Skip to main content
sharethis
สศช.เผยภาวะสังคมไตรมาสแรกปีนี้ว่างงานแฝงมากขึ้น 
 
28 พ.ค. 55 - เลขาฯ สศช.แถลงภาวะสังคมไตรมาส 1 ปีนี้ พบการว่างงานแฝงมากขึ้น ผู้ประกอบการมีแนวโน้มย้ายฐานการผลิต หนี้สินครัวเรือนเพิ่มหลังน้ำท่วม คนไทยเครียดมากขึ้น เป็นโรคจากภัยบุหรี่ ซึ่งรัฐมีค่าใช้จ่ายดูแลมากกว่าภาษีบุหรี่ เตือนประชากรผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แรงงานทดแทนลดลง ต้องเร่งวางแผนกำลังคน 
  
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะสังคมไตรมาส 1 ปี 2555ว่า ภาพรวมการจ้างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เริ่มทยอยเรียกแรงงานให้กลับเข้าทำงานมา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ อัตราการว่างงานต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีผู้ว่างงาน 285,150 คน แต่พบการว่างงานแฝงมีมากขึ้นจำนวน 557,540 คน จำนวนนี้เป็นแรงงานรอฤดูกาล 445,785 คน แม้ค่าจ้างแรงงานและเงินเดือนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 แต่ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.4 ทำให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 นอกจากนี้เริ่มมีแนวโน้มผู้ประกอบการย้ายฐานการลงทุนไปจังหวัดที่อยู่ติดชาย แดน หรือไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ ดังนั้นรัฐบาลต้องหามาตรการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ 
  
นายอาคม กล่าวว่า หนี้สินครัวเรือน ปี 2555 มีตัวบ่งชี้หลายอย่างที่แสดงว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลังน้ำท่วมมีครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านเรือนและสินค้าจำเป็น ส่วนด้านการศึกษา ปัญหาเร่งด่วนคือคุณภาพการศึกษา ที่ผลคะแนนโอเน็ต ปี 2551-2554 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาหลักไม่ถึงร้อยละ 50 จะเป็นปัญหาและอุปสรรคในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เมื่อดูด้านสุขภาพพบว่าคนไทยมีแนวโน้มโรคเครียดเพิ่มขึ้น คนไทยปรึกษาด้านปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะปัญหาโรคเครียด 124,984 คน และยังพบว่าคนไทยใช้ยาเกินความจำเป็น 
  
นางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาฯ สศช.กล่าวถึงคดียาเสพติดว่า เริ่มลดลง แต่คดีประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงจะถูกทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้นจากคู่สมรสและแฟน เฉลี่ยทุก ๆ 1 ชั่วโมงจะมีผู้หญิงถูกทำร้าย 3 คน มีรายงานค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในประเทศไทยกับ รายรับของรัฐ พบว่าค่าใช้จ่ายเพียง 3 โรค ได้แก่ มะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด มีแนวโน้มสูงกว่ารายรับจากภาษีบุหรี่ เทียบสัดส่วนปี 2546 รายรับ 33,582 ล้านบาท ขณะที่รวมค่าใช้จ่าย 3 โรค 46,800 ล้านบาท 
  
นางสุวรรณี กล่าวอีกว่า ในปี 2553 ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.9 เป็นร้อยละ 25.1 ในปี 2573 ขณะที่วัยเด็กและวัยแรงงานลดลง ส่งผลให้วัยแรงงานต้องรับภาระดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การลดลงของประชากรวัยเด็กที่จะทำให้นักเรียนใน 10 ปีข้างหน้าลดลงทุกระดับชั้น จะเป็นโอกาสในการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนได้อย่างเข้มข้นมาก ขึ้น เพื่อให้คุณภาพคนที่สูงขึ้นช่วยทดแทนกำลังแรงงานที่ลดลง รัฐบาลต้องเร่งกำหนดทิศทางพัฒนาประเทศในอนาคต เปิดโอกาสการจ้างงานสตรีและผู้สูงอายุมากขึ้นเพื่อสร้างรายได้ ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต. 
 
