Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

จากผลการเลือกตั้งรอบแรก พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายสร้างพันธมิตรซึ่งประกอบด้วย Hollande, Mélenchon, Joly, Poutou, Arthaud สร้างความสัมพันธ์ได้เหนียวแน่นและสัญญาว่าจะลงคะแนนโหวตให้ Hollande ในรอบที่สอง อย่างไรก็ตามคะแนนของบลอกฝ่ายซ้ายเมื่อรวมกันแล้วก็มีแค่ 43.25% โดยเฉพาะคะแนนของMélenchon ที่น้อยกว่าคาดการณ์ถึง 6% อย่างไรก็ตามคะแนนที่ได้ครั้งนี้ก็มากกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2007ที่ได้แค่36.5% เมื่อมาดูทางฝ่ายซาโกซีเลือกตั้งครั้งนี้กลับสามารถสร้างพันธมิตรได้แค่พรรคเดียว คือ Sarkozy, Dupont-Aignan โดยมีคะแนนรวมกันแค่ 29% แตกต่างจากคราวที่แล้วที่พรรค UMP สามารถสร้างพันธมิตรกับ Front Nationale ได้ เลือกตั้งครั้งนี้ซาโกซีล้มเหลวในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับ Le Pen และต้องพึ่งคะแนนเสียงเป็นกลางอย่าง Beyrou แต่ทว่า Beyrou หลังจากรอท่าทีระยะหนึ่งแล้ว เขาก็ประกาศว่าจะลงคะแนนเสียงให้ Hollande

 

จากผลโพลของ BVA พบว่าผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้ Le Pen ในรอบแรก 57%จะโหวตให้ Sarkozy 23%ยังไม่ตัดสินใจ และ 20% จะโหวตให้ Hollande ในรอบที่สอง ส่วนผู้ลงคะแนนเสียงให้ Bayrouในรอบแรก 39% จะโหวตให้ Sarkozy 36% จะโหวตให้ Hollande 25%ยังไม่ตัดสินใจ

และเพราะด้วยความฉลาดของ Hollande ที่เริ่มต้นการรณรงค์หาเสียงด้วยยุทธวิธี Anti-Sarkozy มาหลายเดือน โดยที่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นการรณรงค์ต่อสู้ระหว่างพรรคฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา Hollande เลือกสโลแกนต่างๆเช่น « stop ou encore » (หยุดหรือจะเอาอีก) และ « Changement, c’est maintenant » (การเปลี่ยนแปลงทำได้บัดนี้) แทนที่จะเป็นสโลแกนฝ่ายซ้ายที่ต่อสู้กับฝ่ายขวาอย่างเช่น คนดุอย่าง Mélenchon เลือกกระทำอย่างไม่ไว้หน้า (สโลแกนของเขาคือ ความเป็นมนุษย์ต้องมาก่อน) ยุทธศาสตร์ของHollande โดยเลือกเป้าหมายเดียวคือ Sarkozy ประสบความสำเร็จอย่างสูง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Le Pen ไม่ได้ย่ำแย่ ในขณะเดียวกันผลพวงจากการบริหารที่ห่วยแตกของSarkozyเองก็ทำให้ความนิยมของเขาตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย 67% ของชาวฝรั่งเศสไม่พอใจกับการบริหารงานของเขา

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ Sarkozy หวังจะตีคะแนนนิยมคืน โดยใช้สิ่งที่ถนัดที่สุดคือการดีเบต Sarkozy เป็นคนที่พูดเก่ง มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อ และรู้จักวางตัวกับสื่อเป็น เขายื่นข้อเสนอกับ Hollande ให้มีการดีเบตตัวต่อตัวเพิ่มขึ้นอีกสองครั้งนอกจากการดีเบตตามประเพณีซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม Hollande ก็ไม่ได้หลงกลรับคำท้าแต่อย่างใด และคงเหลือเพียงแค่การดีเบตในคืนวันที่ 2 เท่านั้น

http://www.youtube.com/watch?v=KKPHxUMxttI ลิงค์ที่ปรากฏนี้เป็นตัวอย่างการดีเบตใหญ่ซึ่งเป็นธรรมเนียมของฝรั่งเศสในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสอง โดยจะเชิญผู้สมัครทั้งสองฝ่ายดีเบตกันเป็นเวลาประมาณสามชั่วโมง สำหรับครั้งนี้มีผู้ชมถึง 17 ล้านคน และถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี ก่อนที่มีการดีเบต ทาง BFM TV ได้เชิญ Ségolène Royal ซึ่งนอกจากเป็นคู่แข่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่แล้วจากพรรคสังคมนิยมที่พ่ายแพ้ให้ Sarkozy เธอยังเป็นอดีตภรรยาของ Hollande ที่อยู่กินกันจนปี 2007 และมีลูกด้วยกันสี่คน ทั้งคู่พบรักกันขณะเรียนหนังสือที่ Sciences Po. และอยู่กินกันมา 30 ปี อย่างไรก็ตามขณะช่วงรณรงค์หาเสียงเมื่อ 2007 ก็มีข่าวอื้อฉาวออกมาว่า Hollande แอบมีสัมพันธ์ลับกับนักข่าวสาว Valérie Trierweiller และเป็นจุดบอดสำคัญอย่างหนึ่งให้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง 2007 ความสัมพันธ์ของ Hollande และ Royal เป็นไปด้วยความตึงเครียด และ Hollande หักหลัง Royal ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคสังคมนิยมเมื่อปี 2008 ทำให้เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยม ถึงแม้ความสัมพันธ์ทั้งสองไม่สู้ดี แต่เพื่อภาพรวมแล้ว Royal และลูกๆของเขาโดยเฉพาะ Thomas ตัดสินใจทิ้งข้อขัดแย้งส่วนตัวและลงมือช่วยรณรงค์หาเสียงให้ Hollande อย่างสุดกำลัง

 

ภาคภูมิ แสงกนกกุล: บทสรุปเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส 2012 (ตอน2)
รูปซ้าย Ségolène Royal รูปขวา Valérie Trierweiller คู่กับ Hollande

การดีเบตเริ่มต้นประมาณ 3 ทุ่มถึงเที่ยงคืน และป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง หัวข้อสนทนาได้แก่เรื่องการศึกษา การค้า เศรษญกิจ การคลัง สังคม และการต่างประเทศ ในด้านการค้าและเศรษฐกิจ ฝ่ายขวาเสนอให้ทำงบประมาณสมดุลย์และเห็นว่า ต้องลดต้นทุนค่าแรง และเก็บภาษีสังคมเพิ่มขึ้นให้เท่ากับเยอรมัน และเสนอให้เป็นพันธมิตรกับเยอรมันในการสร้างนโยบายเศรษฐกิจแบบเคร่งครัด ฝ่ายซ้ายสวนกลับว่าต้นทุนค่าแรงของฝรั่งเศสไม่ได้สูงเท่าเยอรมัน และเสนอเก็บภาษีชนิดอื่นแทนภาษีสังคมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับรัฐ เช่นภาษีมลพิษ และไม่เห็นด้วยกับนโยบายเคร่งครัดของเยอรมันที่เป็นอุปสรรคกับการผลิต

ในด้านการคลัง ฝ่ายขวาไม่เชื่อว่านโยบายเก็บภาษีคนรวย 75% ของ Hollande โดยชี้ให้เห็นว่าคนที่ขยันกว่าควรมีสิทธิได้ผลตอบแทนจากการทำงาน การเก็บภาษีคนเหล่านี้มากจะทำให้เศรษฐกิจแย่ลง ฝ่ายซ้ายกลับเห็นว่าความเท่าเทียมกันในสังคมเป็นสิ่งสำคัญกว่าและควรเก็บภาษีเงินได้คนรวยมากกว่า อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายต่างเห็นว่าต้องเก็บภาษีพวกพิเศษเพิ่มขึ้น

ในด้านสุขภาพและประกันสังคม ฝ่ายขวาเสนอให้ตัดสิทธิประโยชน์ ยาและการรักษาบางชนิดออกไป และเจรจาลดค่าแรงกับสหภาพแพทย์ ใน๘ฯที่ฝ่ายซ้ายมุ่งเน้นเรื่องความยุติธรรมกับทุกคน โดยไม่ลดรายการยาออกไป

ในด้านสังคม ฝ่ายขวาเสนอว่าแผนพัฒนาชานเมืองนั้นล้มเหลวและให้ตัดงบลง ขณะที่ฝ่ายซ้ายเสนอให้ลงทุนมากขึ้น และให้เพิ่มความปลอดภัยในเขตชานเมืองมากขึ้นโดยเพิ่มอัตราการจ้างตำรวจ ส่วนประเด็นเรื่องยูธานาเซียทั้งสองฝ่ายยังไม่มีความเห็นแน่ชัด

ในด้านนโยบายต่างประเทศ ฝ่ายซ้ายโจมตีนโยบาย อัฟกานิสถานอย่างหนัก ส่วนฝ่ายขวาเสนอว่าให้ยกเลิกระบบSchengen (การเคลื่อนย้ายเสรีระหว่างประเทศสมาชิก EU) ฝ่ายซ้ายเสนอว่าให้เปิดการเจรจากับทุกประเทศสมาชิกเพื่อพัฒนาสถานการณ์ปัจจุบัน

การดีเบตจบลงอย่างสูสีและไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่พอจะสะท้อนมุมมองและนโยบายที่แตกต่างกันของทั้งสองฝ่าย และเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมมาถึง ประชาชนชาวฝรั่งเศสได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประมาณ 37 ล้านคน คิดเป็น 80.35% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้โหวตโนสูงถึง 2 ล้านคน คิดเป็น 4.68% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเป็นฝ่าย Hollande ที่ได้คะแนนเสียง 18 ล้านเสียงชนะ Sarkozy ที่ได้ 16.8 ล้านเสียงและได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส

เชิงอรรถ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net