Skip to main content
sharethis

ปมขัดแย้งสวนป่าโคกยาว ศาลจังหวัดภูเขียวตัดสิน 2 พ่อลูก รุกเขตป่าสงวนฯ ภูซำผักหนาม ให้จำคุก 4 เดือน ไม่รอลงอาญาตั้งวงเงินประกันไว้ 200,000 บาทต่อคน ชาวบ้านระดมเงินช่วยแต่ไม่พอจ่าย ประกันได้แค่ลูกชายที่พิการทางสมอง

 
 
 
วันนี้ 13 มิ.ย.55 ที่ศาลจังหวัดภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาคดีบุกรุกสวนป่าโคกยาว ให้จำเลยคือนายทอง กุลหงส์ และนายสมปอง กุลหงส์ สองพ่อลูกชาวบ้าน ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ และสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) มีความผิดข้อหาบุกรุก แผ้วถาง ก่นสร้าง และทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม จ.ชัยภูมิ โดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษจำคุก 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวศาลได้ตั้งวงเงินประกันไว้ 200,000 บาทต่อคน ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่พยายามรวบรวมเงินประกันตัวจำเลยทั้ง 2 คน แต่ไม่เพียงพอ จึงต้องเลือกประกันตัวนายสมปองออกมาก่อนเนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรงและมีปัญหาพิการทางสมอง ส่วนนายทองผู้เป็นพ่อต้องถูกจำคุก อย่างไรก็ตามมีการหารือกันว่าจะพยายามหาหลักทรัพย์มาประกันนายทองต่อไป
 
นายศรายุทธ ฤทธิพิณ สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) กล่าวว่า การกำหนดหลักทรัพย์ประกันตัวในคดีนี้เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นชาวบ้านคนจนธรรมดา ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และหาเก็บเห็ด หน่อไม้ เพื่อยังชีพไปวันๆ ไม่สามารถจ่ายได้ ส่วนเงินที่ชาวบ้านช่วยเหลือรวบรวมกันมาได้ก็ไม่พอจ่าย ผู้เป็นพ่อคือนายทองจึงจำต้องเสียสละนอนอยู่ในคุก เพื่อให้ลูกชายได้รับประกันตัวออกมา 
 
อนึ่ง คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 ก.ค.54 นายประทีป ศิลปะเทศ นายอำเภอคอนสารร่วมกับเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ อส.จำนวนกว่า 200 นาย สนธิกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่บริเวณพิพาทสวนป่าโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ และควบคุมตัวชาวบ้านจำนวน 10 คน ไปที่สถานีตำรวจภูธรห้วยยาง เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหาบุกรุก แผ้วถาง ก่นสร้าง และทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเขียว ต่อมามีการสั่งฟ้องชาวบ้านทั้ง 10 รายโดยจำแนกเป็น 4 คดี
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 พ.ค.55 นายคำบาง ทองทุย และนางสำเนียง ทองทุย สองสามี-ภรรยา จำเลย 1 ใน 4 คดี ได้ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมให้ออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ หลังจากนั้นชาวบ้านในพื้นที่ได้รวบรวมเงินที่ได้จากการจำนองที่ดินมาประกันตัวจำเลยทั้ง 2 คน คนละ 100,000 บาท เพื่อออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม ในกรณีเดียวกันนี้ ยังมีชาวบ้านอีก 6 คน ใน 2 คดี ที่อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษา
 
ทั้งนี้ พื้นที่สวนป่าโคกยาวเป็นพื้นที่พิพาทและมีกระบวนการแก้ไขปัญหามายาวนาน ซึ่งชาวบ้านพยามยามต่อสู้โดยยืนยันว่าอยู่มาก่อนการประกาศเขตป่าสงวน โดยป่าโคกยาวถูกประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม เมื่อปี 2516 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2.9 แสนไร่ และมีโครงการปลูกสวนป่ายูคาลิปตัสทดแทนพื้นที่สัมปทาน เมื่อปี 2528 ก่อนที่จะมีมติ ครม.ปี 2553 เห็นชอบให้ชาวบ้านเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัสได้โดยไม่มีการข่มขู่ กักขัง ดำเนินคดีในระหว่างการแก้ไขปัญหา
 
นอกจากนั้น เมื่อปี พ.ศ.2548 คณะทำงานตรวจสอบพื้นที่ที่มีนายธนโชติ ศรีกุล ปลัดอาวุโสอำเภอคอนสารเป็นประธาน ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถือครองทำประโยชน์ที่ดิน และการสำรวจรังวัดพื้นที่ กระทั่งมีมติว่าสวนป่าโคกยาวได้สร้างผลกระทบต่อชาวบ้านที่ถูกอพยพ ขับไล่ออกจากพื้นที่จริง และให้ดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านผู้เดือดร้อน
 
ต่อมาคณะอนุกรรมการสิทธิที่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีรายงานผลการละเมิดสิทธิ โดยมีมติว่าการปลูกสร้างสวนป่าโคกยาวได้ละเมิดสิทธิในที่ดินของผู้ร้อง และให้ยกเลิกสวนป่าโคกยาว ทั้งนี้ ในระหว่างการแก้ไขปัญหาจนกว่าจะได้ข้อยุติ ให้ราชการผ่อนผันให้ราษฎรผู้เดือดร้อน สามารถทำกินในระหว่างร่อง แถวของสวนป่าไปพลางก่อน จากนั้น นายก อบต.ทุ่งลุยลาย ได้มีหนังสือไปยังผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา เพื่อขอให้ราษฎรผู้เดือดร้อนสามารถเข้าทำประโยชน์ที่ดินในพื้นที่พิพาท โดยทำกินในระหว่างร่องระหว่างแถวของสวนป่า จนกว่าการแก้ไขปัญหาจะได้ข้อยุติ
 
อีกทั้ง เมื่อวันที่ 18 เม.ย.54 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีพื้นที่ป่าไม้ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย โดยมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ป่าไม้ ทั้งสิ้น 9 กรณี โดยมีกรณีสวนป่าโคกยาวรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันการดำเนินการแก้ไขปัญหายังไม่มีความคืบหน้า
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net