(สำนักข่าวไทย, 28-5-2555)
 
ภูเก็ตยันถูกโรงแรมดังเลิกจ้างมีงานทำแน่นอน 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 55  น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยภายหลังการประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานของ จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 5/2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่าเป็นการประชุมเพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน โดยเฉพาะกรณีการเลิกจ้างพนักงานของโรงแรมดิเอวาซอน อ.เมืองภูเก็ต กับโรงแรมลากูน่าบีช อ.ถลาง ซึ่งสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้รายงานให้ทราบแนวทางการช่วยเหลือแรงงาน ให้มีงานทำ และมาตรการช่วยเหลือของจัดหางาน 
 
โดยเฉพาะจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไปประชุมร่วมกับนายจ้าง ที่มาเก๊าทราบว่ามีความต้องการแรงงานจำนวนประมาณ 300 ตำแหน่ง ประกอบกับตำแหน่งงานว่างของจังหวัดภูเก็ตซึ่งมีอยู่ประมาณ 5,000 ตำแหน่ง โดยจะได้มีการแจ้งผ่านทาง SMS ให้กับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างของทั้งสองโรงแรมให้ได้รับทราบ นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดภูเก็ตได้มีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนา ทักษะให้กับแรงงานอยู่แล้ว โดยผู้ว่างงานสามารถจะไปรับการฝึกอบรมและนำมาประกอบอาชีพอิสระได้ 
 
"ภาพรวมสถานการณ์แรงงานของจังหวัดภูเก็ตภาพรวมในปัจจุบันถือว่ายังขาด แคลนแรงงานค่อนข้างมาก โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะและมีความชำนาญ แต่การที่จะทำให้นายจ้างกับลูกจ้างพบกันและได้ความพอใจในการจ้างงานค่อนข้าง ยาก เนื่องจากอาจจะยังขาดจุดเชื่อมระหว่างกัน" 
 
ส่วนกรณีสถานประกอบการอ้างว่าประสบกับปัญหาขาดทุนและมีการขายกิจการให้ กับผู้ประกอบการรายใหม่ และมีความจำเป็นจะต้องเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ถือเป็นเทคนิคของผู้ประกอบการหรือไม่ ซึ่ง น.ส.สมหมาย กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีการสอบถามและตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ 
 
โดยขณะนี้ที่เป็นปัญหามี 2 แห่ง คือ โรงแรมดิเอวาซอน พบว่าประสบกับปัญหาขาดทุนจริงๆ จึงเลิกจ้าง ขณะที่โรงแรมลากูน่าบีชนั้นก็มีการเปลี่ยนผู้บริหารใหม่จริง ซึ่งในเรื่องของการประกอบธุรกิจการเปลี่ยนมือผู้บริการเป็นเรื่องธรรมดา แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ยังคงมีการติดตามว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น คืออะไรกันแน่เพื่อจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ส่วนตัวเชื่อว่าสถานประกอบการลักษณะดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น ด้วยสถานการณ์แรงงานที่มีปัญหาขาดแคลน ในส่วนของนายจ้างยังมีความต้องการลูกจ้างแต่ก็ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และมีทักษะ 
 
ขณะที่นายนพดล พลอยอยู่ดี จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานของมาเก๊า มีให้เลือกทั้งในคาสิโน โรงแรมและรีสอร์ท จำนวนรวมประมาณ 300 ตำแหน่งให้ผู้ว่างงานได้รับทราบแล้ว และมีการเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนสมัครทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2555 นี้ และจะมีเรียกสัมภาษณ์โดยหน่วยงานส่วนกลางที่กรุงเทพ และผู้ประกอบการในมาเก๊าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ผู้ที่ได้ รับการบรรจุเข้าทำงาน 
 
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งงานว่างในจังหวัดภูเก็ตอีกประมาณ 5,000 กว่าตำแหน่ง แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เห็นได้จากการเปิดนัดพบแรงงานย่อยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ประสบปัญหาถูกเลิกจ้างจากทั้งสองโรงแรมมายื่นใบสมัครประมาณ 20-30 รายเท่านั้น จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 400-500 คน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดได้อย่างหนึ่งว่า ภูเก็ตมีคนตกงานน้อยแต่ความต้องการแรงงานมีสูง ส่งผลให้ ผู้ประกอบการต้องดึงแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรง งานในสถานประกอบการ 
 
(คมชัดลึก, 29-5-2555)
 
