Skip to main content
sharethis
ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 55 ที่ผ่านมามติชนออนไลน์รายงานว่าแรงงานต่างด้าวชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง  และแรงงานต่างด้าวชาวพม่า  ของ บริษัท จี เอส  เอ็น  เนอร์จี  จํากัด  ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี  หมู่ที่  4  ตําบลเจ็ดเสมียน   อําเภอโพธาราม  จังหวัดราชบุรี  กว่า  300  คน  ได้รวมตัวประท้วงบริเวณหน้าประตูภายในโรงงานถลุงแร่ควอช เพื่อใช้ทําผงเซลิก้า ประกอบเป็นชิ้นส่วนทําแผงโซลาร์เซล  และทําสีนํ้าทุกชนิด ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ. โพธาราม ประมาณ 30 นาย เข้ามาดูแลความสงบเรีบยร้อย
 
ผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้ทางบริษัทยึดถือตามกฏเรื่องค่าแรงงาน  เนื่องจากปัจจุบันค่าแรงงานรายวันอยู่ที่ 190  บาท  ซึ่งทางแรงงานขอเพิ่มเป็น  251  บาท  ตามที่กฏหมายกําหนด   อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้แรงงานอ้างว่า  เงินค่าแรงตํ่าแล้วยังลดรายเดือนจาก  1,500  บาท  เหลือเพียง 1,400 บาท  เงินค่าความร้อน  80  บาท  ลดเหลือ  70  บาท  และเงินเบื้ยขยันรายวันจากเคยได้วันละ  90  บาท  เหลือเพียง  39  บาท
 
ทั้งนี้กลุ่มผู้ใช้แรงงานจึงไม่พอใจที่โรงงานดังกล่าวปรับลดค่าแรงลง  จึงได้มีการรวมตัวประท้วงกันเพื่อเรียกร้องให้ทั้งบริษัท เพิ่มเงินค่าแรงดังกล่าว  หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ลุกฮือขึ้นมา  นายมฑเทียร  สุขอร่าม  กํานันตําบลเจ็ดเสมียน  ได้เข้าไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมชนในอยู่ในความสงบ  พร้อมจัดตัวแทนเข้าเจรจากับผู้บริหารโรงงาน  แต่ไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในโรงงาน  
 
ต่อมานายณรงค์  ครองชนม์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสวัสดิการสังคม   และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปเจรจากับทางบริษัท  ได้ข้อสรุปว่า  ทางโรงงานยินดีรับข้อเสนอให้ค่าแรงงานตามข้อเรียกร้อง แต่ต้องรอมีการประชุมบอร์ดของโรงงานอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น (21 เม.ย.) ทําให้ผู้ใช้แรงงานพอใจจึงแยกย้ายกันกลับเข้าไปทํางานต่อ 
 
เจราจาไม่ลง เตรียมออกยกชุดหากนายจ้างไม่ทำตามข้อเรียกร้อง
 
ในวันต่อมา (21 เม.ย.) เนชั่นทันข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา  16.00 น. หลังจากที่แรงงานต่างด้าวเลิกงานต่างก็พากันมาปิดถนนทางเข้านิคมอุตสาหกรรมราชบุรี อีกครั้ง เนื่องจากข้อเสนอที่แรงงานต่างด้าวยื่นขอไปนั้นทางโรงงานไม่สามารถให้ได้ตามที่ขอได้ ทำให้ทางนายบุญช่วย ยงยุทธสุทธิการ ผู้ช่วยฝ่ายบริหารของบริษัทจี เอส เอนเนอร์จี้ จำกัด ก็ได้พยายามออกมาพุดคุยกับแรงงานต่างด้าวที่ออกมาประท้วงปิดถนนว่าไม่สามารถให้ได้ตามนั้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังทรงตัว และเงินทุนของบริษัทก็ไม่สามารถให้ได้ แต่ค่าแรงที่ทางโรงงานจ่ายนั้นก็มากกว่าโรงงานอื่นๆอยู่แล้ว ซึ่งการพูดคุยนั้นนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงทำให้แรงงานต่างด้าวกว่า 300 คน ที่ออกมาประท้วงไม่พอใจเนื่องจากหลายคนอ้างว่างานที่ทำงานนั้นเสี่ยงกว่าโรงงานอื่นเพราะต้องอยู่กับความร้อนตลอดเวลาแต่ค่าตอบแทนที่ได้นั้นไม่ยุติธรรม และจะขอลาออกทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) ก่อนจะสลายตัวกันไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net