Skip to main content
sharethis

13 ก.พ.55 นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการและวิจัย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งประกอบไปด้วยอธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี และผู้อำนวยการสำนัก เพื่อทบทวนมติกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555  ที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยเพื่อจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการ เคลื่อนไหวทางการเมือง ในประเด็นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ความว่า

ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้จัดให้มีการ ประชุมขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2555 และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้มหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัย เพื่อจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองอันจะนำมาซึ่งความ ขัดแย้งรุนแรงในสังคมไทยนั้น มติดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการตีความไปในหลายแง่หลายมุมที่แตกต่างกัน อีกทั้งองค์การนักศึกษามหาวิทยาธรรมศาสตร์และสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีหนังสือขอให้มหาวิทยาลัยพิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ 3/2555 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ได้พิจารณาความเห็นของทุกฝ่ายและเห็นว่า มหาวิทยาลัยควรชี้แจงมติเมื่อวันที่ 30 มกราคม ให้ชัดเจนเพื่อเข้าใจตรงกัน โดยคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยมีความเห็นว่า

1.ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังยึดมั่นในจิตวิญญาณแห่งมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ยึดมั่นในหลักการที่มหาวิทยาลัยมีเสรีภาพทุกตารางนิ้วและยืนยันว่าในดินแดน ธรรมศาสตร์ ยังเต็มเปี่ยมด้วยเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความเห็น

2.แต่หากการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นใดๆ ตามสิทธิที่มีอยู่นั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดสถานการณ์การเผชิญหน้าของกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่ม ผู้คัดค้านและมีโอกาสเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรง ซึ่งทุกฝ่ายทราบดีว่าสังคมไทยไม่ควรบอบช้ำจากเหตุการณ์เหล่านี้อีก ผู้บริหารมหาวิทยาลัยในฐานะผู้รับผิดชอบชีวิตของประชาคมธรรมศาสตร์ ชีวิตของประชาชนที่อยู่รายรอบ อาคารสถานที่และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยซึ่งล้วนมาจากภาษีอากรของประชาชน จำเป็นต้องใช้มาตรการเท่าที่จำเป็นเพื่อไม่เปิดโอกาสให้เกิดสถานการณ์รุนแรง ที่สังคมไทยไม่อยากเห็นอีก

3. โดยหลักการมหาวิทยาลัยยินดีให้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในทุกเรื่อง โดยการอนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อแสดงความคิดเห็นตามสิทธิเสรีภาพทาง วิชาการต้องอยู่บนเงื่อนไขต่อไปนี้

           3.1 ผู้จัดต้องรับผิดชอบดูแลให้การประชุมแสดงความคิดเห็นหรือกิจกรรมทางวิชาการอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย

           3.2 ผู้จัดรับผิดชอบมิให้มีการแสดงออกอย่างเปิดเผยหรือในเชิงสัญลักษณ์อันอาจ ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงหรือเกิดการท้าทายในระหว่างที่ผู้ที่มีความคิดแตก ต่างกัน

           3.3 ผู้จัดต้องรับผิดชอบยุติกิจกรรมได้ภายในเวลาที่กำหนดหรือที่ได้ขออนุญาตไว้ โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหากีดขวางทางสัญจร หรือสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนโดยรวม ภายหลังยุติกิจกรรมทางวิชาการ ทั้งภายในมหาวิทยาลัยและพื้นที่ต่อเนื่องโดยรอบมหาวิทยาลัย

4. การออกประกาศเรื่องการเข้มงวดการใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อแสดงความคิด เห็นในเรื่องต่างๆนั้น ใช้ปฏิบัติทั้งต่อกลุ่มผู้เห็นด้วยและผู้ไม่เห็นด้วย ไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยประเมินจากสถานการณ์ความสุ่มเสี่ยงที่อาจเกิด ขึ้นจึงจำเป็นต้องมีการตัดสินใจ และเมื่อสถานการณ์ประเด็นความขัดแย้งดังกล่าวคลี่คลายลง มหาวิทยาลัยก็ยินดีอนุญาตให้ใช้พื้นที่ได้ตามปกติ ทั้งนี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานเหตุผลอื่นใด

ขอย้ำว่า ผู้บริหารทุกคนยังเคารพในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพทางวิชาการทุก ตารางนิ้วในธรรมศาสตร์ไม่เคยเปลี่ยน ตราบใดที่การใช้เสรีภาพนั้นอยู่บนหลักสันติวิธี มีขันติธรรม เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน เป็นสุภาพชน มีเหตุผลทางวิชาการรองรับ

ด้านเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานการแถลงของนายพรชัย ตระกูลวรานนท์เพิ่มเติมว่า หนังสือที่ถูกส่งมาจากตัวแทนนักศึกษาไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ก็ให้มีการทบทวนซึ่งที่ประชุมก็ได้มีการทบทวนแล้วและเพิ่มรายละเอียดดัง กล่าว และผลบังคับใช้ตามแถลงการณ์นั้นยังไมได้กำหนดกรอบเวลา แต่คงจะประเมินจากกรณีความขัดแย้งว่าคลี่คลายตัวลงหรือยัง เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมสถานการณ์ให้รุนแรงมากขึ้น แต่หากประเด็นดังกล่าวเบาลง และพูดจาด้วยเหตุและผลมากขึ้น ก็อาจจะวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวในประเด็น ม.112นั้น ในทางวิชาการ มหาวิทยาลัยไม่ได้ห้าม  ยกตัวอย่างเมื่อวันที่30มกราคมที่ผ่านมาซึ่งมติดังกล่าวออกมาแต่ก็มีการใช้ เสวนาวิชาการของกลุ่มต่างๆในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมแท้ๆไม่มี บุคคลภายนอกมาเคลื่อนไหวหรือมาร่วมแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าสนับสนุนหรือคัดค้าน และที่ผ่านมาก็มีอาจารย์ได้รวมตัวกันพูดคุยในประเด็นนี้ แต่ไม่มีการเชิญชวน ดังนั้นถือเป็นใช้สิทธิตามเสรีภาพทางวิชาการที่ยังดำเนินอยู่ ทั้งในส่วนของอาจารย์และนักศึกษา

ทั้งนี้ยังได้รายงานคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่า กลุ่มนิติราษฎร์ยังสามารถจัดกิจกรรมได้อยู่หรือไม่ นายพรชัย กล่าวว่า ต้องทำเรื่องเสนอมาให้พิจารณา ซึ่งคณะกรรมการก็จะพิจารณาในรายละเอียด ดูองค์ประกอบ โดยจะพิจารณาว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เป็นการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการแท้ๆ ไม่นำไปสู่การเผชิญหน้าก็จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ทั้งนี้นอกเหนือจากอาจารย์ที่จัดกิจกรรมแล้ว นักศึกษาก็สามารถใช้สิทธิในการแสดงออกได้ตามปกติ เช่นเดียวกับบุคคลภายนอกก็ต้องมีการขออนุญาตและมีการพิจารณาตามความเหมาะสม

 

 

เรียบเรียงจาก: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net