กก.ปฏิรูปกฎหมาย ชงความเห็น "ร่าง พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอกฎหมายฯ"

ประธาน คปก.ลงนามบันทึกความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายฯ เสนอนายกฯ-ปธ.สภา-วิปรัฐบาลฝ่ายค้าน ประกอบการพิจารณาวาระ 2-3 แนะยกเลิกผู้ริเริ่มเสนอกฎหมาย ให้ประชาชนมีสิทธิเสนอ กกต. “ไพโรจน์ พลเพชร” เผย กมธ.วิฯ เมินฉบับภาคประชาชน

 
 
วันนี้ (21 ส.ค.55) นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ได้ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ... เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อนำความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวประกอบการพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประกอบการพิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ... รวมทั้งการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภา ซึ่งจะมีการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 22 ส.ค.นี้
 
คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายมีความเห็นที่สำคัญหลายประเด็น คือไม่ควรกำหนดให้มีผู้ริเริ่มจำนวน 20 คน เป็นผู้ริเริ่มเสนอกฎหมาย เพื่อเสนอให้ประธานรัฐสภาตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติว่ามีหลักการเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ  เนื่องจากตามมาตรา 6 กำหนดให้มีผู้ริเริ่มจำนวน 20 คน ทำหน้าที่ในการพัฒนาร่างพระราชบัญญัติจนเป็นร่างกฎหมายที่สมบูรณ์แล้ว หรือหากจะแก้ไขร่างกฎหมายที่เสนอต้องดำเนินการก่อนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายเท่านั้น ดังนั้นกระบวนการและขั้นตอนดังกล่าวจึงเป็นการตัดตอนและลดทอนกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งร่วมลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติรายอื่นๆ ซึ่งควรมีโอกาสเข้าร่วมในการพัฒนากฎหมายตั้งแต่เริ่มต้นอย่างกว้างขวางมากที่สุด
 
ขณะที่ประเด็นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คปก.มีความเห็นว่า ประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายควรมีสิทธิเสนอให้ กกต.ดำเนินการจัดให้มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายดังเช่นที่เคยบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2542 เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ... เป็นร่างกฎหมายที่มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ดังนั้นจึงควรเปิดช่องทาง และทางเลือกในทุกช่องทางที่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
 
นอกจากนี้ คปก.ยังเห็นว่าในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชนนั้น มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวนมาก ทั้งในการรณรงค์ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนั้น ค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารต่างๆ ควรกำหนดให้กองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง ซึ่งมีเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือการดำเนินกิจกรรมสาธารณะของชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการของกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันในลักษณะเครือข่ายทุกรูปแบบให้สามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอความต้องการของชุมชนในพื้นที่ เพื่อเป็นกองทุนสำหรับสนับสนุนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายของประชาชนด้วย แม้ว่าการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ จะมีความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องกำหนดกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสำหรับการดำเนินการเข้าชื่อเสนอกฎหมายก็ตาม
 
นายไพโรจน์ พลเพชร กรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ... เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการวางหลักเกณฑ์และวิธีการเข้าชื่อของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติหรือเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ดังนั้นร่างกฎหมายดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างมากในแง่ของการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมในทางการเมืองโดยตรงของประชาชน โดยที่ผ่านมาประชาชนมีความตื่นตัวต่อร่างกฎหมายดังกล่าวค่อนข้างสูง มีภาคประชาชนได้ร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายฉบับประชาชน จำนวน 2 ฉบับ
 
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ กลับไม่ได้นำสาระสำคัญในร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายฉบับที่ภาคประชาชนเสนอบรรจุไว้ในร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณา ทั้งยังมีบทบัญญัติบางมาตราอาจเป็นอุปสรรคและไม่เอื้อต่อการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชน เช่น  ประเด็นการกำหนดให้มีผู้ริเริ่มในการเสนอกฎหมายจำนวน 20 คน การตัดบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง ออกจากการเป็นองค์กรสนับสนุนการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
 
“นอกจากนี้ยังกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายมีความเห็นว่า เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน การกำหนดโทษทางอาญาไว้ในร่างกฎหมายฉบับนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้สิทธิเสนอกฎหมายของประชาชน” นายไพโรจน์ กล่าว
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท