Skip to main content
sharethis

เครือข่ายประชาชนล้อมศาลากลางลำพูน จวกพ่อเมืองไม่รักษาคำมั่นที่ออกมารับหนังสือ-ลั่นวาจาจะทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์สื่อสารข้อเรียกร้องการเจรจาปัญหาชาวบ้าน ด้านคดีที่ดินลำพูนสิ้นสุดหลังคดียื้อมากว่า 15 ปี

 
 
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.55 เวลาประมาณ 14.00 น. ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน ในขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P move ขึ้นเวทีปราศรัยบนรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง หลังนำสมาชิกกว่า 800 คนร่วมกันปิดล้อมบริเวณทางเข้าอาคารศาลากลางจังหวังลำพูน พร้อมชี้แจงเหตุผลว่า นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนไม่ปฏิบัติตามที่รับปากไว้ แสดงให้เห็นว่าไม่ใส่ใจที่จะร่วมแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน ตามที่ ขปส.ได้เรียกร้องขอให้มีการเจรจา 
 
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.55 เครือข่ายภาคประชาชนได้ยื่นหนังสือ ถึงนายงานยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เพื่อให้รัฐบาลเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการกับ ขปส. เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งนายสุรชัยได้ออกมารับหนังสือพร้อมรับปากจะประสานไปยังนายกรัฐมนตรี
 
ข้อเรียกร้องตามหนังสือดังกล่าวมี 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.การเร่งรัดแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนชุมชนในคณะกรรมการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์กรมหาชน) 2.การดำเนินการโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 5 ชุมชน ตามมติ ครม.22 ก.พ.55 และ 18 มี.ค.54 3.การผลักดัน พ.ร.บ.การรับรองสิทธิที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน ตามนโยบายรัฐที่แถลงต่อสภา โดยในระหว่างที่กฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ ให้ดำเนินการระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ.2553 และ พ.ศ.2555
 
4.เร่งรัดแก้ไขกฎหมายป่าไม้ทั้ง 5 ฉบับ ให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญในหมวดว่าด้วยสิทธิชุมชน และแนวทางในการยุติการฟ้องร้อง การดำเนินคดีโลกร้อน 5.เร่งรัดการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่ ขปส.ได้ยื่นต่อรัฐบาลไว้แล้ว
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีการยื่นหนังสือ ขปส.ได้ปักหลักพักค้างคืนภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดพูน เพื่อรอขอรับทราบคำตอบจากรัฐบาลผ่านทางผู้ว่าฯ ภายในวันที่ 6 มิ.ย. 55 ก่อนเวลา 12.30 น. แต่กลับไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ดังนั้นในช่วงบ่ายจึงกลับเข้ามาทวงคำตอบถึงหน้าศาลากลางอีกครั้ง หลังจากที่ได้เดินทางไปร่วมให้กำลังใจต่อแกนนำในคดีที่ดินลำพูน ตามที่ศาลจังหวัดลำพูนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการปิดล้อมบริเวณทางเข้าอาคารศาลากลางจังหวังลำพูน และได้เกิดการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ 2-3 ครั้ง บริเวณหน้าประตูทางเข้าอาคาร
 
กระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. นายสุรชัยได้ออกมาพบปะกับผู้ชุมนุมพร้อมนำหนังสือที่ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีส่งแฟกซ์มายังผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมยื่นข้อเรียกร้องของ ขปส.ตามหนังสือที่ นร.0105/5122 ลงวันที่ 6 มิ.ย.55 ชี้แจงมาชี้แจงด้วย
 
 
สำหรับหนังสือดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้ ตามที่ ขปส. ชุมนุมที่จังหวัดลำพูน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของ ขปส. และขอแต่งตั้งผู้แทนเข้าพบนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อเจรจาแก้ไขปัญหาในเรื่องเร่งด่วนของ ขปส. รวม 5 ข้อ อีกครั้งหนึ่งนั้น
 
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดให้ผู้แทนของ ขปส.เข้าพบเพื่อเจรจาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในวันที่ 20 มิ.ย.55 เวลา13.00 น. ณ ห้องรับรองศาลาว่าการทระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อผู้ชุมนุมรับทราบข้อมูลตามหนังสือของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็พึงพอใจ และแยกย้ายกันเดินทางกลับภายในเย็นวันเดียวกัน
 
ทั้งนี้ ในส่วนการอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ในความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ หรือคดีที่ดินลำพูน ที่มีจำเลยคือ นายประเวศ ปันป่า นายสืบสกุล กิจนุกร และ นายรังสรรค์ แสนสองแคว โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ จำคุกนายประเวศ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนอีก 2 แกนนำยกฟ้องด้วยเหตุที่หลักฐานไม่มีน้ำหนัก
 
ด้านนายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษา ขปส.กล่าวว่า ยังมีคดีที่ดินในลักษณะเดียวกันนี้อีกกว่าร้อยคดี และจะมีคดีที่จะตัดสิ้นในปีนี้อีกสองคดี ดังนั้นการพิพากษาชั้นฎีกาครั้งนี้ถือเป็นเพียงชัยชนะขั้นแรกเท่านั้น เพราะฉะนั้นพี่น้องจึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป ในการที่จะให้รัฐบาลต้องลงมาเจรจาร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อหาข้อยุติของปัญหาที่สั่งสมมาอย่างยาวนานให้คลี่คลาย และเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดี ความเป็นธรรม และความถูกต้อง
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net