Skip to main content
sharethis
สำนักข่าวประชาธรรมรายงาน ว่า วานนี้ (12 ก.พ.55)เวลาประมาณ 13.00 น. ณ ห้องประชุมข่วงสันกำแพง อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก. 112) ร่วมกับกลุ่มประชาชนในอ.สันกำแพง จัดเวที "ครก.112 สัญจรเชียงใหม่" เพื่อให้ความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอนิติราษฎร์ในการแก้ไขประมวล กฎหมายอาญามาตรา 112 โดยมีประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 200 คน
 
ทีมอาสาสมัครช่วยเหลือครก. 112 ในการรวบรวมเอกสารและรายชื่อผู้สนับสนุนแก้ไขแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เปิดเผยกับสำนักข่าวประชาธรรมว่า ตั้งแต่เปิดเวทีล่ารายชื่อมีผู้มาร่วมลงชื่อพอสมควร ส่วนใหญ่อยากมาลงชื่อแต่ไม่ได้เตรียมเอกสารมา จึงนำกลับไปเขียนที่บ้าน บางส่วนนำแบบฟอร์มกลับไปให้เพื่อนและคนที่ไม่ได้มาร่วมงานก็มี ซึ่งโดยรวมแล้วมีผู้ติดต่อขอรับแบบฟอร์มทั้งหมดประมาณ 500 ชุด  รวมทั้งมีผู้ขอเป็นศูนย์กระจายข้อมูลข่าวสารและเอกสารอีกว่า 17 จุดทั่วเมืองเชียงใหม่
 
"ปัญหาที่ครก.112 พบตั้งแต่เริ่มล่ารายชื่อมา คือ ผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายใส่ข้อมูลในเอกสารไม่ครบ ลายเซ็นตกหล่น รวมถึงไม่ได้เซ็นกำกับเอกสารว่า "เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่...) พ.ศ...." ทำให้เอกสารที่ได้มาไม่สมบูรณ์" หนึ่งในทีมงานอาสา กล่าว
 
นางสุชีรา รักษาภักดี กลุ่มพลังผญ๋าแม่ญิงล้านนาเจียงใหม่ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเปิดกำแพงให้ทุกคนเรียนรู้ว่าการล่ารายชื่อไม่ได้ เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่ได้ผิดกฎหมาย เราควรจะศึกษาเรียนรู้ร่วมกันว่าอะไรควรอะไรไม่ควร จึงเปรียบเสมือนเป็นตัวเชื่อมให้คนเข้าถึงข้อมูลมากว่า ส่วนใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล
 
"ม.112 คนเข้าใจน้อย พอพูดถึง 112 เหมือนมีกำแพงกั้น คือไม่เข้าใจข้อมูลข่าวสารเรื่องม .112 เราจึงอยากให้ความรู้ความเข้าใจกับพี่น้องเรา" นางสุชีรา กล่าว
 
นายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวว่า การล่ารายชื่อเพื่อแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112ไม่ผิดกฎหมาย ถ้าเห็นด้วยทุกคนสามารถร่วมลงชื่อได้ และการแก้ไขมาตรานี้ไม่ใช่เพื่อล้มเจ้า แต่ในทางกลับกันตนเชื่อว่าจะทำให้สถาบันกษัตริย์มั่นคงกว่าเดิมด้วย
 
ดร.สุดา รังกุพันธ์ ตัวแทนจากครก.112 กล่าวว่า เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศโดยวิธีการทางกฎหมาย เพราะประเทศเราเข้าสู่วิกฤตทางการเมืองเพราะกระบวนการตุลาการภิวัฒน์  นิติราษฎร์พยายามเสนอกระบวนการทางนิติศาสตร์เพื่อให้ประเทศเราเป็น ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เราจึงสนับสนุนข้อเสนอของนิติราษฎร์
 
"นับตั้งแต่ นิติราษฎร์เสนอข้อเสนอนี้ออกมา ยังไม่มีใคร เถียงในเนื้อหาสาระเลย  เถียงแต่ด้านห้ามพูดถึง ห้ามคิด แม้ว่าการแก้กฎหมายจะถูกต้องชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญก็ตาม"
 
ดร.สุดา กล่าวอีกว่า นักวิชาการทั่วโลกให้การสนับสนุนข้อเสนอของนิติราษฎร์เพราะ อิงอยู่กับกฎหมายนานาชาติ หรือกฎหมายสากล เป็นกฎหมายที่ให้สิทธิเสรีภาพ โดยยังอิงอยู่กับบริบททางสังคมไทย คือ ยังคงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้นบุคคลใดที่อยากถกเถียงก็อยากให้ถกเถียงอยู่ในกรอบที่นิติราษฎร์เสนอ
 
ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2549 กฎหมายมาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างฝ่ายที่เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ยอมรับว่า นักโทษคดีมาตรา 112 เป็นนักโทษการเมือง
 
ปัญหาของกฎหมายตรานี้ คือ บทลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ การอนุญาตให้ใครก็ได้เป็นผู้ฟ้องร้อง  ซึ่งข้อเสนอของนิติราษฎร์จะช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้
 
หลังจากอากงถูกตัดสินลงโทษ 20 ปี สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วโลก องค์กรด้านการท่องเที่ยวได้สรุปผลออกมาว่า ปัญหาที่นักท่องเที่ยวกังวลสูงสุดคือ หนึ่ง น้ำท่วมกรุงเทพฯ กับ สองคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะการที่เขาส่ง SMS ในเมืองไทย ไม่รู้ว่าหมายเลขอีมี่จะถูกใช้เป็นหลักฐานอย่างเลือนลอยเมื่อไหร่
 
ดร.สุดา กล่าวอีกว่า ข้อเสนอที่ตนคิดว่าสำคัญ คือ  การนำกฎหมายมาตรานี้ออกจากหมวดความมั่นคง เพราะจากบทเรียนกรณีคุณสมยศ หรือคนอื่นที่ถูกดำเนินคดีนี้ ไม่สามารถได้รับการประกันตัวเพราะถูกอ้างว่าเกี่ยวกับความมั่นคง และจำนวนโทษที่มีอัตราสูง
 
นายสุรินทร์ แก้วผกา หรือลุงรินทร์ วัย 67 ปี ผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแก้ไขประมวลกฎอาญามาตรา 112 กล่าวว่า ตนลงชื่อร่วมแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เพราะเห็นว่า กฎหมายนี้เป็นปัญหา ถูกใช้ในการตัดกำลังทางการเมือง และอยากให้กฎหมายประเทศไทยเป็นอารยะเหมือนประเทศอื่น  
 
นายกิตติกร เพียรประกอบ เดินทางจากอ.พร้าว จ.เชียงใหม่เพื่อมาร่วมลงรายชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า  การแก้ไขกฎหมายมาตรานี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความยุติธรรมในส่วน ต่างๆ เพราะที่ผ่านมากฎหมายมาตรานี้ถูกบังคับใช้อย่างไม่เป็นธรรม  พิสูจน์ไม่ได้ว่าผิด ก็ถูกล่าวหาว่าผิด
 
นางจินดา เฟื่องฟู หรือป้าจินดา ผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า กฎหมายนี้ไม่มีความเป็นธรรม อยู่ๆก็จับคนเข้าคุก เราเลยสงสัยว่ากฎหมายนี้มันมีปัญหาอะไรถึงทำให้คนติดคุกนานขนาดนั้น พอไปดูที่สาเหตุจึงเห็นว่ามาตรานี้สมควรได้รับการแก้ไข และข้อเสนอของนิติราษฎร์ก็เพียงแค่แก้ไขให้มันดีขึ้น ไม่ได้ล้มเลิก
 
โดยส่วนตัวเห็นว่าควรคงกฎหมายนี้ไว้อยู่เพื่อรักษาเกรียติของพระมหา กษัตริย์ แต่ถ้าจับคนที่ไม่รู้อิโน่อิเน่เข้าคุกด้วยกฎหมายนี้มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ ถูกต้อง นอกจากนี้ยังเห็นว่า กฎหมายนี้มีช่องทางเพื่อให้คนนำมากลั่นแกล้งกัน ที่สำคัญพอถูกแจ้งความดำเนินคดีก็ทำอะไรไม่ได้เลย ฉะนั้นกฎหมายมาตรานี้สมควรได้รับการแก้ไข
 
นางแจ่มจันทร์ จันทรส ชาวอ.สันกำแพง ผู้มาร่วมลงชื่อสนับสนุนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า ตนสังเกตการดำเนินคดีในมาตรา 112 ที่ผ่านมา เห็นว่า คนที่ถูกลงโทษไม่น่าจะมีความผิดตามมาตรา 112 เพราะไม่ได้คิดล้มเจ้าเลย แต่ที่ถูกลงโทษเพราะอยู่ฝ่ายตรงข้าม หรือคิดไม่เหมือนกับเขาเท่านั้น ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอนิติราษฎร์ที่ให้แก้ไขกฎหมายมาตรานี้.
 
ที่มาข่าว: http://www.prachatham.com/detail.htm?code=n3_13022012_01
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net