ถกการศึกษาทางเลือก เสนอยกเลิกเอเน็ต-โอเน็ต-เอ็นทรานซ์ ตัวชี้วัดไร้มาตรฐาน

เผยตัวเลข “โรงเรียนทางเลือก” กว่า 209 แห่ง“ชัชวาลย์” เสนอยกเลิกตัวชี้วัดการสอบ “เอเน็ต-โอเน็ต-เอ็นทรานซ์” ชี้การศึกษาทางเลือกจะต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ ตาม รธน. พร้อมพัฒนากฎหมายลูก

 
 
ระบบการศึกษาปัจจุบันถูกตั้งคำถามว่าจะนำไปสู่การพัฒนาของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพได้จริงหรือ!  จนก่อให้เกิด “การศึกษาทางเลือก” ขึ้นมาในหลากหลายรูปแบบ ในเวทีเสวนาวิชาการ “พลังพลเมืองปฏิรูปการศึกษา” งานสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย.55 ณ ไบเทคบางนาได้มีการหยิบยกแนวคิดและการจัดการศึกษาของกลุ่มพลังพลเมืองไว้อย่างน่าสนใจ
 
จากการรวบรวมการศึกษาทางเลือกในสังคมไทย ของสมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย (Choice to learn) พบว่าปัจจุบันมีโรงเรียนทางเลือกกว่า 209 แห่ง ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และแบ่งตามภูมิภาค คือ ภาคเหนือ จำนวน 58 แห่ง ภาคกลาง 50 แห่ง ภาคอีสาน จำนวน 51 แห่ง และภาคใต้จำนวน 50 แห่ง โดยมีการจัดแบ่งการศึกษาทางเลือกออกเป็น 7 ฐานการเรียนรู้แตกต่างกันไป คือ 1)การศึกษาทางเลือกที่จัดโดยครอบครัว 2)การศึกษาทางเลือกที่อิงระบบรัฐ 3)การศึกษาทางเลือกสายครูภูมิปัญญา 4)การศึกษาทางเลือกศาสนาและวิถีปฏิบัติธรรม  5)การศึกษาทางเลือกที่เป็นสถาบันนอกระบบรัฐ 6)การศึกษาทางเลือกของการเรียนรู้ 7)การศึกษาทางเลือกผ่านสื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ ซึ่งแม้กระบวนการจะแตกต่างกัน แต่เป้าหมายที่ได้มุ่งสู่ทิศทางเดียวกัน คือการพัฒนามนุษย์ทั้งกาย จิตใจ สู่การเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
 
รัชนี ธงไชย ครูใหญ่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ที่อดีตเคยเป็นครูสอนในระบบมากว่า 11 ปี กล่าวว่า โรงเรียนในหมู่บ้านเด็กจะเน้นการมองหาความสุขของการศึกษา ซึ่งการลุกขึ้นมาจัดการการศึกษา ก็เพราะเราคำนึงถึงสิทธิในการมีส่วนร่วม เพราะการศึกษาจะปล่อยให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้กำหนดคงเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะในไทยที่มีความหลายหลายทางวัฒนธรรม คนจึงต้องการการศึกษาที่เหมาะกับผู้เรียน ซึ่งผู้เรียนก็ควรจะมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการกำหนดด้วย ดังนั้นจึงต้องมาดูระบบการศึกษาในจินตนาการใหม่ ทั้งที่อยู่ในโรงเรียนและนอกในโรงเรียน ซึ่งเป้าประสงค์ท้ายสุดก็คือต้องมีความเป็นพลเมืองจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม
 
ขณะที่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก กล่าวว่าที่ผ่านมาเกิดวิกฤติการศึกษาในระบบของการเรียนในห้อง ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการท่องจำ ทำให้เด็ก และเยาวชนไม่เกิดทักษะประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน จึงเกิดการรวมกลุ่มขึ้น เนื่องจากเห็นว่าวิกฤตินี้กำลังขยาย และหากผลผลิตเป็นเช่นนี้ ก็จะนำไปสู่ความอ่อนแอ มีปัญหา และคงสามารถเดาอนาคตในสังคมได้เลยว่าจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราจะยอมให้อนาคตอ่อนแอโดยไม่แก้ไขไม่ได้ พวกเราจึงต้องลุกขึ้นมาจัดการการศึกษา และรวมตัวเป็นสภาการศึกษาทางเลือก
 
นายชัชวาลย์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามีการทำวิจัยเรื่องปัญหาอุปสรรคของการศึกษาทางเลือก และข้อเสนอ ซึ่งหวังว่าจะนำไปสู่การวิจัยเรื่องหลักสูตรและการเทียบโอนของการศึกษาทางเลือก โดนปัจจุบันระบบการศึกษาไทยต้องเผชิญกับกำแพง 3 ชั้น ผี 3 ตัว ซึ่งกำแพง 3 ชั้น ก็คือปัญหากฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ ส่วนผี 3 ตัว ก็คือ การสอบเอเน็ต โอเน็ต เอ็นทรานซ์ ที่ไร้มาตรฐานทำให้การประเมินผลสอบที่ผ่านมาตกกันทั้งประเทศ จึงไม่น่าจะนำมาเป็นตัวชี้วัดได้
 
ดังนั้นสภาการศึกษาทางเลือก จึงต้องเร่งดำเนินการใน 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้ 1.พัฒนาการเรียนรู้ให้เกิดการเท่าทัน มีจิตสาธารณะให้เป็นที่ประจักษ์ 2.สื่อสารกับสังคมให้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ  และ 3.การขับเคลื่อนนโยบาย 3 ข้อ คือ 1)ผลักดันให้เกิดการปรับหลักสูตรแกนกลางสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะมาจัดการเรียนของชุมชนและองค์กรเอกชน  2)รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ระบุว่าการศึกษาทางเลือกจะต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ 3)การพัฒนากฎหมายลูก
 
ด้านนายชาตรี เนาวธีรนนท์ นายกสมาคมบ้านเรียนไทย และในฐานะพ่อที่จัดการศึกษาให้ลูกตัวเอง มาจนอายุ 13 ปี กล่าวว่า การจัดการศึกษาโดยโฮมสคูลเป็นการไม่สนใจกฎเหล็กที่ สพฐ.วางไว้ว่าต้องเข้าระบบ เพราะตลอดระยะเวลาลูกก็มีความสุขกับการเรียนแบบโฮมสคูล พ่อ แม่ก็มีความสุข เพราะหากไปโรงเรียนก็ไม่รู้จะต้องเจอกับอะไร หรือต้องกลับมาพร้อมกับคำด่าทอหรือไม่
 
“นี่เป็นความรู้สึกของพ่ออีกคนหนึ่งที่มีต่อระบบการศึกษาไทย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าประชาชนสามารถจัดการศึกษาด้วยตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ แม้วันนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับหรือให้อำนาจ แต่เห็นว่าการเข้าระบบคงไม่มีอะไรดีกว่าการไม่เข้าระบบ” นายชาตรีกล่าว
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท