Skip to main content
sharethis

 

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 55 แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้าน ม.นอกระบบ ได้ออกแถลงการณ์ “ถึงเวลาล้างระบบอุดมศึกษาไทย” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ...
 
แถลงการณ์แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้าน ม.นอกระบบ “ถึงเวลาล้างระบบอุดมศึกษาไทย”
 
หน้าที่ของมหาวิทยาลัยคือ การมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติ แต่ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเกือบทุกมหาวิทยาลัยของรัฐและในกำกับรัฐ ต่างแสวงหาผลประโยชน์จากธุรกิจการศึกษา หากินกับลูกหลานชาวบ้านที่กู้เงินมาเรียน พ่อแม่เขาก็หวังว่าลูกหลานจะจบไปมีงานดีๆ ทำพอลืมตาอ้าปากได้ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ มหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาเอาปริมาณมากกว่าคุณภาพ ยิ่งคนเรียนมากก็ยิ่งนำรายได้มาสู่มหาวิทยาลัยอย่างเป็นกอบเป็นกำ เมื่อมีอำนาจในการออกระเบียบขึ้นค่าเทอม ค่าหน่วยกิตได้เองด้วยแล้วก็พากันขึ้นจนไม่เกรงอกเกรงใจผู้ปกครองว่าจะหาเงินที่ไหนมาส่งให้ลูกหลานเรียน ลูกคนรวยไม่เท่าไหร่แต่ลูกหลานคนจนนี่สิลำบาก เงินงบประมาณแต่ละปีเป็นพันเป็นหมื่นล้านไม่เคยตกมาถึงนักศึกษา ผันไปสร้างตึก สร้างโครงการอะไรใหญ่โต ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและทำให้เกิดการตั้งคำถามในประเด็นการแสวงหาผลประโยชน์ แต่ลูกชาวบ้านไส้แห้งท้องกิ่ว
 
มีหลายกรณีที่เป็นประเด็นปัญหาให้สังคมสงสัยในความชำรุดของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย หลายแห่งถูกฟ้องร้องว่า กู้เงินมาลงทุนสร้างหอพักและบังคับให้นักศึกษาเข้าพักในราคาแพงกว่าหอเอกชน เพื่อประกันว่าจะมีรายได้มาแบ่งกันและเหลือเอาไปใช้หนี้ บางที่บางแห่งต้องเอาเงินไปค้ำประกันกับธนาคารฝากแช่แข็งเอาไว้นับร้อยนับพันล้านบาทธนาคารเขาถึงยอมให้สินเชื่อ แทนที่จะเอามาพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน รู้อยู่ว่าผิดกฎหมายแต่ก็ทำ หลายๆ แห่งไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของรายได้ว่ามาจากไหนและใช้ทำอะไรบ้าง หลายแห่ง ครูบาอาจารย์แทบไม่ได้สอนเพราะมัวแต่ไปหาเงิน เนื่องจากเงินเดือนไม่พอยาไส้ ต้องรับงานพิเศษมาผ่อนบ้านผ่อนรถ จนลืมไปว่าหน้าที่หลักคืองานสอน แต่ก็น่าเห็นใจท่านอาจารย์เพราะเงินเดือนน้อยแถมยังไม่มีสวัสดิการอะไร โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่ได้เป็นข้าราชการยิ่งลำบาก เงินเดือนน้อยกว่าครูประถมเสียอีก แต่ผิดกับผู้บริหารที่เดือนหนึ่งๆ รับเงินเป็นแสน 
 
นี่หรือคือมหาลัยไทย ในที่ประชุมผู้บริหารมหาลัยระดับประเทศก็เป็นเพียง ที่สุมหัวของหัวหน้าแก๊งค์ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดวิธีการต่างๆ นานาในการหาช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ “เอ็งทำอย่างนั้นอย่างนี้สิ ข้าทำมาแล้ว” หรือ “ที่นั่นทำได้ข้าก็ทำได้” 
 
ถ้ามหาวิทยาลัยยังอยู่ในวังวนเช่นนี้ การเลือก หัวหน้าแก๊งค์ หรือ ผู้บริหารคนใหม่ ของมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งที่กำลังสรรหากันอยู่ในขณะนี้ ก็คงไม่ต่างจากการเลือก เจ้ามือวงไฮโล โดยมีนายทุนใหญ่คือสภามหาวิทยาลัยอยู่เบื้องหลัง ครูบาอาจารย์พนักงานลูกจ้างท่านจะเลือกใครก็คิดให้ดี จะเลือก เจ้ามือคนเก่า หรือ เจ้ามือคนใหม่ วงไฮโลก็ยังดำเนินต่อไป การแทงต่ำ แทงสูง ยักย้ายถ่ายเทสินทรัพย์ของส่วนร่วมเข้ากระเป๋าตัวเองและกระเป๋าชาวแก๊งค์ก็ยังดำเนินต่อไป ทิ้งขว้างลูกหลานตาดำๆ เด็กๆ นักศึกษานั่งมองตากันปริบๆ เพราะไม่ได้อะไรจากวงไฮโล ไม่มีเสียง ไม่มีสิทธิ ไม่เคยคิดที่จะใส่ใจดูแล อย่างมากก็แค่ใช้ไปซื้อโอเลี้ยงและแถมเงินทอนไปซื้อขนม ภาวการณ์เช่นนี้ เท่ากับว่าประชาคมในแต่ละมหาวิทยาลัยไม่สามารถกำหนดผู้บริหารของตนเองได้การหยั่งเสียงก็ทำไปเพื่อเป็นพิธีกรรมเท่านั้น เพราะสุดท้ายบรรดากรรมการสรรหาก็เป็นผู้ชี้ขาดอยู่ดี
 
ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนชาวไทยจะต้องช่วยให้อุดมศึกษาไทยก้าวไปข้างหน้านำพาประเทศชาติสู่หนทางที่ดีงาม ไม่ใช่จำทน จำยอม สยบต่ออำนาจของ แก๊งค์มาเฟียการศึกษา เราต้องบอกกับสังคมว่า “หยุดเล่นไฮโลกันได้แล้ว” จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ทั้งเจ้ามือและนายทุนบ่อนต้องได้รับบทเรียน หลายๆ แห่งตำรวจไล่จับจนเจ้ามือและนายบ่อนกระโดดน้ำหนีไปแล้ว “อนาคตอยู่ในมือของท่าน อยู่ที่ความกล้าหาญของท่าน การปฏิเสธวังวนแห่งความเลวร้าย ล้างระบบใหม่ ความถูกต้องและความเป็นธรรมจึงจะกลับมา” ขอฝากอนาคตมหาลัยไทยให้ท่านดูแลแทนพวกเราและลูกหลานด้วย...
 
แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้าน ม.นอกระบบ
2 ธันวาคม 2555
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net