ฐานานุกรม กับเรื่องขมๆ ในดงขมิ้น (ปฐมบท)

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

จากกรณีที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี ได้แต่งตั้ง พระพายัพ ชินวัตร ให้มีสมณศักดิ์เป็น "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณาจารย์" ฐานานุกรมในสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย พุกพุ่มพวง) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส และกรรมการมหาเถรสมาคมนั้น ก็เป็นเรื่องที่พูดกันเกรียวกราว ทั้งในหมู่ญาติโยม และคณะสงฆ์ แต่วันนี้ (19 กพ 56) จากข่าวที่ให้สัมภาษณ์ โดยอธิบดีกรมศาสนาก็ดี หรือตัวพระพายัพเองก็ดี อีกทั้งรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ของคนบนโลกไซเบอร์ ทำให้ผู้เขียนเล็งเห็นว่า ตั้งแต่อธิบดีกรมฯ จนไปถึงประชาชนผู้ที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้นั้น ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสมณศักดิ์น้อยมาก กล่าวคือ

กรณีแรก
กรณีที่อธิบดีกรมศาสนาออกมาติงว่า "สังคมเข้าใจผิด ที่เจ้าประคุณสมเด็จฯตั้ง คือฉายา มิใช่ ฐานาฯ หรือสมณศักดิ์ใดใด ด้วยความเคารพแต่คงต้องขออภัยท่านอธิบดีจริงๆ.. การตั้งฉายาพระที่กรมของท่านตั้งเป็นภาษาไทยว่า "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณาจารย์" หรือขอรับท่าน เป็นที่รู้กันว่า ฉายาของพระพายัพ เป็นภาษามคธคือ เขมคุโณ แล้วท่านอธิบดีไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยขาดข้อเท็จจริงและองค์ความรู้ได้อย่างไรกัน

หรือคำว่า "เขมคุโณ" กับ "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณาจารย์" มันใกล้เคียงกันมากจนท่านอธิบดีแยกไม่ออกเลยหรืออย่างไร       

คนในวงการไม่ว่าจะพระหรือโยม แค่เห็นก็รู้กันแล้วว่า "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณาจารย์"  เป็นฉายา หรือฐานาฯ  ดีไม่ดีแทบจะระบุได้ด้วยซ้ำว่า เป็นฐานาฯนี้ ของพระเดชพระคุณรูปใด ตำแหน่งนี้ว่างอยู่หรือไม่

แต่ท่านอธิบดีกลับไปให้สัมภาษณ์แบบนั้นได้อย่างไร.............

กรณีที่สอง
การที่พระพายัพออกมาอธิบายว่า "การรับสมณศักดิ์ก็เหมือนการรับดุษฎีบัณฑิต เพราะปฏิบัติมามาก สร้างวัดมามาก" ผู้เขียนเข้าใจว่าพระผู้ใหญ่คงบอกพระพายัพมาอย่างนั้น  เรื่องนี้จะโทษผู้รับอย่างเดียวคงจะไม่ได้ คงต้องถามผู้ให้ว่าให้กันไปได้อย่างไรเช่นกัน  ในเมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เป็นถึงเจ้าคณะภาคถึง 5 ภาค (ไม่ใช่ภาค 5 แต่มีถึง 5 ภาคในปกครองได้แก่ ภาค 1,2,3,12,13) พระเดชพระคุณท่านไม่มีพระภายใต้ปกครองที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างประจักษ์เลยหรืออย่างไร การที่แต่งตั้งพระนวกะที่ไม่มีพรรษา   ไม่มีภูมิธรรมใดใดให้มาดำรงสมณศักดิ์ที่สูงกว่า พระเถระหลายพรรษาเช่น พระครูสัญญาบัตรชั้น ตรี-โท-เอก หรือพระเปรียญธรรมเก้าประโยคเกือบค่อนประเทศ เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องชอบธรรมตรงไหน อย่าสักจะอ้างแต่ว่า สิทธิของฉัน อำนาจของฉัน ฉันจะตั้งใครก็ได้ จนไม่เห็นหัวพระรูปอื่นๆในประเทศ ที่ก็ต่างทำงานเพื่อพระศาสนา ยิ่งกว่าที่พระพายัพทำมาก่อนบวช

หรือต่อไปในอนาคตมันก็จะกลายบรรทัดฐาน ถ้าใครก็ตามก่อนออกบวช ทำบุญสร้างวัดเกินร้อยล้าน นั่งปฏิบัติธรรมมาเกิน 300 ชั่วโมง ก็มีสิทธิเป็นพระครูปลัดในสมเด็จฯได้ หลังจากบวชมาไม่กี่วัน ให้พรก็ยังไม่เป็น สวดมนต์ก็ยังไม่ได้ วินัยก็ยังไม่รู้ แต่ก็ไม่เป็นไร

เพราะทั้งจ่าย ทั้งปฏิบัติมาก่อนบวชแล้ว.....

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น จะไปว่าผู้รับคงไม่ได้ เพราะผู้รับคงไม่รู้ว่า "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณาจารย์" มีความสำคัญอย่างไร ก็คงต้องตำหนิผู้ที่ให้นั่นแหละว่า คิดใคร่ครวญกันมาดีแค่ไหน

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท