Skip to main content
sharethis

แถลงการณ์ด่วน! เครือข่ายประมงพื้นบ้าน และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านทรัพยากรทางทะเล 17 องค์กร คัดค้านการพิจารณาผ่อนผันการจดทะเบียนเรือประมงอวนลากที่ผิดกฎหมาย หวั่นแย่งชิงทรัพยากรชายฝั่ง-ทำลายทะเลเสื่อมโทรม

 
18 ก.ค.55 เครือข่ายประมงพื้นบ้าน และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านทรัพยากรทางทะเล 17 องค์กร ออกแถลงการณ์ด่วนคัดค้านการพิจารณาผ่อนผันการจดทะเบียนเรือประมงอวนลากที่ผิดกฎหมาย โดยมีใจความสำคัญระบุว่า กรมประมงและรัฐบาลบิดเบือนเจตนารมณ์ของสหภาพยุโรปดำเนินการผ่อนผันให้มีการจดทะเบียนเครื่องมือประมงอวนลากที่ผิดกฎหมายให้กลับมาใช้ได้อีก โดยอ้างผลการศึกษาว่าทะเลไทยสามารถเพิ่มปริมาณเรืออวนลากได้อีกถึง 2,107 ลำการกระทำดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนผิดเป็นถูก และจะสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรและชาวประมงอื่นๆ อย่างมาก
 
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ทางเครือข่ายๆ ได้ทำการคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวต่อกรมประมงตามขั้นตอน แต่กรมประมงกลับชี้แจงโดยสรุปว่าจะดำเนินการต่อไปและส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว และในวันที่ 18 ก.ค.55 นี้กรมประมงได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาการผ่อนผันการจดทะเบียนอวนลากขึ้นอีก โดยได้เชิญตัวแทนของชาวประมงพื้นบ้าน ให้มาเผชิญหน้ากับตัวแทนของกลุ่มทุนผู้ประกอบการประมงอวนลากที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งทางเครือข่ายเห็นว่าการจัดการทรัพยากรประมงไม่ใช่เรื่องของการแบ่งปันผลประโยชน์ และจะใช้วิธีการจัดให้คนสองกลุ่มมาตกลงกันไม่ได้
 
“เราเห็นว่าการผ่อนผันการจดทะเบียนอวนลากและการจัดประชุมในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม และจะเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นอีก เรายืนยันว่าจะคัดค้านการผ่อนผันการจดทะเบียนเรืออวนลากที่กระทำผิดกฎหมาย ไม่ให้กลับมาจดทะเบียนถูกกฎหมายอีก” แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุ
 
นอกจากนั้น แถลงการณ์เครือข่ายฯ ยังประกาศว่า จะไม่ร่วมกับกรมประมงในการพิจารณากรณีผ่อนผันการจดทะเบียนเรืออวนลากในทุกกรณี และเรียกร้องให้กรมประมงเปิดเผย ผลการศึกษาวิจัยทางวิชาการที่กล่าวอ้างว่าทะเลไทย สมควรเพิ่มเครื่องมือประมงอวนลากได้อีกกว่า 2,000 ลำ ต่อสาธารณชน ได้รับทราบทั่วกัน
 
 
 
แถลงการณ์ด่วน
คัดค้านการพิจารณาผ่อนผันการจดทะเบียนเรือประมงอวนลากที่ผิดกฎหมาย
 
เรียน ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชนผ่านสื่อมวลชน
 
ทะเลไทยเป็นแหล่งทำการประมงที่สำคัญ และเป็นแหล่งอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง แต่เมื่อมีเครื่องมือประมงบางประเภทเกิดขึ้นทำให้ทะเลไทยเกิดความเสื่อมโทรมลงอย่างมาก มีผลการศึกษาวิจัยที่ชัดเจนว่า การทำประมงด้วยเครื่องมือประมงอวนลาก ได้ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำขนาดเล็กมากเกินไป และเป็นเครื่องมือที่ทำลายระบบนิเวศจนในหลายประเทศเริ่มห้ามมิให้ใช้เครื่องมือชนิดนี้ทำการประมง
 
หน่วยงานFAO (Food and Agriculture Organization of the United Nations) ร่วมกับกรมประมงทำการศึกษาเรื่องการจัดการกำลังผลิตของการทำประมงทะเลในน่านน้ำไทยในปี พ.ศ. 2547 และเสนอผลการศึกษาไว้ว่าเพื่อคงไว้ซึ่งศักยภาพการผลิตสูงสุดของสัตว์หน้าดินการทำประมงสัตว์หน้าดินในอ่าวไทยซึ่งส่วนใหญ่จับโดยอวนลากต้องลดลงอีก40%
 