"เจ็ทสตาร์" ฉาวหน่วยงานออสซี่เตรียมฟัน-กดค่าแรงแอร์โฮสเตสไทย 
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ว่า หน่วยงานผู้ตรวจการการทำงานอย่างเป็นธรรมของออสเตรเลีย เตรียมยื่นเรื่องเพื่อดำเนินคดีต่อสายการบิน"เจ็ทสตาร์"ภายหลังพบว่า สายการบินมีพฤติกรรมจ้างแอร์โฮสเตสสัญชาติไทยซึ่งถูกกดค่าแรง โดยได้รับค่าแรงเพียงครึ่งหนึ่ง ของแอร์โฮสเตสชาวออสเตรเลีย โดยหน่วยงานฯเตรียมจะเรียกร้องให้ศาลรัฐบาลกลางงกลางเลิกจ่ายค่าแรงต่ำกว่า เกณฑ์ดังกล่าว 
 
รายงานระบุว่า  คดีนี้เกี่ยวข้องกับตัวแทนจ้างงาน 2 แห่ง คือ บริษัท"วาลูแอร์"และทัวร์อีสต์"ยูไนเต็ด ของไทย ซึ่งเป็นผู้จัดหาแอร์โฮสเตสให้ทำงานพิเศษในเที่ยวบินภายในประเทศของสาย การบินเจ็ทสตาร์ซึ่งเป็นสายการบินประหยัด โดยหน่วยงานผู้ตรวจการฯต้องการให้วาลูแอร์ และทัวร์ อีสต์ ชำระเงินคืนให้แก่ลูกจ้างเจ็ทสตาร์ 8 ราย ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสชาวไทย เป็นเงินกว่า 7,500 ดอลลาร์ ที่พวกเขาติดค้างการชำระเงินแก่แอร์ฯเหล่านี้ รวมทั้งเตรียมใช้บทลงโทษต่อเจ็ทสตาร์ด้วย 
 
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา โฆษกของเจ็ทสตาร์กล่าวว่าสายการบินไม่ได้ใช้พนักงานแอร์ฯออสเตรเลียล้วน ๆ ในเที่ยวบินภายในประเทศ แต่ใช้แอร์โฮสเตสรวมจากประเทศอื่น ๆ และแอร์โฮสเตสเหล่านี้จะได้รับค่าแรงตามเงื่อนไขของเกณฑ์ค่าแรงที่พวกเธอได้ รับภายในประเทศของตัวเอง 
 
(ข่าวสด, 29-5-2555)
 
แรงงานมอลลิเก้ร้องกระทรวง นายจ้างตัดสวัสดิการ อ้างเหตุขึ้นค่าแรง 300 
 
30 พ.ค. 55 - สหภาพแรงงานมอลลิเก้เฮลท์แคร์ มีการประชุมปรึกษาหารือ ในกรณีที่ผู้บริหารโรงงานออกมาตรการปรับเปลี่ยนสภาพการจัดจ้างหรือโบนัส ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนงานเป็นจำนวนมาก โดยได้ข้อสรุปว่า จะรวมตัวกันไปยื่นหนังสือให้รัฐบาลรับทราบความเดือดร้อนในวันที่ 31 พ.ค. 55 เวลา 9.00 น. 
 
ณัฐปภัสร์ แก้วทอง ประธานสหภาพแรงงาน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในวันที่26 มี.ค. 55 บริษัทได้ออกประกาศขอปรับเปลี่ยนสภาพการจัดจ้างมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทางสหภาพก็ได้เจรจาและขอให้ยกเลิกไปตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 55 ทว่าเมื่อถึงวันที่  2  พ.ค. 55 บริษัทก็ได้ออกประกาศใหม่อีกรอบหนึ่ง โดยอ้างเหตุผลว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลที่ให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นอีกถึง40%  เมื่อนำมาตรการมาใช้ก็มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งคนงาน ลดสวัสดิการ คนงานได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น เนื่องจากมีรายได้ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นแรงงานที่ทำงานมานาน เช่น บางคนได้ค่าแรงเกือบ 300 บาท เมื่อบริษัทขึ้นค่าแรงให้ถึง 300 บาทตามนโยบายรัฐ แต่กลับไปตัดโบนัสลงมากๆ เช่น เคยได้โบนัส 6000 บาท ถูกตัดเหลือ 1000 บาท ก็ถือว่าไม่ได้อะไรเพิ่ม แล้วยังเสียประโยชน์อีกด้วย แต่ทางด้านแรงงานที่เพิ่งเริ่มงาน และมีรายได้น้อยกว่าเมื่อได้ขึ้นค่าแรงถึง 300 บาท ก็จะได้ประโยชน์ กลายเป็นว่า แรงงานใหม่หรือเก่าก็ได้ค่าจ้างเท่ากัน 
 
