สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 5 - 11 ก.พ. 2555

กกจ.ไฟเขียวส่งแรงงานไทยไปลิเบียหลังสงครามสงบ / เผย 15 ก.พ.นี้ สรุปยอดโครงการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้าง / อยุธยาระบุมีแรงงานในพื้นที่ตกงานกว่า 20,000 คน / 'เผดิมชัย' ยัน 1 เมย.ขึ้นค่าแรงพร้อมกัน 77 จังหวัด หวั่นแรงงานไทยถูกหลอกจี้รัฐคุ้มครองเข้ม 6 ก.พ. 55 - ที่รัฐสภา นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการธิการ(กมธ.)ป้องกันการหลอกหลวงคนไปทำงานต่าง ประเทศ ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.)แรงงานและสวัสดิการสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า คณะอนุกมธ.มีความเป็นห่วงต่อแรงงานที่ตกงานจากเหตุการณ์น้ำท่วมถูกหลอกไปทำ งานต่างประเทศ จึงขอเรียกร้องกระทรวงแรงงานใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างเข้มงวด เพราะจากข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เดือนม.ค.55 พบว่ามีแรงงานที่ประสบภัยน้ำท่วมถูกเลิกจ้างกว่า 3 หมื่นคน และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค.เพราะเป็นช่วงที่บริษัทญี่ปุ่นปิดงบบัญชีประจำปี เกรงว่าพิษเศรษฐกิจจะทำให้แรงงานสนใจไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพอ้างตนเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากกรมการจัดหางาน หลอกลวงให้ทำงานต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาคนงานภาคอีสานและภาคเหนือจะถูกหลอกลวงมากที่สุด ส.ว.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า จากปัญหาที่ชาวบ้านถูกหลอกเพราะนายหน้าเถื่อนทำงานเชิงรุก โดยจะเข้าไปเชิญชวนถึงในหมู่บ้าน ในขณะที่ภาครัฐยังทำงานเชิงรับ ถึงแม้จะมีสายด่วนของกรมการจัดหางาน หมายเลข 1694 ไว้คอยบริการชาวบ้าน หรือมีอาสาสมัครแรงงาน (อสร.) ที่มีจิตอาสากระจายอยู่ทุกตำบลทั่วประเทศรวม 7,255 คน ก็ยังไม่ทันการ ถึงแม้ว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะมีการเปิดศูนย์บริการส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศอีก 25 ศูนย์ใน 25 จังหวัด ก็เกรงว่าจะไม่ทันการ เพราะปัญหาการหลอกลวงแรงงานมีความซับซ้อนยากที่ประชาชนจะเข้าใจ ดังนั้น คณะอนุกมธ.เห็นว่าหากกระทรวงแรงงานจะจ่ายเบี้ยเลี้ยงแก่ผู้เกษียณอายุ ของกระทรวงแรงงานเป็นที่ปรึกษาประจำศูนย์ จะสามารถช่วยเป็นที่ปรึกษาในด้านกฎหมายให้กับแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศไม่ ให้ถูกหลอกลวงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น. (เดลินิวส์, 6-2-2555) พิษน้ำท่วมไม่จบ แรงงานชี้ครึ่งปีแรกว่างงานพุ่ง 1.7 แสนคน น.ส.ส่งศรี บุญบา รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานสัมมนาส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพแรงงาน เพื่อเพิ่มผลิตภาพการทำงานของภาคอุตสาหกรรม โดยกล่าวว่า ปัจจุบันพบปัญหาการขาดแคลนแรงงานและว่างงานที่มาแบบคู่ขนาน เชื่อว่าตัวเลขการว่างงาน เดือน ม.ค.-มิ.ย. จะเพิ่มขึ้น 1.7 แสนคน จากสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัยทยอยปลดคนงาน และสถานประกอบการบางแห่งได้นำเหตุอุทกภัยปลดคนงาน เพราะมองว่าหากฟื้นฟูโรงงานแล้ว เดือน เม.ย.จะต้องจ่ายค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 40 จึงนำมาอ้างปลดคนงาน อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม พบว่า บางแห่งจะเลิกจ้างและปิดกิจการ เพื่อรอดูทิศทางตลาดแรงงานว่า จะเปิดดำเนินกิจการใหม่ หรือเปลี่ยนลักษณะธุรกิจที่ใช้คนน้อย โดยกระทรวงแรงงานกำลังเร่งรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ทั้งประสบอุทกภัยและผลกระทบจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำร้อยละ 40 ในเดือน เม.ย.