ประเทศไทยเองก็มีนโยบายในการควบคุมเครื่องมือประมงประเภท อวนลาก มาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2515 โดยห้ามไม่ให้เครื่องมือชนิดนี้เข้ามาทำการประมงในระยะสามพันเมตรจากชายฝั่ง และต่อมา ก็มีนโยบายควบคุมจำนวนเครื่องมือประมงอวนลากไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้นอีกตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 เป็นต้นมา และควบคุมให้ค่อยๆลดจำนวนลง แม้กระนั้นก็ยังมี กลุ่มทุนบางกลุ่มได้ลักลอบทำอวนลากอย่างผิดกฎหมาย ทำร้ายชุมชน-ท้องทะเล จนเป็นเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ล่าสุดสหภาพยุโรปได้ออกมาตรการIUU (Illegal, unreported and unregulated) Fishing เพื่อส่งเสริมให้ประเทศที่ส่งสินค้าเข้าสหภาพยุโรปปรับปรุงระบบการจัดการประมงของประเทศตนให้เกิดการทำประมงอย่างรับผิดชอบเพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
 
กรมประมงและรัฐบาล กลับการบิดเบือนเจตนารมณ์ของสหภาพยุโรปด้วยการนำมาเป็นข้ออ้าง ในการดำเนินการผ่อนผันให้มีการจดทะเบียนเครื่องมือประมงอวนลากที่ผิดกฎหมายให้กลับมาใช้ได้อีก โดยอ้างผลการศึกษาว่าทะเลไทยสามารถเพิ่มปริมาณเรืออวนลากได้อีกถึง 2,107 ลำ
 
การกระทำนี้ถือเป็นการ "เปลี่ยนผิดเป็นถูก" และจะสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรและชาวประมงอื่นๆอย่างมาก พวกเราตามรายนามท้ายแถลงการณ์นี้ คัดค้านการดำเนินการดังกล่าวต่อกรมประมงตามขั้นตอน แต่กรมประมงกลับชี้แจงโดยสรุปว่าจะดำเนินการต่อไปและส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว และในวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 นี้กรมประมงได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาการผ่อนผันการจดทะเบียนอวนลาก ขึ้นอีก โดยครั้งนี้ ได้เชิญตัวแทนของชาวประมงพื้นบ้าน ให้มา เผชิญหน้ากับตัวแทนของกลุ่มทุนผู้ประกอบการประมงอวนลากที่กระทำผิดกฎหมาย เราเห็นว่าการจัดการทรัพยากรประมงไม่ใช่เรื่องของการแบ่งปันผลประโยชน์ และจะใช้วิธีการจัดให้คนสองกลุ่มมาตกลงกันไม่ได้
 
เราเห็นว่าการผ่อนผันการจดทะเบียนอวนลากและการจัดประชุมในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม และจะเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นอีก เรายืนยันว่าจะคัดค้านการผ่อนผันการจดทะเบียนเรืออวนลากที่กระทำผิดกฎหมาย ไม่ให้กลับมาจดทะเบียนถูกกฎหมายอีก
 
เราจึงขอประกาศว่า จะไม่ร่วมกับกรมประมงในการพิจารณากรณีผ่อนผันการจดทะเบียนเรืออวนลาก ในทุกกรณี และเรียกร้องให้กรมประมงเปิดเผย ผลการศึกษาวิจัยทางวิชาการที่กล่าวอ้างว่าทะเลไทย สมควรเพิ่มเครื่องมือประมงอวนลากได้อีกกว่า 2,000 ลำ ต่อสาธารณชน ได้รับทราบทั่วกัน 
 
ด้วยความเคารพ
18 กรกฎาคม 2555
 
สมาคมคนรักเลกระบี่
สมาคมรักษ์ทะเลไทย
สมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร
สมาคมชาวประมงพื้นบ้านคลองวาฬ
สมาคมชาวประมงพื้นบ้านคั่นกะได
สมาคมประมงพื้นบ้านอำเภอสิงหนคร
สมาคมชาวประมงรักษ์ทะเลสาบสงขลา อ.ปากพะยูน
สมาคมสตรีประมงพื้นบ้านภาคใต้
สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย
เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เครือข่ายรักษ์อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี
เครือข่ายชุมชนคนรักษ์ลุ่มน้ำทะเลสาบ จ.พัทลุง
เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำคลองยัน จ.สุราษฎร์ธานี
เครือข่ายอนุรักษ์อ่าวปัตตานี
เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง
สมาพันธ์ชาวประมงรอบทะเลสาบสงขลา
 
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net