อย่างไรก็ตาม ณัฐปภัสร์เห็นว่านโยบายค่างแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาลนั้นเป็นสิ่งที่น่าพอใจแล้ว ซึ่งทางบริษัทไม่ควรจะนำมาเป็นข้ออ้างในการตัดลดสวัสดิการคนงานด้านอื่นๆ ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับว่า คนงานไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้นมาเลย 
 
ณัฐปภัสร์กล่าวว่า การหารือของทางสภาพในระยะนี้ยังเป็นไปด้วยความลำบากพอสมควร เนื่องจากถูกแทรกแซงจากบริษัทโดยตลอด บริษัทใช้วิธีการเจรจาแบบรายบุคคล เรียกพนักงานไปพูดคุยเป็นการส่วนตัว มีการบังคับข่มขู่คนงาน บังคับให้เซ็นยอมรับเงื่อนไขที่ทางบริษัทเสนอ ถ้าไม่เซ็นก็จะโยกย้าย หรือพักงาน โดยไม่มีการบังคับให้ออก แต่ก็มีพนักงานหลายคนที่ทนไม่ไหวลาออกไปเอง  นอกจากนี้บริษัทยังยื่นข้อเสนอว่าให้ทางสหภาพยอมรับเงื่อนไขที่กำหนดขึ้นมา เพราะไม่สามารถหามาตรการที่ดีกว่านี้  ดังนั้นทางสหภาพแรงงานจึงจะไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือไม่ให้ บริษัทเปลี่ยนแปลงสภาพการจัดจ้าง เพราะก่อนหน้านี้เคยยื่นหนังสือกับทางแรงงานจังหวัดแล้วก็ไม่มีความคืบหน้า 
 
(ประชาไท, 30-5-2555)
 
เผยมหาอุทกภัยปี 54 ทำแรงงานในกรุงเก่าถูกเลิกจ้างนับหมื่น 
 
30 พ.ค. 55 - นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา เรื่อง ความร่วมมือในการช่วยเหลือและฟื้นฟูแรงงานที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นายยงยุทธ เม่นตะเภา ประธานสหพันธ์ยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ 
       
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า จากวิกฤตการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหาย และผลกระทบกับทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคแรงงานซึ่งเป็นกำลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เป็นอีกภาคส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง วิกฤตอุทกภัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบแต่สถานประกอบการ หรือนายจ้างเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อลูกจ้างในฐานะผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำลังผลิตสำคัญต่างได้ รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า 
       
เมื่อสถานประกอบการต้องปิดตัวลง การหยุดงานเป็นเวลานาน ความไม่ชัดเจนของการจ่ายค่าจ้าง หรือแม้กระทั่งการเลิกจ้างเหล่านี้ ล้วนเป็นปัญหาที่รุมเร้าแรงงานตลอดช่วงที่เกิดอุทกกัย ทางกระทรวงก็ทราบดี แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่กระทรวง แต่อยู่ที่กฎหมายที่บังคับใช้ ซึ่งผู้ปฏิบัติก็อยากจะช่วยเหลือแรงงานที่เดือดร้อนอย่างเต็มที่ แต่ก็ลำบากใจในการที่จะเบิกจ่ายเพื่อช่วยเหลือแรงงาน เพราะกฎหมายได้กำหนดไว้แค่นั้น อันนี้ก็ต้องมาแก้ไขกฎหมายกันอีกที ทางกระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ใช้แรง งานเป็นอย่างดี จึงได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาเยียวยา เพื่อให้ความเดือดร้อนที่พี่น้องแรงงานได้รับผ่อนคลาย และดีขึ้น รวมทั้งมีการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ 
       
เช่น โครงการป้องกันและบรรเทาปัญหาการเลิกจ้าง โดยให้สถานประกอบการที่ปิดกิจการชั่วคราวเนื่องจากอุทกภัย ได้ลงนามทำข้อตกลงกับกระทรวงแรงงานว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง ขณะเดียวกัน ระหว่างที่หยุดพักกิจการ ก็ให้สถานประกอบการจ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกจ้าง 75% ของอัตราค่าจ้างที่ได้รับอยู่ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีงบประมาณจากรัฐบาลมาจ่ายช่วยเหลือสมทบให้ลูกจ้างอีก 2,000 บาท 
       
โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน โดยให้กระทรวงแรงงานประสานกับทางผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ยังไม่ประสบ อุทกภัยที่มีตำแหน่งงานว่าง และสามารถรับลูกจ้างเข้าไปทำงานได้ ให้ช่วยรับลูกจ้างที่สถานประกอบการประสบอุทกภัย ให้เข้ามาทำงานเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานประกอบการพื้นที่อุทกภัยสามารถดำเนินกิจการได้แล้ว 
       
โครงการผู้ประกันตนในกรณีอุทกภัย โดยจัดสรรเงินให้ลูกจ้างผู้ประกันตนกู้เงินเพื่อไปซ่อมแซมบ้านเรือนของตนเอง หรือบ้านพ่อแม่ที่เสียหายจากเหตุอุทกภัยรายละไม่เกิน 50,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อปี คงที่ 2 ปี 
       
มหาอุทกภัยครั้งนี้ ทำให้สถานประกอบการบางแห่งไม่สามารถเปิดกิจการได้ มีลูกจ้างที่ยังไม่ได้รับกลับเข้าทำงานอีกจำนวนมาก ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแรงงานถูกเลิกจ้างหลักหมื่น กระทรวงแรงงานตระนักถึงความทุกข์ของแรงงาน และหาทางบรรเทาความเดือดร้อนตามสถานกาณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้จัดเวทีเสวนาขึ้นในวันนี้ เรื่องความร่วมมือในการช่วยเหลือ และฟื้นฟูแรงงานที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อสร้างความร่วมมือในการแก้ปัญหาร่วมกับผู้ใช้แรงงานในฐานะผู้ประสบปัญหา 
 
(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 31-5-2555)
 
ล็อกซเล่ย์แห้วรปภ.แอร์พอร์ตลิงก์ พิษขอขึ้นค่าแรง 300 บาท บ.โนเนมเสนอราคาถูกกว่า 
 
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดประกวดราคาเพื่อคัดเลือกบริษัทรักษาความปลอดภัยภายในรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงก์ปรากฏว่าบริษัทที่ชนะการประกวดราคา คือ บริษัท ว.วัชระ ซิเคียวริตี้ จำกัด ร่วมกับบริษัท อินทรีย์ โกลด์ จำกัด โดยเสนอราคาที่ 3 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 15 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 5 เดือน ต่ำกว่าถึง 11.7% เทียบกับบริษัท เอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (เอเอสเอ็ม) ในเครือบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่สัญญาเดิมที่เสนอราคา 17 ล้านบาท โดยบริษัท ว.วัชระ ซิเคียวริตี้ฯ จะเริ่มเข้าดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 ตุลาคม 2555 
 
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเปิดประมูลใหม่เนื่องจากเอเอสเอ็มขอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามนโยบายรัฐบาล จาก 210 บาท เป็น 300 บาทต่อวัน จึงทำให้ค่าจ้างรวมเพิ่มขึ้นจาก 2.62 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 3.3 ล้านบาทต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 39.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากทำให้บริษัทไม่สามารถปรับขึ้นราคาให้ได้ เพราะถึงแม้ค่าจ้างบริษัทใหม่จะมากกว่าเดิม แต่ก็ยังต่ำกว่าที่เอเอสเอ็มขอปรับขึ้นมาก ขณะเดียวกันยอมรับว่าคุณภาพของบริษัท ว.วัชระฯ อาจจะด้อยกว่าเอเอสเอ็ม เพราะเป็นบริษัทเล็ก แต่จะพยายามควบคุมและประเมินประสิทธิภาพการทำงานตามสัญญาที่กำหนดอย่างต่อ เนื่อง เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการให้บริการแน่นอน 
 
