อดีตผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการให้รางวัลปี 2012 แก่สหภาพยุโรป ผู้ที่ได้รับรางวัลในฐานะผู้เปลี่ยนแปลงจาก 'ทวีปแห่งสงคราม' ให้กลายเป็น 'ทวีปแห่งสันติ'

10 ธ.ค. 2012 - สหภาพยุโรปเข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ศาลากลางเมืองออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิจารณ์การตัดสินมอบรางวัลในครั้งนี้จากอดีตผู้รับรางวัล โดยบอกว่ากลุ่มสหภาพยุโรปมีพื้นฐานเป็น "กลุ่มอำนาจทางการทหาร"

โดยผู้ขึ้นรับรางวัลร่วมกันคือประธานสหภาพยุโรป เฮอร์แมน แวน รอมปาย  ประธานสภายุโรป มาร์ติน ชูลส์ และประธานคณะกรรมการยุโรป โฮเซ มานูเอล บาร์รอสโซ่

ประธานคณะกรรมการรางวัลโนเบลกล่าวชื่นชมบทบาทของสหภาพยุโรปในการเปลี่ยนแปลงจาก "ทวีปแห่งสงคราม" ให้กลายเป็น "ทวีปแห่งสันติ" ได้

ธอร์บเจอร์น แจกแลนด์ ประธานคณะกรรมการและอดีตนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์กล่าวว่า เคยมีการให้รางวัลเดียวกันนี้แก่รมต.ฝรั่งเศสและเยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จากที่ทั้งสองประเทศเจรจาสงบศึกกันได้ จากนั้นในช่วงปี 1930s ทวีปยุโรปก็กลับเข้าสู่ความขัดแย้งและสงครามอีกครั้ง แต่ในเวลานี้ขอให้เป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง และขอยินดีกับการที่ผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมันได้นั่งอยู่ข้างกันในออสโล

ข้อวิพากษ์รางวัลสันติภาพ

สำนักข่าวเดอะ การ์เดียน ระบุว่า ตั้งแต่ที่มีการประกาศรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาก็ทำให้เกิดความแปลกใจและเกิดข้อถกเถียง เนื่องจากสหภาพยุโรปกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติและเกิดความไม่ลงรอยอยู่ลึกๆ ระหว่างผู้นำ แม้จะไม่ใช่ความขัดแย้งที่มีการใช้ความรุนแรง

อาร์คบิชอป เดสมอนด์ ตูตู ผู้ที่เคยได้รับรางวัลในปี 1984 จากโครงการต่อต้านการเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ กล่าวว่าการให้รางวัลแก่สหภาพยุโรปเป็นเรื่องผิด เพราะสหภาพยุโรปเป้นองค์กรที่มีฐานมาจาก "กองกำลังทหาร"

นอกจากตูตูแล้ว อดีตผู้ได้รับรางวัลอีกสองท่านคือ มายเรด แมกไกวร์ จากไอร์แลนด์เหนือ และ อโดลโฟ เปเรซ จากอาร์เจนติน่า ก็คัดค้านการรับรางวัลของสหภาพยุโรป โดยบอกว่าทางกลุ่มมีพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับค่านิยมของรางวัลสันติภาพ จากการที่ใช้กำลังทหารในการรักษาเสถียรภาพ พวกเขายังเรียกร้องไม่ให้มีการจ่ายเงินรางวัล 1.2 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ด้วย

ขณะที่สหภาพยุโรปบอกว่าจะนำเงินรางวัลที่ได้ไปให้กับโครงการช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในเขตสงคราม

60 ปีแห่ง 'สันติ'

ทางด้านประธานคณะกรรมการยุโรป โฮเซ มานูเอล บาร์รอสโซ่ กล่าวว่ารางวัลนี้เป็นรางวัลสำหรับโครงการของชาวยุโรปที่ช่วยกับสร้างยุโรปใหม่ขึ้นมาตั้งแต่ 60 ปีที่แล้ว

"พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติ์ที่ได้รับรางวัลนี้ และจะรักษาสิ่งที่เราได้รับมา มันคือประโยชน์ส่วนรวมสำหรับพลเมืองของพวกเรา มันจะช่วยยุโรปให้สามารถสร้าง 'โลกที่มีระบบที่ดีขึ้น' ด้วยคุณค่าของเสรีภาพ, ประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม ที่พวกเราชื่นชมและเชื่อมั่นศรัทธา" บาร์รอสโซ่ กล่าว

"ตลอด 60 ปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นยุโรปที่รวมตัวกันอย่างสันติ และอีก 60 ปีข้างหน้า ยุโรปจะต้องเป็นผู้นำโลกไปสู่สันติภาพ" บาร์รอสโซ่ กล่าว

ในวันอาทิตย์ (9 ธ.ค.) ที่ผ่านมา มีนักกิจกรรมและกลุ่มสิทธิมนุษยชนเดินขบวนในกรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์และสถานที่มอบรางวัลเพื่อประท้วงการรับรางวัลของสหภาพยุโรป โดยบอกว่าสหภาพยุโรปไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสมตามข้อกำหนดที่อัลเฟรด โนเบล วางไว้ในปี 1895

"อัลเฟรด โนเบลกล่าวว่า ควรมอบรางวัลให้กับคนที่ทำงานเพื่อการปลดอาวุธ" เอลซ่า-บริทท์ เองเกอร์ ตัวแทนกลุ่ม Grandmothers for Peace กล่าว เธอบอกอีกว่าสหภาพยุโรปไม่ได้ทำตามนั้น แต่เป็นกลุ่มผลิตอาวุธรายใหญ่ของโลก

เรียบเรียงจาก

EU accepts Nobel prize amid criticism, Aljazeera, 10-12-2012

EU receives Nobel peace prize, The Guardian, 10-12-2012