Skip to main content
sharethis

แถลงการณ์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุ มีผู้หญิงคนแรกที่ถูกประหารในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เผยยังมีนักโทษในแดนประหารญี่ปุ่นอยู่อีก 130 คน

 
 
วันนี้ (27 ก.ย.55) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ “การประหารชีวิตนักโทษ 2 คนในญี่ปุ่นทำให้เกิดความกลัวต่อกระแสการแขวนคอรอบใหม่” ระบุ ความกลัวว่าจะมีการประหารชีวิตเพิ่มขึ้นในญี่ปุ่นเกิดขึ้น หลังจากทางการได้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอนักโทษสองคนวันนี้ โดยนับเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกประหารในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา
 
ซาชิโกะ เอโตะ (Sachiko Eto) 65 ปี และยูกิโนริ มัตสุดะ (Yukinori Matsuda) 39 ปี ถูกแขวนคอเมื่อเช้านี้ที่ศูนย์กักตัวบุคคลฟูกูโอกะและเซนไดตามลำดับ เอโตะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกประหารชีวิตในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา
 
“การประหารชีวิตซาชิโกะ เอโตะเป็นการสังหารชีวิตของบุคคลโดยรัฐญี่ปุ่นที่มีการวางแผนล่วงหน้าและเลือดเย็น” โรซีน ไรฟ์ (Roseann Rife) ผู้อำนวยการแผนกเอเชียตะวันออก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าว
 
การประท้วงการใช้โทษประหารมีกำหนดเริ่มขึ้นในตอนค่ำวันนี้ด้านนอกกระทรวงยุติธรรมที่กรุงโตเกียว
 
การแขวนคอครั้งนี้ทำให้ญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษเจ็ดคนแล้วในปีนี้ ในปี 2554 ไม่มีการประหารชีวิตนักโทษในญี่ปุ่นเลย
 
ยังมีนักโทษในแดนประหารญี่ปุ่นอยู่อีก 130 คน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเห็นว่า นักโทษเหล่านี้ทุกคนมีความเสี่ยงต่อการประหารชีวิตในเร็วๆ นี้
 
มากาโตะ ทากิ (Makoto Taki) รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่นสนับสนุนการใช้โทษประหาร และตั้งแต่ดำรงตำแหน่งมาได้ 4 เดือน เขาอนุมัติให้มีการประหารชีวิตไปแล้ว 4 ครั้ง โดยการประหารชีวิตครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2555 เป็นการแขวนคอนักโทษชาย 2 คน
 
ทั้งนี้ ในระหว่างการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรค Democratic Party of Japan ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลให้สัญญาว่าจะจัดให้มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนระดับชาติเกี่ยวกับการใช้โทษประหารชีวิต
 
“การประหารชีวิตครั้งล่าสุดเป็นการละเมิดคำสัญญาของพรรค DPJ เอง ที่จะจัดให้มีการอภิปรายระดับชาติเพื่อหาทางยกเลิกโทษประหารชีวิต จำเป็นต้องมีการอภิปรายเช่นนี้ และรัฐบาลควรกำหนดข้อตกลงเพื่อยุติการประหารชีวิตชั่วคราว” โรซีน ไรฟ์กล่าว
 
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มน้อยที่ยังคงใช้โทษประหารชีวิต ในขณะที่มากกว่าสองในสามของประเทศต่างๆ ในโลกยกเลิกโทษประหารทั้งในทางปฏิบัติและในทางกฎหมาย
 
มัตสุดะถูกศาลแขวงกุมาโนโตะลงโทษประหารชีวิตเมื่อเดือนกันยายน 2549 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตาย 2 คน ไม่มีการอุทธรณ์คดีนี้ทั้งที่เป็นเงื่อนไขตามกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดคำถามว่าได้มีการปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่
 
เอโตะได้ถูกลงโทษประหารชีวิตเมื่อปี 2545 ในข้อหาฆ่าคนตายและฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
 
ญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษด้วยการแขวนคอ และมักทำกันเป็นความลับ ปรกติแล้วนักโทษจะได้รับแจ้งล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง บางคนไม่ได้รับแจ้งก่อนเลยด้วยซ้ำ ครอบครัวมักทราบข่าวหลังจากมีการประหารชีวิตไปแล้ว
 
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลต่อต้านโทษประหารชีวิตในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าพฤติการณ์ของความผิดจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีลักษณะแบบใด หรือไม่ว่าจะเป็นการประหารชีวิตด้วยวิธีการใด
 
โทษประหารชีวิตเป็นการละเมิดสิทธิที่จะมีชีวิตรอด และถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีมากที่สุด
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net