"สำหรับค่าจ้างที่ยังค้างจ่ายเอเอสเอ็มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554-เมษายน 2555 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาตามเงื่อนไขสัญญา ซึ่งมีประเด็นเรื่องของหายที่ต้องตีความในสัญญาว่าใครจะรับผิดชอบ และต้องมีการเสนอขออนุมัติไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะบริษัทแม่ด้วย ทำให้ขั้นตอนค่อนข้างล่าช้า ล่าสุดงวดเดือนพฤศจิกายน 2554-กุมภาพันธ์ 2555 ผ่านการพิจารณาแล้วอยู่ระหว่างการจ่ายเงินค่าจ้าง 10.5 ล้านบาท ส่วนงวดเดือนมีนาคม และเมษายน 2555 ผ่านการตรวจสอบแล้วเช่นกัน" 
 
นายกาญจน์ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ เอเอสเอ็ม กล่าวว่า ราคาที่เอเอสเอ็มเสนอไป ประเมินจากค่าแรงที่ปรับขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพการให้บริการ เนื่องจากหลักเกณฑ์ของงานรักษาความปลอดภัยจะเน้นคุณภาพการทำงานมากกว่าราคา เมื่อไม่ได้รับการคัดเลือกก็ไม่เป็นไร 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เอเอสเอ็มเคยเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทตามนโยบายของรัฐบาล ที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แต่ทางแอร์พอร์ตลิงก์ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่มีหนังสือยืนยันจากกระทรวงการคลังให้หน่วยงานราชการปรับขึ้นค่าแรง ขั้นต่ำ ขณะเดียวกันทางบริษัทก็ยังไม่มีบอร์ดเข้ามาดำเนินงาน จึงยังไม่สามารถพิจารณาให้ได้ 
 
(มติชนออนไลน์, 1-6-2555)
 
คนงาน "มอลลิเก้" บุกกระทรวงจี้รัฐ คุยนายจ้าง อย่าอ้าง "300" ตัดสวัสดิการ
 
(1 มิ.ย.55) คนงานสหภาพแรงงานมอลลิเก้ เข้าพบ สาโรจน์ ศิรวัชรินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้ง และ สมภพ มาลีแก้ว นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ สำนักแรงงานสัมพันธ์ เพื่อร้องเรียนปัญหานายจ้างลดสวัสดิการ รวมถึงเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสภาพการจ้างโดยพลการ
 
ณัฐปภัสร์ แก้วทอง ประธานสหภาพแรงงานมอลลิเก้เฮลท์แคร์ กล่าวว่า ความเดือดร้อนนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายจ้างทำหนังสือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสภาพการจ้าง ซึ่งมีการลดการจ่ายโบนัสและค่าตัดชิ้นงาน มาให้พนักงานแต่ละคนเซ็น โดยให้เหตุผลว่า นโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทนั้นทำให้บริษัทต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 40% จึงต้องลดสวัสดิการคนงานลง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสภาพการจ้างดังกล่าวทำโดยไม่ได้คุยกับสหภาพแรงงานโดย ตรง สหภาพฯ จึงได้ทำหนังสือคัดค้านและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรง งานสมุทรปราการเข้ามาไกล่เกลี่ย ทำให้บริษัทยกเลิกประกาศดังกล่าวไป แต่ต่อมายังคงมีความพยายามกดดัน ข่มขู่พนักงานเป็นรายบุคคลให้เซ็นยินยอมรับการตัดลดค่าจ้างสวัสดิการ ทั้งยังมีการย้ายพนักงาน 13 คนที่ไม่ยอมเซ็นไปอยู่ในตำแหน่งงานที่ไม่ตรงกับทักษะ
 
ณัฐปภัสร์ กล่าวว่า สหภาพแรงงานฯ จึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานเร่งพูดคุยกับนายจ้าง เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยหยุดเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง หยุดกลั่นแกล้งพนักงานที่ไม่ยอมลงลายมือชื่อด้วยการโยกย้ายให้ไปทำงานในจุด ต่างๆ และหยุดสร้างแรงกดดันด้วยวิธีการเรียกเข้าพบ ข่มขู่ คุกคาม เลือกปฏิบัติ
 