นี้ ว่า ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ขณะที่กระทรวงแรงงาน มีแนวคิดจะขยายโครงการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้าง เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือช่วยสถานประกอบการที่ยังฟื้นฟูโรงงานไม่เสร็จ เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้ และไม่ปลดคนงาน เช่น นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร (ไทยรัฐ, 6-2-2555) นายจ้าง-ลูกจ้างเห็นสอดคล้องเลิกระบบค่าจ้างขั้นต่ำดันแรงงานไทยมีทักษะสูง นายอภิวัฒน์ อสมาภรณ์ รองผอ.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าทิศทางอุตสาหกรรมไทย เน้นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่สมดุล ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น สามารถแข่งขันในตลาด จึงต้องพัฒนาทักษะ เพิ่มผลิตภาพ productivity และปรับระบบการบริหารจัดการ ทั้งนี้เชื่อว่าอุตสาหกรรม ที่ใช้แรงงานเข้มข้น ค่าจ้างต่ำ จะย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่ตะเข็บชายแดน หรือในประเทศเพื่อนบ้าน การเสวนาเรื่องการพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานไทย เพื่อเพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม รองรับรายได้วันละ 300 บาท โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน โดยนายประพันธ์ มนทการติวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงานจะเร่งพัฒนาศักยภาพแรงงานเพื่อให้เหมาะกับค่าจ้างขั้นต่ำ ที่มีการปรับเป็นวันละ 300 บาท โดยจัดอบรม พัฒนาทักษะฝีมือและพฤติกรรมการทำงาน ทั้งผู้เข้าใหม่และผู้ที่ทำงานอยู่เดิม รวมทั้งจะเร่งพัฒนาทักษะด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาในชาติอาเซียน ให้แก่แรงงานด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของแรงงานไทยที่จะต้องเร่งแก้ไข โครงการ “แรงงานพันธุ์เอ็กซ์” ศูนย์และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ จะรับสมัครเด็กที่จบชั้น ม.3 จำนวน 1,000 คนเข้ามาอบรมทักษะฝีมือช่างในสาขาต่างๆ รวมถึงทักษะภาษาอังกฤษ และ 9 พฤติกรรมสู่ความสำเร็จในการทำงานในช่วงเริ่มอบรมตั้งแต่มี.ค.-กย.นี้ เพื่อป้อนเข้าสู่สถานประกอบการ โดยแรงงานกลุ่มนี้จะได้ค่าจ้างสูงกว่า 300 บาทเนื่องจากเป็นแรงงานกลุ่มที่ได้รับการอบรมแบบเข้มข้น ที่เชื่อว่าจะผ่านการทดสอบตาม มาตรฐานฝีมือแรงงแห่งชาติ ค่าจ้างที่สูงกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท อีกทั้งจะมีการปรับทักษะให้พร้อมทุกด้าน เริ่มรับสมัครตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 กพ.นี้ นายถาวร ชลัษเฐียร รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวสนับสนุนแนวคิดที่ประเทศไทยจะผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูง Value-added ที่นายจ้าง ต้องยกระดับProductivity ยกระดับศักยภาพ ซึ่งหมายถึงเทคโนโลยีการผลิต high Technology และส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดค่าตอบแทนในการทำงานให้เหมาะสม ซึ่งหมายถึงค่าจ้างและสวัสดิการ โดยค่าจ้าง ที่สะท้อนศักยภาพ ทักษะการผลิต รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ กล่าวอีกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ที่มีการปรับขึ้นในทุกปีควรยกเลิก โดยใช้ค่าจ้างอัตราแรกเข้า สำหรับคนงานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่ ทั้งนี้ค่าจ้างจะมีการปรับขึ้นตาม Productivity ดัชนีราคาผู้บริโภค consumer price index และอายุงาน จึงเป็นเรี่องที่ต้องมีการปรับขึ้นค่าจ้างประจำปีในสถานประกอบการ โดยปรับเป็นอัตราร้อยละ ที่จะเป็นการยืดหยุ่นมากกว่าการปรับโดยกำหนดค่าตัวเงิน “ผลิตภาพ ของไทยเติบโตช้า ขณะเดียวกันค่าจ้างที่แท้จริงในช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย”นายถาวรกล่าวและว่านโยบายพรรคการเมืองในการปรับค่าจ้าง ขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ถือเป็นการโยนระเบิด มากกว่าโยนหินถามทาง