Skip to main content
sharethis

 

เป็นที่รับรู้กันดีว่า คดีที่ดินลำพูน กลายเป็นปัญหาตัวอย่างระหว่างรัฐ กระบวนการยุติธรรม นายทุนและชาวบ้าน มาอย่างยาวนานหลายสิบปี และกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเป็นคดีพิพาทระหว่างเกษตรกรกับนายทุนและรัฐที่มีความขัดแย้งมายาวนาน จนมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเกษตรที่ไร้ที่ดิน ซึ่งเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ถูกทิ้งร้างเป็นจำนวน 125 คน ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านในหลายๆ พื้นที่ของ จ.ลำพูน ได้มีการฟ้องร้องและมีการดำเนินคดี ตัดสินจำคุกไปแล้วเป็นจำนวน 22 ราย ได้แก่ ชาวบ้านบ้านท่าหลุก ต.หนองล่อง กิ่ง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูนจำนวน 20 ราย  ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย โดยเสียชีวิตในคุกจำนวน 1 ราย  และเสียชีวิตนอกคุก 1 ราย  และที่บ้านดงขี้เหล็ก ต.ศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูนจำนวน 2 ราย  ทั้งหมดได้รับการอภัยโทษเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2553  

กระนั้น คดีที่ดินลำพูน ยังคงเป็นปัญหาไม่จบสิ้น โดยในวันที่ 6 มิถุนายน 2555 นี้ จะมีการพิจารณาตัดสินคดีในชั้นศาลฎีกา โดยครั้งนี้เป็นกรณีของบ้านพระบาท อ.ป่าซาง จ.ลำพูน  จะมีการตัดสินทั้งสิ้น 3 คนคือ 1.นายประเวศน์ ปันป่า แกนนำชาวบ้าน ซึ่งศาลชั้นต้นลง 6 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ยืนตามนั้น  2.นายรังสรรค์ แสนสองแคว แกนนำชาวบ้านในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปที่ดินชุมชนโดยชุมชน ปัจจุบันเป็นประธานสหกรณ์การเกษตรโฉนดชุมชนป่าซาง จำกัด และ 3.นายสืบสกุล กิจนุกร เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) โดยกรณีของนายรังสรรค์ แสนสองแคว และนายสืบสกุล กิจนุกร นั้น ก่อนหน้า ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ต่อมา ศาลอุทธรณ์พลิกคดี ตัดสินลงโทษ 4 ปี

และในวันที่ 6 มิถุนายน 2555 นี้ จะมีการพิจารณาตัดสินคดีทั้ง 3 คนในชั้นศาลฎีกา  

นั่นทำให้หลายฝ่ายหันกลับไปศึกษาวิเคราะห์ถึงกรณีพิพาทเรื่องที่ดินลำพูน ระหว่างรัฐ นายทุนกับชาวบ้าน ว่าทำไมถึงเกิดปัญหาความขัดแย้งกันมายานนาน ทำไมที่ดินจึงตกกลายเป็นของนายทุน ทำไมชาวบ้านถึงเข้าไปยึดครอง และทำการปฏิรูปที่ดินชุมชนโดยชุมชน และทำไมกระบวนการยุติธรรมจึงมักตัดสินลงโทษเอาผิดชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนกลายเป็นที่มาของคำว่า คดีของคนจน คนจนล้นคุก แต่ทว่านายทุนกลับฮึกเหิมและรัฐกลับนิ่งเฉย?!

ล่าสุด ในบ่ายวันที่  31 พฤษภาคม 2555 นี้ ที่ ร้าน Book Re : public ริมคลองชลประทาน จะมีการจัดเวที Tea Talk  “15 ปี คดีที่ดินลำพูน อาชญากร  และกระบวนการยุติธรรม” ขึ้นโดยมีแกนนำชาวบ้านได้มาร่วมบอกเล่า ย้อนรอย 15 ปี  ที่ดินลำพูน : จุดเริ่มต้นการปฏิรูปที่ดินในปัจจุบัน โดย นายสุแก้ว ฟุงฟู นายรังสรรค์  แสนสองแคว และนายประยงค์  ดอกลำไย

หลังจากนั้น จะมี 4 นักวิชาการนำโดย อานันท์ กาญจนพันธ์  / ชยันต์ วรรธนะภูต/ฉลาดชาย รมิตานนนท์ และ ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี มาร่วมกันถกเสวนาเรื่อง “คดีที่ดินกับความเป็นอาชญากรในกระบวนการยุติธรรม”

ภายในงาน จะร่วมกันหารือเรื่องการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังและครอบครัวคดีที่ดิน เนื่องจากที่มาปัญหาคดีที่ดินนั้นกระทบต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวอย่างหนัก และการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือครั้งนี้  เป็นการนำเงินกองทุนไปช่วยเหลือทั้งผู้ต้องขังและครอบครัว  ซึ่งคนเหล่านี้ได้มีส่วนช่วยผลักดันนโยบายสาธารณะที่ดินและป่าไม้  ทั้งนี้เพื่อเป็นการประทังความเดือดร้อนของเกษตรกร แกนนำ และครอบครัว  ระหว่างที่การแก้ไขทางนโยบายยังดำเนินไป  โดยแผนการระดมทุนระยะเริ่มต้น จะนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งมาจัดทำสินค้าเพื่อการรณรงค์และเป็นการระดมทุนเพิ่ม เช่น เสื้อยืดรณรงค์ กระเป๋าผ้า หมวก และสินค้าที่จะเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้กำลังใจ รวมทั้งร่วมขับเคลื่อนการต่อสู้  การผลักดันการแก้ไขปัญหาการกระจายการถือครองที่ดินแก่เกษตรกรที่เป็นธรรมต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่า หากท่านใดอยากมีส่วนร่วมในการระดมทุนได้ โดยการโอนเงินสมทบกองทุนช่วยเหลือคดีที่ดิน ชื่อบัญชี ช่วยเหลือคดีที่ดิน เลขที่ 521-0-43383-8  ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนสุเทพ ประเภท ออมทรัพย์ หรือติดต่อที่ กป.อพช. ภาคเหนือ  เฉิดฉันท์ ศรีพานิช 086-9158704

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net