"เอกสาร ของบริษัทได้รายงานว่าในปี 2553 บริษัทมีรายได้จากผลประกอบการทั่วโลก 949 ล้านยูโร จ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานทั่วโลกทุกระดับเพียง 156 ล้านยูโร จากพนักงาน 7,000 คน ที่มีอยู่ทั่วโลก" แถลงการณ์ของสหภาพฯ ระบุ
 
เยาวภา ดอนเส จากสหพันธ์แรงงานนานาชาติกิจการเคมีภัณฑ์, พลังงาน, เหมืองแร่, แรงงานทั่วไปในประเทศไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานคุยกับนายจ้างให้เคารพกฎหมายไทย พร้อมชี้ว่า มอลลิเก้เป็นบริษัทอันดับ 5 ของโลกในกิจการเสื้อผ้าห้องผ่าตัด และมีโรงงานผลิตใน 9 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เบลเยี่ยม สาธารณรัฐเช็ค โปแลนด์ ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส มาเลเซีย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งล้วนแต่มีค่าจ้างสูงกว่าประเทศไทยทั้งสิ้น นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้หยุดกดดันคนงานด้วย เพราะที่ผ่านมา มีการกดดันโดยย้ายงาน อาทิ จากแผนกบรรจุหีบห่อไปทำแผนกซ่อมบำรุง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายจากการทำงานได้
 
ก่อน หน้านี้ เวลา 9.00น. คนงานจากสหภาพแรงงานมอลลิเก้กว่า 30 คนได้เดินขึ้นอาคารกระทรวงแรงงานไปจนถึงชั้น 6 ซึ่งเป็นที่ทำการสำนักรัฐมนตรี เพื่อขอพบนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานได้เจรจาให้หยุดการใช้เสียง โดยอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้าม ต่อมา 10.55 น. ทางสหภาพตัดสินใจส่งตัวแทนเข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานที่ เกี่ยวข้อง
 
สำหรับ บริษัทมอลลิเก้ เฮลท์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำการผลิตเสื้อคลุมแพทย์ผ่าตัด ผ้าคลุมผ่าตัด แขนเสื้อชนิดพิเศษ กางเกงชุดผ่าตัด มีพนักงานประจำราว 1,500 คน เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน 600 คน
 
(ประชาไท, 1-6-2555) 
 
ขอนแก่นพร้อมปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท 
 
นายสมชาย วงษ์ทอง รองอธิบดีกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยในการเป็นประธานการอบรมหลักสูตรที่ปรึกษาด้านแรงงานสัมพันธ์ รุ่นที่138 ที่โรงแรมประตูน้ำ จ.ขอนแก่น ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนให้แรงงานมีรายได้ไม่น้อยกว่าวันละ 300 บาท โดย จ.ขอนแก่น ได้ปรับค่าจ้างจากวันละ 167 บาท ปรับเป็นวันละ 233 บาท มีผลตั้งแต่เดือน เม.ย. 2555 เป็นต้นมา นั้น ปรากฏว่ามีลูกจ้างได้รับผลกระทบจากสถาบันประกอบกิจการบางแห่งอาจมีการลด หรือ เลิกจ้าง และจัดสวัสดิการแรงงานบางประเภท โดยไม่ได้รับการยินยอมจากลูกจ้าง จึงทำให้เกิดการร้องเรียน หรือ หยุดงาน เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบแก่จังหวัดขอนแก่นและภาคอุตสาหกรรมในการส่งเสริมให้ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้าลงทุนในอนาคต 
 
ดังนั้นเพื่อลดลดความขัดแย้งจึงได้มีการสร้างกิจกรรมส่งเสริมแรงงาน สัมพันธ์ให้แก่นายจ้างและลูกจ้างโดยการใช้ระบบทวิภาคีในการเจรจาต่อรอง แก้ไขปัญหา ตลอดจนให้ความสำคัญในระบบแรงงานสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำ ในจังหวัดขอนแก่นปรับอยู่ที่ วันละ 233 บาท ส่วนการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ วันละ 300 บาทต่อวัน นั้น คาดว่า ในส่วน จ.ขอนแก่น จะเริ่มปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำในต้นปีหน้าแน่นอน 
 
(แนวหน้า, 2-6-2555)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net