องค์กรปกครองเขตนครเวียงจัน กำหนดให้ 5 พื้นที่เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะภายใต้เป้าหมายที่จะพัฒนานครเวียงจันทร์ให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในอนาคต
ท่านอานุพาบ ตุนาลม รองเจ้าครองเขตนครเวียงจัน ได้เป็นประธานจัดการประชุมเพื่ออภิปรายร่างกฎหมายว่าด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ โดยสำหรับเขตนครเวียงจันนั้น ได้มีการกำหนดให้ 5 พื้นที่เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ซึ่งมี 4 เขตที่ยกระดับขึ้นมาจากเขตพัฒนาทั่วไป ก็คือนิคมอุตสาหกรรมและการค้า เวียงจัน-โนนทอง เขตเศรษฐกิจจำเพาะดงโพสี เขตเศรษฐกิจจำเพาะล่องแถ้ง-เวียงจัน และเขตพัฒนารวมไซเสดถา ส่วนพื้นที่ที่ 5 นั้น เป็นเขตที่ตั้งขึ้นใหม่ก็คือ เขตเศรษฐกิจจำเพาะบึงทาดหลวง
ภาพจำลองเขตเศรษฐกิจจำเพาะบึงทาดหลวง
ทั้งนี้โดยองค์กรปกครองนครเวียงจัน ได้รายงานว่าการอภิปรายร่างกฎหมายว่าด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวมีเป้าเพื่อทำให้การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 5 เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาในเขตนครเวียงจันให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังถือเป็นภาคส่วนสำคัญที่จะพัฒนาให้นครเวียงจันเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจเฉพาะทั้ง 5 พื้นที่ในเขตนครเวียงจันดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของรัฐบาลลาวที่ได้วางเป้าหมายว่าจะดำเนินการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจจำเพาะให้ได้ถึง 41 แห่ง ในทั่วประเทศอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ท่านสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีผู้ดูแลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลลาว และยังเป็นประธานคณะกรรมการดูแลเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตเศรษฐกิจจำเพาะแห่งชาติด้วยนั้น ก็แถลงยอมรับไม่ไม่นานมานี้ว่า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตเศรษฐกิจจำเพาะมีความคืบหน้าอย่างล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ที่เป็นเขตแรกในลาวซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2003 ก็ยังพัฒนาได้ช้าอยู่มาก เมื่อเทียบกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่เมืองต้นเผิ้ง แขวงบ่อแก้ว
เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำดังกล่าว เป็นการลงทุนเต็ม 100% โดยกลุ่มธุรกิจจากจีน ซึ่งทางการลาวก้ถือว่าได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้งงานให้แก่ประชาชนลาวได้เป็นอย่างดี ส่วนเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่อื่นๆ นั้น ก็ยังคงถือว่ามีการพัฒนาอย่างล่าช้า เนื่องจากว่าไม่สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ตามแผนการที่วางไว้ ดังที่ท่านสมสะหวาด ชี้แจงว่า
“เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้มีการพัฒนาอย่างเด่นชัด ประกอบด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างงานให้แก่ประชาชน ถึงอย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของงานดังกล่าวในภาพรวมแล้วยังล่าช้าอยู่ และยังไม่ทันสามารถเรียกทุนสนับสนุนจากบรรดาภาคธุรกิจจากต่างประเทศได้เท่าที่ควร”
ในปัจจุบัน ประเทศลาวมีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ได้รับการพัฒนาและสามารถรองรับการลงทุนของเอกชนลาวและต่างชาติได้แล้ว 3 แห่ง ก็คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ในแขวงสะหวันนะเขด เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนคำ ที่แขวงหลวงน้ำทา และเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ส่วนเขตเศรษฐกิจจำเพาะทั้ง 5 แห่งอยู่ในเขตนครเวียงจันนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างมุ่งมั่น โดยเป็นการลงทุนจากจีน 3 เขต และการลงทุนจากเวียตนาม 2 เขต ตามลำดับ
นอกจากนี้ รัฐบาลลาวยังได้วางเป้าหมายที่จะก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจจำเพาะในเขตแขวงต่างๆ ให้ได้ถึง 10 แห่งในปี 2015 อีกด้วย
เกร็ดภาษาลาววันนี้ ขอเสนอคำว่า ອໍານາດການປົກຄອງ (อำนาดการปกคอง) : องค์กรปกครอง, Administratve organization.
แม้ว่าคำจะคล้ายคลึงกับภาษาไทย แต่คำว่า ອໍານາດການປົກຄອງ ในภาษาลาวนั้น ไม่ได้หมายถึงอำนาจการปกครองเหนือสิ่งใด แต่หมายถึงองค์กรที่ใช้อำนาจนั้นปกครองเขตพื้นที่ต่างๆ เช่น ອໍານາດການປົກຄອງເຂດນະຄອນວຽງຈັນ - องค์กรปกครองเขตนครเวียงจัน เทียบกับไทยแล้ว คือหน่วยงานปกครองส่วนภูมิภาค หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นั่นเอง
หมายเหตุ - การสะกดชื่อนครเวียงจัน ว่า "เวียงจัน" โดยไม่มีตัวสะกดการันต์ตามท้าย เป็นการรักษาอักขระวิธีตามแบบอักษรลาว เพื่อไม่ให้เกิดความลักลั่นในการเปรียบเทียบกับชื่อเมืองและเขตแขวงอื่นๆ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว.