กสทช.เผย ร่างระเบียบฯ ไกล่เกลี่ยฉลุย! เชื่อเพิ่มประสิทธิภาพระงับข้อพิพาทโทรคมนาคม

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กสทช. แจงความคืบหน้าการปรับปรุงและพัฒนากลไกระงับข้อพิพาทด้านกิจการโทรคมนาคมเผยยกร่างระเบียบ กสทช.ฯ แล้วเสร็จเตรียมเสนอ กทค.พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจ-เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ

ตามที่แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม และได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในด้านนี้ ให้มีการพัฒนาและปรับปรุงระบบจัดการเรื่องร้องเรียนและการระงับข้อพิพาทโดยการไกล่เกลี่ย รวมถึง กสทช.โดย คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้กำหนดกรอบภารกิจในปี 2555 ให้มีการปรับปรุงและพัฒนากลไกระงับข้อพิพาทด้านกิจการโทรคมนาคมให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการวางระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้วย

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่า เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และกรอบภารกิจของ กทค. จึงมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงระหว่างสำนักงาน กสทช. กับ สำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งหนึ่งในสาระสำคัญของบันทึกข้อตกลง ก็คือ ให้สำนักงานศาลยุติธรรมช่วยสนับสนุนการวางระบบการระงับข้อพิพาทโดยการไกล่เกลี่ย จึงเป็นผลให้คณะผู้บริหารของสำนักงาน กสทช.ไปศึกษาดูงาน ณ สำนักระงับข้อพิพาทของสำนักงานศาลยุติธรรม และศูนย์ไกล่เกลี่ยของศาลแพ่ง รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการในเรื่องไกล่เกลี่ยมาอย่างต่อเนื่อง
 
และเพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในด้านนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงได้มีการยกร่างระเบียบ กสทช.ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ใช้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. .... โดยได้มีการพิจารณาในชั้นของคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายฯ ในการประชุมหลายครั้ง ก่อนที่จะนำเสนอให้ที่ประชุม กทค.พิจารณาต่อไป ตามที่ได้มีการนำเสนอการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
 
ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ ดร.สุทธิพล กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายฯ ได้มีการพิจารณาร่างระเบียบดังกล่าวที่มีการแก้ไขปรับปรุงหลายครั้งจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการพิจารณากันอย่างรอบด้าน อีกทั้งยังได้กำหนดบทบาทและวิธีปฏิบัติในกระบวนการไกล่เกลี่ยไว้อย่างชัดเจน โดยเน้นที่จะสร้างความเป็นธรรมให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะทำให้การระงับข้อพิพาทเป็นประโยชน์ต่อคู่กรณีและกระบวนการพิจารณาของ กสทช. เพราะการไกล่เกลี่ยนอกจากจะเป็นผลให้ข้อพิพาทเสร็จสิ้นไปได้โดยความรวดเร็วแล้ว ยังเป็นผลให้ข้อพิพาทระงับลงด้วยความพอใจของคู่กรณีด้วยกันทั้งสองฝ่าย และจะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อคู่กรณี
 
สำหรับสาระสำคัญของร่างระเบียบไกล่เกลี่ยฉบับนี้ คือ กรอบการบังคับใช้จะใช้เฉพาะการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ร้องเรียนตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และประกาศ กทช.เรื่องกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ โดยสำนักงาน กสทช.จะเป็นผู้ดำเนินงานธุรการที่เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยดังกล่าว โดยจะจัดให้มีทะบียนรายชื่อผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งเป็นผู้ชำนาญเฉพาะด้านจากภายนอก และอาจเป็นพนักงานของสำนักงานก็ได้
 
ร่างระเบียบฯ ยังกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้ไกล่เกลี่ยรวมถึงลักษณะต้องห้าม ทั้งนี้ทะเบียนผู้ไกล่เกลี่ยจะมีอายุ 2 ปี และอาจขอขึ้นทะเบียนได้อีก  ในการแต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนั้นให้สำนักงานแต่งตั้งจากผู้ที่ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้ โดยคำนึงถึงลักษณะของข้อร้องเรียนและความเหมาะสมของผู้ไกล่เกลี่ย เว้นแต่คู่กรณีประสงค์ร่วมกันที่จะเลือกบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
 
ดร.สุทธิพล กล่าวด้วยว่า ร่างระเบียบฯ นี้ยังเปิดช่องทางให้มีการคัดค้านผู้ไกล่เกลี่ยได้ หากปรากฏข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเหตุอันควรสงสัยถึงความเป็นกลางของผู้ไกล่เกลี่ย รวมทั้งยังได้กำหนดจริยธรรมสำหรับผู้ไกล่เกลี่ยไว้ด้วย ทั้งนี้การเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยจะต้องเป็นความสมัครใจของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยมีการกำหนดวิธีการไกล่เกลี่ยเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน ตลอดจนเหตุแห่งการสิ้นสุดกระบวนการไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เกี่ยวกับการรักษาความลับของข้อมูลในการไกล่เกลี่ย ซึ่งเนื้อหาในร่างระเบียบนี้สอดคล้องกับกติกาไกล่เกลี่ยของหน่วยงานต่างๆ และสอดคล้องกับกติกาสากลอีกด้วย
           
“การจัดทำร่างระเบียบการไกล่เกลี่ยดังกล่าวจึงเป็นทางเลือกของคู่กรณีที่จะมีส่วนร่วมกันในการยุติข้อพิพาทบนพื้นฐานความสมัครใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ในขณะเดียวกันร่างระเบียบฯ นี้หากนำมาใช้ก็เปรียบเสมือนการเพิ่มท่อระบายขึ้นมาอีกหนึ่งท่อเพื่อระบายเรื่องร้องเรียนด้านโทรคมนาคมที่เข้ามาสู่การพิจารณาในลักษณะคอขวดให้ได้รับการระบายออกไปจากสาระบบได้อย่างรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อคู่กรณี”
 
ดร.สุทธิพล กล่าวว่า นี่คือตัวอย่างหนึ่งของความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากลไกระงับข้อพิพาทด้านโทรคมนาคมของ กสทช.ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเริ่มจากการจัดให้มีกลไกไกล่เกลี่ย ซึ่งคงจะต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนากลไกด้านอื่นๆ เช่น พัฒนากระบวนการรับเรื่องร้องเรียน พัฒนากระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ฯลฯ ให้มีความรวดเร็วมากขึ้น และถึงแม้ว่าในอนาคต เมื่อบริการโทรคมนาคมมีการเติบโตมากขึ้น จนอาจส่งผลให้ปริมาณเรื่องร้องเรียนเข้าสู่การพิจารณาของ กสทช.มากขึ้นก็ตาม แต่เมื่อเราสร้างท่อระบายรองรับไว้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ต่อการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนให้เสร็จสิ้นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
 
กรรมการ กสทช. กล่าวด้วยว่า แม้จะได้ข้อสรุปในชั้นของคณะอนุกรรมการบูรณาการฯ แล้ว แต่กระบวนการจัดทำระเบียบไกล่เกลี่ยยังไม่แล้วเสร็จ เพราะยังมีขั้นตอนที่สำคัญ คือจะต้องนำเสนอให้ที่ประชุม กทค.พิจารณา และเมื่อผ่านการพิจารณาของ กทค.แล้ว ก็ยังจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจและเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไป โดยเรื่องนี้จะดำเนินการด้วยความรอบคอบเพื่อให้ระเบียบไกล่เกลี่ยฉบับนี้เป็นประโยชน์ต่อการระงับข้อพิพาททางด้านโทรคมนาคมอย่างแท้จริงและเป็นธรรม
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท