Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

การปฏิวัติ ๒๔๗๕ นำโดย อ.ปรีดี พนมยงค์ และคณะราษฎร์ เป็นความพยายามอันสำคัญยิ่งในการปลดแอกพลเมืองไทยจากระบบเผด็จการของกษัตริย์และในการสร้างระบบรัฐสวัสดิการตามแนวคิด “เค้าโครงเศรษฐกิจ” ของ อ.ปรีดี แต่ในไม่ช้าฝ่ายปฏิกิริยาก็เข้ามาทำการปฏิวัติซ้อน ช่วงชิงเป้าหมายของการปฏิวัติไปสู่ระบบเผด็จการของทหารและนายทุน ภายใต้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม และต่อมาฝ่ายทหารคลั่งเจ้า นำโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็สามารถสถาปนาระบบเผด็จการที่อ้างว่าเชิดชูสถาบันกษัตริย์ แต่เชิดชูเพื่อสร้างความชอบธรรมกับตนเองเท่านั้น กลุ่มอำนาจของชนชั้นปกครองกลุ่มใหม่นี้ ชาวเสื้อแดงเรียกตามภาษาชาวบ้านว่า “อำมาตย์” อย่างไรก็ตามจงเข้าใจไว้ว่าระบบนี้ไม่ใช่การกลับมาของระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่เป็นเผด็จการใหม่ของนายทุนและทหารที่แอบอ้างว่าปกป้องสถาบันกษัตริย์

หลายครั้งในประวัติศาสตร์ของสังคมเรา พลเมืองที่รักประชาธิปไตยได้ลุกขึ้นต่อสู้กับอำมาตย์ และสละเลือดเนื้อเพื่อเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็น ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖, ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙, พฤษภาคม ๒๕๓๕ หรือ พฤษภาคม ๒๕๕๓ บางครั้งฝ่ายประชาชนชนะและเสรีภาพก็คืบหน้าไปบ้าง เราสร้างพื้นที่ประชาธิปไตยได้ระดับหนึ่ง ซึ่งฝ่ายตรงข้ามทำลายได้ไม่หมด แต่ทุกครั้งฝ่ายชนชั้นปกครองมือเปื้อนเลือดก็พยายามปกป้องอำนาจของตนเอง ล่าสุดก็เช่นกัน ชนชั้นปกครองซีกที่สนับสนุนการทำรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ กำลังจับมือกับซีกชนชั้นปกครองของพรรคเพื่อไทย และทักษิณ ชินวัตร เพื่อรักษาเสถีรภาพของชนชั้นตนเองผ่านการปรองดองบนซากศพวีรชน โดยจงใจทอดทิ้งนักโทษการเมืองเสื้อแดง โดยเฉพาะนักโทษ 112 และการปรองดองบนซากศพวีรชนครั้งนี้ ไม่ต่างจากกรณีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์นองเลือดที่ตากใบด้วย เพราะเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองมือเปื้อนเลือดทุกคนจะลอยนวลได้ดิบได้ดีเสมอ

ตราบใดที่ประเทศไทยยังมีกฎหมาย 112 และกฏหมายคอมพิวเตอร์ ตราบใดที่สังคมเราไม่ลบล้างผลพวงของรัฐประหารและอิทธิพลอันไม่ชอบธรรมของทหารในการเมืองออกจากสังคม ตราบใดที่เราไม่ปฏิรูประบบศาลอย่างถอนรากถอนโคน และตราบใดที่พลเมืองส่วนใหญ่มีสภาพความเป็นอยู่ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่ต้อยต้ำกว่าชนชั้นปกครอง เพราะเราไม่มีระบบรัฐสวัสดิการ บ้านเมืองของเราจะไม่มีประชาธิปไตย และความฝันของคณะราษฎร์ซีกก้าวหน้าจะไม่มีวันเป็นจริง

เพื่อนๆ ชาวประชาธิปไตยที่รักและเคารพ บัดนี้มันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย และ นปช. ไม่ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเสมอภาค แต่พรรคเพื่อไทยเข้าไปจับมือเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นปกครอง ในขณะที่ นปช. ทำหน้าที่เป็น “ตำรวจ” ของขบวนการประชาธิปไตยเพื่อสลายการต่อสู้

“องค์กรเลี้ยวซ้าย” มองว่าภาระสำคัญของ “เสื้อแดงก้าวหน้า” คือการรวมตัวกันเป็นพรรคการเมืองในรูปแบบ “พรรคเคลื่อนไหว” ที่ไม่เน้นการเลือกตั้งและเวทีรัฐสภา เราควรมีพรรคของนักเคลื่อนไหว อย่างที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเคยเป็น แต่เราจะไม่เข้าป่าจับอาวุธในการต่อสู้ เราจะเน้นการจัดตั้งพลังมวลชนแทน บทเรียนจากความพ่ายแพ้ของ พคท. และชัยชนะของมวลชนอียิปต์และตูนีเซียในตะวันออกกลาง เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับโลกสมัยนี้ รวมถึงความสำคัญของการจัดตั้งสหภาพแรงงานและชนชั้นผู้ทำงานในรูปแบบที่เน้นการเมืองก้าวหน้า ถ้าเราไม่รวมตัวกันอย่างแน่นแฟ้น เหมือนที่ชนชั้นปกครองรวมตัวกันอยู่ การเคลื่อนไหวของเราจะอ่อนแอดุจการนำน้ำมาสาดก้อนหิน แต่ถ้าเรามีพรรคของนักเคลื่อนไหว เราจะเหมือนฆ้อนที่ทุบอำนาจเผด็จการได้

ในระยะสั้น จุดยืนและการทำงานของพวกเราต้องเน้นการสนับสนุนให้ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์เป็นจริง เน้นการรณรงค์ให้ยกเลิกกฏหมายเผด็จการอย่าง 112 เน้นการปล่อยนักโทษการเมือง และเน้นการสร้างสังคมที่เท่าเทียมผ่านรัฐสวัสดิการ

ประชาชนจงเจริญ! สังคมนิยมจงเจริญ!

องค์กรเลี้ยวซ้าย

22 มิถุนายน 55

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net