ที่เชื่อว่าในเรื่องนี้จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ค่าจ้างขั้นต่ำจะบังคับใช้ใน 1 เมย.55 ใน 7 จังหวัด (กรุงเทพ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานี และภูเก็ต อัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาท จังหวัดอื่น ปรับเพิ่มขึ้นจากอัตราเดิมอีก 40% ) นางสิริวัน ร่มโพธิ์ทอง เลขาธิการสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (Ecot) กล่าวสนับสนุนค่าจ้างที่จะต้องสะท้อนผลิตภาพการผลิต productivity ทั้งนี้การปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาท เป็นเรื่องที่นายจ้างต้องมีภาระด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จึงควรที่จะทำอย่างไรให้นายจ้าง มีกำลังที่จะจ่ายได้ เช่นคนงานมีทักษะ ผลิตชิ้นงานได้มากขึ้น มีคุณภาพ และลดต้นทุนด้านอื่นเช่น ลดการสูญเสียวัตถุดิบในการผลิต ร่วมกันประหยัดน้ำ ไฟ ด้านนายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่าปัญหาค่าจ้างในไทย เกิดขึ้นเพราะสถานประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีการปรับค่าจ้างประจำปี ไม่มีโครงสร้างค่าจ้าง โดยนายจ้างจะปรับขึ้นค่าจ้างให้ต่อเมื่อมีการประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ทำให้ลูกจ้างต้องเรียกร้องปรับค่าจ้างขั้นต่ำในทุกปี ทั้งนี้ลูกจ้างส่วนใหญ่ที่ทำงานมากหลายปียังคงได้ค่าจ้างที่สูงกว่าค่าจ้าง ขั้นต่ำไม่มากนัก ทำให้ต้องทำโอ.ที.เพื่อให้ได้เงินเพิ่ม เพียงพอกับการเลี้ยงดูครอบครัว นายมนัส กล่าวอีกว่าสภาองค์การลูกจ้าง ต่างมีมติ และผลักดันให้มีการแก้ไข ยกเลิกค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นค่าจ้างแรกเข้าที่ใช้กับคนงานที่เริ่มเข้าทำงานในปีแรก และได้รับการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเมื่อทำงานในปีที่ 2 ที่จะได้รับการปรับตามฐานเงินเดือน โครงสร้างเงินเดือน และศักยภาพ รายงานข่าวแจ้งว่าการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ถูกกำหนดในพรบ.คุ้มครองแรงงาน ที่กฏหมายใช้บังคับกับแรงงานทุกคนที่ทำงานในประเทศ โดยไม่แบ่งสัญชาติ ผิวสี ศาสนา จึงมีสภาพบังคับใช้ทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติอย่างไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้การที่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำมีการปรับในทุกปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่สถานประกอบการส่วนใหญ่ในประเทศไทย นายจ้าง สถานประกอบการไม่มีโครงสร้างเงินเดือน หรือการปรับค่าจ้างประจำปีให้กับลูกจ้าง โดยนายจ้างจะปรับขึ้นค่าจ้าง เมื่อทางราชการมีการประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ จึงจะส่งผลให้บรรดาลูกจ้างที่ทำงานมากนาน ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้าง ที่ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ รายที่มีอัตคาที่สูงกว่าขั้นต่ำ มักจะได้รับการปรับขึ้นในอัตราส่วนต่างที่มีการปรับขึ้นใหม่ ทำให้บรรดาลูกจ้างที่ทำงานมานาน มีส่วนในการเรียกร้อง กดดันให้รัฐบาลมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในทุกปี ทั้งนี้ปัญหาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ กลายเป็นปัญหา \งูกินหาง\" เนื่องจากเมื่อมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ราคาสินค้า ทั้งอุปโภค บริโภค ปรับราคสูงขึ้น โดยที่ทางการไม่สามารถควบคุมราคา โดยมีการนำเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำที่ปรับเพิ่ม เป็นต้นทุนแรงงาน ที่มีส่วนทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ซึ่งค่าจ้างขั้นต่ำมีอัตราที่สูงขึ้นๆ ทำให้มีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการว่าทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดน้อย ลง (โพสต์ทูเดย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท