Skip to main content
sharethis

ชวนนท์ จี้ นายกฯ-เฉลิม  รับผิดชอบกรณีตร.ใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุม คำนูณ ไม่เข้าใจตำรวจบล๊อกพื้นที่ม็อบเข้าลานพระรูปฯ  ประสาร ระบุรัฐพลาด อาจเป็นน้ำผึ้งหลายหยด แนะเปิดทางม็อบเข้า ปล่อยตัวคนถูกจับ ด้านเลขาฯ ครป.ยันเกินกว่าเหตุชัด รัฐสถานการณ์ให้รุนแรง สับตำรวจมองประชาชนเป็นศัตรู ฉะทำเหมือนเอาใจ รบ.

 
24 พ.ย. 55 - เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่านายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนั้นออกมาแสดงความรับผิดชอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาปาไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงเช้าที่ผ่านมา 
          
เนื่องจากในขณะนี้ข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับสื่อมวลชนนั้นไม่ตรงกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นอ้างว่าได้มีการประกาศเตือนตามขั้นตอนสากล แต่สื่อมวลชนหลายแขนงที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าไม่มีการประกาศเตือนใด ๆ จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลับมีการปาแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมทันที ทำให้เกิดผู้บาดเจ็บมากมาย และเกิดเหตุชุลมุนขึ้น 
          
ดังนั้น นายกรัฐมนตรี  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ต้องเลิกหลบอยู่หลังข้าราชการ แต่ต้องออกมายืดอกรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชา และนายกรัฐมนตรี ควรชี้แจงเหตุดังกล่าว กับประชาชนด้วยตัวเอง เพื่อแสดงถึงความจริงจังของตัวนายกฯ ในการแก้ไขปัญหาและเพื่อยืนยันกับประชาชนว่า จะไม่ใช้ความรุนแรง หรือไม่ปล่อยให้เหตุการณ์อย่างเช่นในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นอีก รวมทั้งต้องตอบคำถามสังคมว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
 
ด้าน ASTV ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่านายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลถึงเลือกใช้วิธีการบล็อกพื้นที่ที่ผู้ชุมนุมจะใช้เป็นช่องทางที่จะเข้าไปร่วมชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และถึงบล็อกพื้นที่โดยรอบ โดยประเด็นนี้ทำให้คิดไปได้ว่า รัฐบาลต้องการให้เกิดการปะทะหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ตำรวจตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุมถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง
       
"เหตุการณ์นี้ เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนโกรธแค้นและออกมาร่วมชุมนุมมากขึ้น ขณะนี้รัฐบาลถือว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบทางการเมืองแต่ทำไมถึงไม่ใช้ความได้เปรียบดำเนินการทางสันติวิธี อาทิ ประกาศรับฟังปัญหาจากแกนนำองค์การพิทักษ์สยาม หรือพบปะ พูดคุยเพื่อแก้ปัญหา" นายคำนูณ กล่าว
       
นายคำนูณ กล่าวว่า ตนกังวลว่าการชุมนุมดังกล่าว ซึ่งทับซ้อนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคฝ่ายค้าน ในวันที่ 25 พ.ย. จะทำให้กลายมาเป็นประเด็นที่อภิปรายกันในสภาฯ และอาจทำให้การอภิปรายซักฟอกรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าได้
       
ด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเนชั่นว่า เป็นการตัดสินใจผิดพลาดของรัฐบาล ที่มีการปิดกั้นการชุมนุมของประชาชนซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าวจะกลายเป็นเหตุการณ์น้ำผึ้งหลายหยด ที่จะนำไปสู่ปัญหาและเกิดการบานปลายอย่ารุนแรง ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลอำนวยความสะดวก ด้วยการเปิดทางให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุม รวมถึงเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วเช้าด้วย นอกจากนั้นขอให้ปล่อยตัวประชาชนที่ถูกจับ ไม่เช่นนั้นตนกังวลว่าจะเป็นเหตุที่นำไปสู่ความหายนะ
       
"กลุ่มสยามสามัคคีเห็นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนุญ มาตรา63 ดังนั้นขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิดังกล่าว" นายประสาร กล่าว
       
ขณะที่ นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า การชุมนุมโดยสงบตาม รธน. ม.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อย แต่การสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตาเป็นการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกินกว่าเหตุ และเป็นการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้เกิดความรุนแรง ทั้งนี้การชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะการชุมนุมที่สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามระบบประชาธิปไตย ตำรวจมีหน้าดูแลความเรียบร้อย และภาพที่ปรากฎตำรวจกลับมองผู้ชุมนุมเป็นศัตรูเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นทัศนะคติแบบเก่าและการสกัดกั้นการชุมนุมก็ไม่สามารถทำได้ ปฎิบัติการครั้งนี้เหมือนตำรวจไม่ใช่ตัวของตัวเอง เหมือนกำลังทำงานเพื่อเอาใจรัฐ
       
นายสุริยันต์ กล่าวอีกว่า ไม่ว่าการชุมนุมจะเรียกร้องอะไรและการชุมนุมจะบรรลุตามเป้าหมายหรือไม่ จะได้รับการยอมรับจากสังคมเองไม่จำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ความรุนแรงในการปราบปราม แต่ตำรวจกลับคิดเองว่าการชุมนุมจะรุนแรงจึงใช้กำลังสลาย นอกจากนี้การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ของรัฐบาลมองว่าไม่มีความจำเป็น แต่ถ้ารัฐจะหาเครื่องมือมารับมือดูแลการชุมนุมก็ทำได้แต่ไม่ควรนำมาเพื่อใช้ในการปราบปรามผู้ชุมนุมโดยใช้ความรุนแรง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net