Skip to main content
sharethis

กรรมการกำกับกิจการพลังงานมีมติ ขึ้นค่าเอฟทีในงวดเดือน ก.ย.–ธ.ค. 18 สตางค์ต่อหน่วย และให้ กฟผ.รับภาระส่วนต่าง 20.24 สตางค์ต่อหน่วย ไปก่อนชั่วคราว

(6 ก.ย.55) นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยหลังการประชุมพิจารณา การประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที ) สำหรับการเรียกเก็บในเดือน ก.ย.–ธ.ค.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการคำนวณค่าเอฟที ในอัตรา 68.24 สตางค์ต่อหน่วย โดยแยกเป็นค่าเอฟทีในงวดปัจจุบันจัดเก็บที่ 30 สตางค์ต่อหน่วย และงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. ต้องจัดเก็บที่ 38.24 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็น 68.24 สตางค์ต่อหน่วย แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าจะเป็นการผลักภาระรายจ่ายให้ประชาชนมากเกินไป จึงมีมติให้เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. เพียง 18 สตางค์ต่อหน่วย และเมื่อนำไปรวมกับเอฟทีงวดปัจจุบันอีก 30 สตางค์ต่อหน่วย ก็เท่ากับว่าค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 48 สตางค์ต่อหน่วย

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท อาทิ ก๊าซธรรมชาติ ปรับราคาขึ้นจาก 301.28 บาทต่อล้านบีทียู มาอยู่ที่ 317.50 บาทต่อล้านบีทียู ราคาถ่านหิน ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2,926 บาทต่อตัน มาอยู่ที่ 3,227 บาทต่อตัน และราคาน้ำมันเตา ปรับขึ้นจาก 25.87 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 26.49 บาทต่อลิตร รวมทั้งผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

นายดิเรก กล่าวต่อว่า ค่าเอฟทีส่วนที่เหลืออีก 20.24 สตางค์ต่อเรคกูเลเตอร์ จะขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระแทนประชาชนเป็นการชั่วคราวไปก่อน ซึ่งคิดเป็นวงเงินรวม 10,504 ล้านบาท สำหรับมติดังกล่าว เรคกูเลเตอร์ จะนำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เผยแพร่ผ่าน www.erc.or.th เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่วันที่ 6–12 ก.ย. ก่อนที่จะนำผลการรับฟัง มาพิจารณาและให้ กฟผ. ประกาศเรียกเก็บค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการต่อไป

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net