Skip to main content
sharethis

ด้วยใจพร้อมเพรียงสามัคคีของประชาชนลาวบรรดาเผ่า ในการจัดตั้งปฏิบัติสองหน้าที่ยุทธศาสตร์ ทำให้ประเทศชาติได้มีการพัฒนาและเติบโตขยายตัวอย่างรอบด้าน

วันที่ 2 ธันวาคม เป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพรรค, รัฐ และปวงชนชาวลาวถ้วนทั่ว เป็นวันสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งปีนี้ก็ได้หมุนเวียนมาครบรอบ 37 ปีพอดี โดยวันที่ 2 ธันวาคม 1975 เป็นวันแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้เป็นพันๆ ปี ของปวงชนลาว เป็นวันที่ประชาชนลาวบรรดาเผ่าได้มีอิสรภาพและเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง เป็นวันที่ประเทศลาวได้มีเอกราชอย่างสมบูรณ์ และมีอธิปไตยอย่างครบถ้วน มีตำแหน่งอันสมเกียรติและสถานะที่เท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ ในประชาคมโลก วันที่ 2 ธันวานี้ยังเป็นวันแห่งสันติภาพ เป็นวันก้าวสู่ยุคสมัยใหม่แห่งการสร้างประเทศลาวอันมีสันติภาพ เอกราช ประชาธิปไตย เอกภาพ และความวัฒนาถาวร

ประธานไกสอน พมวิหาร ได้ประเมินค่าของวันที่ 2 ธันวา ไว้ว่า “ไม่เคยมีเวลาใดที่ประชาชนเราซึ่งเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ของชาตินั้นได้ชิงเอาชัยชนะอันสมบูรณ์ ครบถ้วน และบริบูรณ์ได้อย่างสมสง่าราศีเท่านี้แม้สักครั้ง ชัยชนะนั้นมิเฉพาะเพียงแต่การได้ฟื้นฟูเอกราชของประเทศเรา หากยังเป็นครั้งแรกที่ประชาชนทั้งชาติผู้เคยใช้ชีวิตเป็นทาสได้กลับกลายมาเป็นเจ้าของชีวิตอย่างแท้จริง ของชาติหนึ่งที่มีเอกราช มีอิสรภาพอย่างสมบูรณ์ และพร้อมก้าวสู่สังคมนิยม ทำให้ความมุ่งหวังอย่างแรงกล้าของปวงชนลาว ก็คือของมวลมนุษย์ปรากฏเป็นจริงอยู่บนผืนแผ่นดินอันแสนรักของพวกเรา”

สำหรับการเฉลิมฉลองวันชาติในปี 2012 นี้ อยู่ในระยะที่พวกเราพร้อมใจกับจัดเตรียมการประชุมใหญ่ครั้งที่ 9 ของพรรค และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม 5 ปี ครั้งที่ 7 ของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นปีที่พวกเราริเริ่มการจัดตั้งปฏิบัติบททดลองการทำงาน 3 สร้างในระดับทั่วประเทศ (มติการทำงาน 3 สร้าง คือ สร้างแขวงให้เป็นแนวหน้าการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์, สร้างเมืองให้เป็นแนวหน้าเข็มแข็งรอบด้าน และสร้างหมู่บ้านให้เป็นแนวหน้าการพัฒนา ซึ่งเป็นแนวทางการนำของ ฯพณฯ จูมมะลี ไซยะสอน ประธานประเทศและศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวในวาระปัจจุบัน – ผู้แปล) นอกจากนี้ ปี 2012 ยังเป็นปีแห่งความสามัคคีมิตรภาพ ลาว-เวียดนาม และเป็นปีที่ สปป. ลาวได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาเอเชีย-ยุโรป (ASEP) ครั้งที่ 7 และการประชุมสุดยอดเอเชีย-ยุโรป (ASEM) ครั้งที่ 9 ซี่งการประชุมทั้งสองอันเป็นประวัติศาสตร์ดังกล่าว ได้ดำเนินการด้วยความสำเร็จงดงาม ทำให้บรรดาผู้แทนที่มาเข้าร่วมการประชุมได้รับรู้เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งถึงบทบาทของสปป. ลาว มากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความเชื่อถือและความไว้วางใจจากนานาสากลประเทศที่มีต่อพรรค รัฐ และประชาชนลาว ทำให้ฐานะบทบาทของ สปป. ลาวสูงเด่นขึ้นในเวทีสากล ถึงแม้ว่าในปี 2011-2012 เป็นที่ที่เกิดความยุ่งยากลำบากจากสภาพแวดล้อมภายนอก คือวิกฤตเศรษฐกิจ-การเงินโลก และภายในประเทศก็ประสบกับภัยธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบหลายด้านให้แก่พวกเรา แต่ประเทศเรายังมีเสถียรภาพทางการเมืองหนักแน่น สังคมมีความปลอดภัย และมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยพื้นฐาน สามารถพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม ด้วยจังหวะเที่ยงตรงต่อเนื่อง รวมยอดผลิตภัณฑ์ภายใน (GDP) ถึง 8.1% จัดทำงบประมาณได้เกินแผนการ เงินตราแห่งชาติมีความมั่นคง อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เฉลี่ยจนสิ้นปีที่ 7.42% ซึ่งได้สร้างพื้นฐานและสืบต่อแนวทางอำนดีที่จะให้สำเร็จตามความคาดหมายของการประชุมใหญ่ครั้งที่ 9 ของพรรค กล่าวได้ว่า การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศเราได้มีผลสำเร็จอันสำคัญ และมีการก้าวหน้าต่อเนื่อง เศรษฐกิจมหภาคมีความมั่นคงโดยพื้นฐาน การแก้ไขความยากจนของประชาชนเกี่ยวเนื่องกับการสร้างบ้านและกลุ่มบ้านพัฒนาได้รับผลดีในหลายด้าน (บ้าน เป็นหน่วยการปกครองย่อยของลาว – ผู้แปล) ครอบครัวที่ยากจนในทั่วประเทศลดลงจาก 27.7% ในปี 2002-2003 มาเป็น 18.77% ในปี 2010-2011

เพื่อสืบต่อขยายมูลเชื้อ 2 ธันวา เข้าในการจัดตั้งปฏิบัติงานในเบื้องหน้านั้น ได้เรียกร้องมายังองค์การจัดตั้งพรรค รัฐ ประชาชนลาวบรรดาเผ่า องค์การจัดตั้งมหาชน องค์การจัดตั้งทางสังคมและทุกหน่วยงานภาคส่วนเศรษฐกิจ ให้เอาใจใส่ตั้งใจศึกษาอบรมการเมือง นำพาแนวคิดของพนักงาน สมาชิกพรรคและประชาชนชาวลาวบรรดาเผ่า ให้เชิดชูน้ำใจรักชาติ เอกราช ปกครองตนเอง สร้างความเข้มแข็งด้วยตนเอง เพื่อสร้างประเทศชาติให้มั่งคั่งเข้มแข็ง ประชาชนมั่งมีผาสุก สังคมมีความสามัคคีปรองดอง ยุติธรรม และศรีวิไล ตั้งใจปลุกระดมขบวนการเคลื่อนไหวจัดตั้งปฏิบัติตามมติที่ประชุมใหญ่ของพรรค และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของรัฐให้ปรากฏผลเป็นจริง เพื่อบรรลุเป้าหมายสหัสวรรษด้านการพัฒนาในแต่ละด้าน สิ่งสำคัญต้องรับประกันให้เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจมหภาคมีความมั่นคง อัตราเงินเฟ้อและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นให้ลดลง รับประกันค่าครองชีพและชีวิตความเป็นอยู่พนักงาน ทหาร ตำรวจ และประชาชนเป็นปกติ ตั้งใจปฏิบัติงานก่อสร้างรากฐานการเมือง พัฒนาชนบท ผลักดันกระบวนการ 3 สร้าง ให้เป็นจริง โดยปรับปรุงและสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์การปกครองบ้าน การจะทำให้ได้ถึงขั้นนั้นต้องเอาใจใส่ปฏิบัติชี้นำของสหายเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคที่ว่าต้องสร้างชาวชนบทให้เป็นเจ้าชนบท ต้องสร้างนักรบแข่งขันพัฒนาชนบท เพื่อพัฒนาชนบทให้มีผลสำเร็จ ต้องสร้างบุคลากรประจำ เพื่อพัฒนาบ้านเมืองให้ประสบผลสำเร็จ มุ่งหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคนิคที่จำเป็นให้ชนบท เช่น ถนน, ไปรษณีย์, โทรคมนาคม, สายไฟฟ้า, ชลประทาน การบริการสินเชื่อ, การบริการข้อมูลและอื่นๆ, พัฒนาและปรับปรุงการศึกษา สาธารณสุขและวัฒนธรรม-สังคมอยู่ชนบทให้มีความสะดวกและมีคุณภาพ รับเอาพนักงานแขนงต่างๆ ลงสู่รากฐานของประชาชนอย่างแท้จริง

สำคัญที่สุดคือต้องได้ทดลองงาน 3 สร้าง อยู่ 51 เมือง และ 105 บ้านในทั่วประเทศ ที่ได้กำหนดเป็นสถานที่ทดลอง ปลุกระดมขวนขวายและแสวงหาการช่วยเหลือจากภายในและต่างประเทศเพื่อช่วยพัฒนาชนบท เพิ่มทวีความสามัคคีปรองดองของประชาชนลาวบรรดาเผ่า ภายใต้การนำของพรรค เอาใจใส่กำจัดแก้ไขความย่อท้อต่างๆ ในสังคม สร้างบรรยากาศสดใส สง่าผ่าเผยของสังคมลาว คนลาว ทำให้ประเทศชาติมีความสงบและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ยึดมั่นแนวทางการต่างประเทศที่มุ่งเน้นสันติภาพ เอกราช มิตรภาพ และการร่วมมืออย่างเสมอต้นเสมอปลาย ส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมมือกับต่างประเทศแบบหลายทิศ และหลายฝ่าย หลายระดับ และหลายรูปแบบบนพื้นฐานหลักการเคารพซึ่งกันและกัน ให้ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์

“น้ำใจวันชาติที่ 2 ธันวา มั่นยืน!”

 

แปลจาก http://www.pasaxon.org.la/conten/30-11-12/9.htm

หนังสือพิมพ์ประชาชน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net