะทำอย่างไรก็ได้ให้บ้านเมืองสงบ และบ้านเมืองก้าวไปข้างหน้า ถ้าทุกคนพากันจูงถอยหลัง ก็ไม่มีความคิดเห็นที่จะตอบ ตนมั่นใจว่า หลายประเทศชื่นชมไทย รวมถึงระบบกษัตริย์ของไทย การเทิดทูน เอาไปเป็นตัวอย่าง ดังนั้นเราควรทำให้ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าความเคลื่อนไหวตอนนี้เป็นก้าวหนึ่งนำไปสู่ขบวนการล้มล้างสถาบัน พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นไปไม่ได้ อะไรที่เป็นสิ่งดีๆ จะเป็นสิริมงคล คนเหล่านั้นต้องคิดได้เองว่าสิ่งที่เขาทำเหมาะหรือไม่ โดยคนที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องไปทำความเข้าใจ ชี้แจงกัน ให้ทำให้เป็นไปตามกฎ กติกา ไม่ใช่ใครจะออกมาประท้วงกันมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ประเทศที่เจริญเขาทำกัน และ เราน่าจะพูดกันรู้เรื่อง ก็ขอวอนว่าสื่อควรจะนำให้เหมาะสม อย่าให้เกิดปัญหา สื่อเป็นผู้มีเกียรติเสนอความจริง โปร่งใส ตรวจสอบได้ หลักของตนคือพูดตรง ตนพูดคำไหนรับผิดชอบคำนั้น การจะบอกให้สื่อเลิกสนใจปรากฎการณ์ตรงนี้คงไม่ใช่ แต่เขียนมากไปจนเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใช่ แต่สื่อไปเขียนแล้วเป็นจำเลยสังคมก็เยอะ การนำเสนอในขอบเขตที่พอดี เหมาะสม การเขียนหนังสักเรื่องไม่ต้องตื่นเต้นมาก เอาแบบห้วนๆ ตรงๆ เล่าให้ฟังจะดีกว่า ในฐานะที่สื่อเป็นคนไทยน่าจะเขียนในความเห็นท่านก็ได้เหมือนกัน เมื่อทุกคนเป็นคนไทย อยากให้ประเทศเราเป็นอย่างไรก็จะออกมาจากเสียงเหล่านี้ เมื่อถามว่า คนที่มาเคลื่อนไหวตรงนี้ บางส่วนเป็น ส.ส.และ ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า คนของใคร ตรงไหน ทางนั้นก็รับผิดชอบ ได้มีการแบ่งไว้แล้วว่า ฝ่ายข้าราชการ การเมืองจะอยู่ในกฎ กติกาของแต่ละฝ่าย ถ้าทุกคนไม่อยู่ในกฎ ระเบียบก็สับสน ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลเอาไม่อยู่ ทหารจะออกมาปฏิวัติเพื่อปกป้องสถาบันหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “คนในห้องนี้กล้ายกมือหรือไม่ว่า ส่วนตัวพวกเราเห็นด้วยหรือไม่ แต่มันไม่ควรถึงขั้นนั้น ทุกคนควรจะร่วมกันแก้ก่อน เมื่อไฟไหม้ก็ดับไฟเสียก่อน โดยการดับด้วยวิธีที่ถูกต้อง ถ้าจะเล่นตามกฎหมาย ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย การที่ท่านสอนให้คนมีความคิดเป็นสิ่งที่ดี แต่ความคิดก็ต้องมาแลกกัน และความที่รับผิดชอบก็ต้องแลกกันรับผิดชอบ แต่ผมคิดว่าคงไปไม่ถึงจุดนั้นหรอก เอาแค่ในห้องนี้ให้ยกมือ และ ถ่ายรูปไว้ เอาไหมครับ” เมื่อถามว่า ทหารจะนำเรื่องนี้ไปหารือรัฐบาลเพื่อระงับไม่ให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทหารจะเหมือนเอ็นจีโออยู่แล้ว ทั้งช่วยน้ำท่วม ไฟไหม้ ฝนแล้ง จนรู้สึกว่าทหารจะกลายเป็นเอ็นจีโอ ไปทำงานของคนอื่น แต่เราไปในฐานะกลไกของรัฐบาล เรายินดีที่จะทำ แต่เรื่องที่ถามเมื่อสักครู่อยากถามว่า ถึงขั้นที่เราต้องทำหรือไม่ เรื่องมันเริ่มนานกี่เดือน และ ขั้นตอนอีกกี่ขั้นกว่าจะถึงเรื่องดังกล่าว ทั้งล่ารายชื่อ หรืออะไรต่างๆ มท.กำชับผู้ว่า-นายอำเภอ ชุมนุม \"ต้าน-หนุน แก้ 112\" อย่าปิดถนนหรือละเมิดสิทธิ์คนอื่น 3 ก.พ. 55 - ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่านายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การเคลื่อนไหวชุมนุมต้านการแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ในวันที่ 10 ก.พ.ที่ลานพระรูปทรงม้า ว่า รัฐบาลได้ชี้แจ้งชัดเจนไปแล้วว่า ไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว ซึ่งไม่เข้าใจว่า การต่อต้านรัฐบาลในเรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ดังนั้นอยากขอความร่วมมือประชาชนให้ยุติความเคลื่อนไหว ทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพื่อไม่ให้ถูกนำไปจุดประเด็นสร้างความขัดแย้ง ซึ่งจะทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงไม่สบายพระราชหฤทัย และไม่เป็นผลดีกับประเทศ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย และไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมฝ่ายไหนก็ตาม จะต้องอยู่ภายใต้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ อย่าปิดถนนละเมิดกฎหมายหรือสิทธิ์ของบุคคลอื่นๆ ซึ่งจะเน้นการชี้แจง ทำความเข้าใจ ก่อนการบังคับใช้กฎหมาย หากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีในภายหลัง ในเมื่อมีกฎหมายแล้วก็ต้องบังคับใช้ หากไม่ใช้ก็ถือว่าเป็นการหละหลวมต่อหน้าที่ ทั้งนี้อาจมีนักวิชาการบางส่วนที่จบมาจากต่างประเทศ เป็นคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่ค่อยได้สัมผัสพระราชกรณียกิจของพระองค์ จึงมีการแสดงความเห็นออกมา แต่ก็ขอให้ยุติการเคลื่อนไหว รวมถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมต่างๆ ทางกระทรวงไอซีที และกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปดูแลในเรื่องนี้"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net