Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

เลือกตั้งสหรัฐครั้งที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ในรัฐ Colorado และ Washington ลงประชามติให้กัญชาใช้ได้อย่างถูกกฏหมาย ไม่เฉพาะ medical use แต่เป็น recreational use ด้วย

ก่อนการลงประชามติในครั้งนี้ การขายกัญชาใน Colorado ก็ทำกันเป็นล่ำเป็นสันอยู่แล้ว แต่ใช้ข้ออ้างในแง่ medical use คือต้องมีใบอนุญาตจากแพทย์ จึงจะมาซื้อได้ ทว่าร้านขายกัญชาในโคโลราโด มีตั้งอยู่แทบจะในทุกมุมเมือง (อย่างในเมืองเล็กๆ อย่าง Boulder มีเกือบ 20 ร้าน) โดยสัญลักษณ์ที่สังเกตเห็นได้ก็คือ Green Cross หรือเครื่องหมายบวกสีเขียว และใช้ชื่อว่า "Dispensary" ในทางทฤษฎีมันก็ควรจะเป็นเหมือนร้านขายยาอะไรทำนองนั้น แต่การณ์หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะบางร้านตกแต่งกันอย่างเต็มแม็กซ์ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับการสูบ เสพ ทุกชนิดให้เลือกสรรค์ มีแม้กระทั่งเสื้อยืดชื่อร้าน อาหาร เครื่องดื่ม ซีดีบ็อบ มาเลย์ ฯลฯ และเนื่องจากการแข่งขันสูง แต่ละร้านก็สรรหาของมีคุณภาพมาเอาใจลูกค้ากันแบบไม่ยั้ง ส่วนใบอนุญาตจากแพทย์นั้น ถ้าต้องการก็เซ็นกันให้ตรงนั้นเลยก็ยังได้ ในกฏหมายยังมีบอกไว้ด้วยว่า หากมีคนป่วยและแพทย์อนุญาตให้ใช้กัญชาในการรักษา ก็สามารถขอใบอนุญาต ปลูกกัญชาไว้ใช้ในครัวเรือนได้อีกด้วย ด้วยการปฏิบัติที่ไม่ตรงกับทฤษฎีในหลายๆ เรื่อง จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวโคโลราโดส่วนใหญ่เห็นว่า น่าจะถึงเวลาที่กัญชาควรเป็นสิ่งถูกกฏหมายเสียที

ผลจากการผ่านกฏหมายนี้ ทำให้บุคคลอายุ 21 ปีขึ้นไป สามารถมีกัญชาไว้ครอบครองและใช้เพื่อสันทนาการได้ไม่เกินคนละ 1 ออนซ์ และสามารถปลูกเอาไว้ใช้เองที่บ้านได้ไม่เกิน 6 ต้น ส่วนร้านขายก็คงต้องมีกฏเกณฑ์ควบคุมเพิ่มเติม และถูกเรียกเก็บภาษีจากรัฐอย่างถูกต้องต่อไป

............

ในความคิดเห็นของผม ภาพที่คนอเมริกันมีต่อกัญชา แตกต่างจากภาพที่คนไทยส่วนใหญ่มีค่อนข้างมาก ในบ้านเรา กัญชาถูกนำไปผูกโยงกับเรื่องผิดศีลธรรม อาชญากรรม ความผิดบาป ความไม่รักดี ฯลฯ ทว่าในอเมริกา โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น กัญชานั้นเป็นสัญลักษณ์ของการขบถต่อกฏเกณฑ์แบบหนึ่ง (ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา) กล่าวคือ กัญชาเป็นสิ่งผิดกฏหมาย แต่ก็ไม่ได้ผิดร้ายแรง มีโทษต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่ได้มีโทษมาก (ข้อมูลจากหลายแหล่งเชื่อว่า บุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าเสียอีก) ยิ่งกัญชาสูบพอประมาณแล้วทำให้อารมณ์ดี มีจินตนาการ ร่่าเริง สนุกสนาน ผ่อนคลาย ไม่เครียด จึงทำให้เป็นที่นิยมเสพของวัยรุ่นและนักศึกษามหาวิทยาลัย กัญชาเป็นพืชที่ปลูกไม่ยาก หลายคนจึงปลูกมันไว้ที่บ้านหรือแม้แต่ในอพาร์ตเมนต์ ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งเป็นยา ทำอาหาร ทำขนม และเอาไว้สูบเพื่อผ่อนคลาย และด้วยความที่มันผิดกฏหมาย มันจึงเป็นอะไรที่ "cool"

กัญชาในมิติทางสังคม ถือเป็นสัญลักษณ์ของกระแส counterculture ซึ่งดูจะเป็นอะไรที่ยากจะทำความเข้าใจสำหรับสังคมที่ยังไปไม่ถึงประชาธิปไตยอย่างบ้านเรา จุดเริ่มต้นและบุคลากรสำคัญของกระแส counterculture คือ ชาวฮิปปี้ ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองสายลมแสงแดดต่างๆ กระแสฮิปปี้ที่เฟื่องฟูมากในยุค 60s-70s สะท้อนแนวคิดนอกกระแสที่มีลักษณะ romantic/ liberal ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ชุมชน ดนตรี ศิลปะ ศาสนา เพศสภาพ ฯลฯ counterculture มองว่าวัฒนธรรม/ กฏเกณฑ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ความเข้มงวด จริงจัง กล่อมเกลา ควบคุม บังคับทางสังคมทั้งหลายก็เป็นแค่อาการเมามายในอีกลักษณะหนึ่ง การท้าทายวัฒนธรม ท้าทายกฏหมายเป็นเรื่องที่ทำได้ จำเป็น และควรรวมกลุ่มทำเป็นเครือข่ายอย่างใช้สติปัญญาและมีทักษะ ซึ่งภายหลังแนวคิดนี้พัฒนาเป็นกระแสการเคลื่อนไหวสังคมอื่นๆ ของคนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้า ปัญญาชน และนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วอเมริกา ผู้มีความฝันต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม/ วัฒนธรรมอเมริกัน ให้ชิลล์ / off the grid / humanistic / eco-friendly มากขึ้น

..............

ตอนมาเรียนที่โคโลราโดปีแรกเมื่อสิบปีก่อน มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ใกล้ University of Colorado, Boulder มาก เดินขึ้นเขาไปนิดเดียวก็ถึง ราวเดือนเมษายน มีเพื่อนฝรั่งมาเคาะประตูเรียก เพื่อชวนไปดูปรากฏการณ์ที่มันบอกว่า "ยูพลาดไม่ได้" มันเน้นย้ำกับผมว่านี่คือปรากฏการณ์ระดับชาติเลยก็ว่าได้ ปรากฏการณ์นั้นมีชื่อว่า "4/20" (อ่านว่า โฟว์ ทเว็นตี้) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เราจะได้กลิ่น ก่อนจะเห็นด้วยตาตัวเอง ในวันที่ 20 เดือน 4 เวลา 4.20 PM ของทุกปี นักศึกษาและประชาชนทั่วไป หลายพันคนจะมารวมตัวกันที่สนามหญ้าในมหาวิทยาลัยโคโลราโดแห่งนี้ เพื่อสูบกัญชากลางแจ้ง ใครที่เคยได้กลิ่นกัญชาจะรู้ว่าเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างแรง แล้วลองนึกดูว่าคนสูบกลางแจ้งพร้อมกันเป็นพันๆ คนจะขนาดไหน เรียกได้ว่าเมืองทั้งเมืองมีกลิ่นหอมอบอวนไปทั่วในวันนั้น ที่มาของ 4/20 นี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างคลุมเครือ แต่มันก็ได้กลายเป็น code ที่รู้กันโดยทั่วไปในหมู่สาวกปุ๊น ปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ counterculture ที่ได้แพร่ไปยังเมืองต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองมหาลัย และเมืองฮิปๆ ทั้งหลายทั่วสหรัฐอเมริกา 

การชุมนุมกันในมหาวิทยาลัยโคโลราโดเป็นอะไรที่มีชื่อเสียงขจรขจายมาก และนานวันก็ยิ่งมีจำนวนของผู้ชุมนุมในวันดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหยียบหลักหมื่นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และที่เป็นข่าวใหญ่ คือในปีล่าสุด (2012) ก่อนที่กฏหมาย legalize กัญชาจะผ่านประชามติในการเลือกตั้งครั้งนี้ มหาวิทยาลัยโคโลราโดได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อปิดกั้นไม่ให้คนเข้ามาปฏิบัติการ 4/20 เป็นจำนวนมากเหมือนทุกปี เช่น การใส่ปุ๋ยสนามหญ้าเพื่อให้มีกลิ่นเหม็น การตรวจ ID ผู้ที่จะเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยในวันดังกล่าว ฯลฯ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไปในเมือง Boulder เป็นอย่างมาก 

เชื่อกันว่า 4/20 ในปีหน้า น่าจะมีการประกาศชัยชนะ สถานะถูกกฏหมายของกัญชา ในมหาวิทยาลัยโคโลราโดอย่างยิ่งใหญ่แน่ๆ 
 


[ลิงก์ข่าวอันเป็นที่ฮือฮา: http://www.huffingtonpost.com/2012/04/20/marijuana-rally-in-troubl_n_1439965.html ] 

.................

ขณะที่ผู้มีอำนาจในบ้านเรา ยังสนุกกับการห้าม การแบน การเซ็นเซอร์ การเพิ่มบทลงโทษ และการยกระดับมาตรฐานศีลธรรมอันดีของเด็กและเยาวชนแบบไทยๆ ให้สูงขึ้น สูงขึ้น การลงประชามติให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติดถูกกฏหมายโดยประชาชนในรัฐโคโลราโดและวอชิงตัน ในการเลือกตั้งสหรัฐครั้งที่ผ่านมา คงดูเป็นเรื่องที่ประหลาดและรับไม่ได้อย่างถึงที่สุด มันคือปรากฏการณ์ที่ย้อนแย้งกับความดีงามตามประเพณีอย่างไม่น่าเกิดขึ้น มันกำลังบ่งบอกถึงหายนะและความเสื่อมทรามของอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย สะท้อนถึงความไร้อารยธรรมและความสับสนเมามายไร้ทิศทางของวัฒนธรรมตะวันตก... 

น่าคิดนะครับ

หรือไม่ คนอเมริกันส่วนใหญ่ก็โง่เกินไป และยังไม่พร้อม



ภาพประกอบ: "420" ที่ University of California, Santa Cruz ที่มา: วิกิพีเดีย ]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net