กลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ ยื่นข้อเสนอเพื่อแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมของการรับน้องใหม่ในปัจจุบันให้ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ชี้ผลกระทบและความรุนแรงในกิจกรรมรับน้องมหาลัย ประกาศเดินสายพูดคุยทุกภูมิภาค
วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2556 เวลา 09.30 น. ตัวแทนกลุ่ม เยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ นำหนังสือ ข้อเสนอเพื่อแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมของการรับน้องใหม่ในปัจจุบัน มายื่นให้กับ ท่าน รมว.กระทรวงศึกษาธิการ แต่เนื่องจากเป็นเช้าวันจันทร์ รมว.พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงมีภาระกิจติดประชุม จึงไม่สามารถมารับหนังสือด้วยตนเอง แต่ได้ส่ง นาง รักขณา ตัณฑวุฑโฒ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ มารับหนังสือแทน
นาง รักขณา กล่าวว่า "ท่านรัฐมนตรี ท่านใจดีค่ะ แต่ท่านติดภาระกิจ ยังไงเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของท่านอยู่แล้ว ดิฉันจะรีบแทงเรื่องนี้ถึงรัฐมนตรี เป็นหนังสือด่วนที่สุด เพื่อพิจารณาต่อไปค่ะ " เมื่อได้รับคำยืนยันจากผู้แทน ที่มารับมอบ เราทุกคนจึงแยกย้ายกัน ในเวลาต่อมา
กลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ โทร 08-33384-100
วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖
เรื่อง ข้อเสนอเพื่อแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมของการรับน้องใหม่ในปัจจุบัน เรียน ฯพณฯ พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เนื่องจากว่าปัญหาการรับน้องใหม่ที่ใช้ระบบว้าก (SOTUS) ในสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ของไทยกำลังส่งผลต่อระบบการศึกษาไทยอย่างเห็นได้ชัดขึ้นและขณะนี้ได้ขยายวงกว้างไปสู่รั้วมัธยมศึกษา โดยเริ่มจากโรงเรียนสาธิตซึ่งรับอิทธิพลมาจากมหาวิทยาลัยอีกทีหนึ่ง เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอันตรายที่ระบบโครงสร้างอันเป็นอุปสรรค์ใหญ่ต่อการพัฒนาคนพัฒนาชาติ หรือที่เราเรียกว่าระบบอุปถัมภ์กำลังเบ่งบานสวนทางกระแสแห่งโลกเสรี การตระหนักถึงความเป็นธรรมในสังคมและการยอมรับกันด้วยความสามารถและความพอใจของทั้งสองฝ่ายไม่อาจจะอยู่ภายใต้ระบบดังกล่าวได้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามเราไม่อาจจะฝืนกระแสแห่งโลกได้อย่างแน่นอน ที่เราจะคงไว้ซึ่งระบบอันมิเคยสร้างประโยชน์และการยอมรับให้กับสังคมการศึกษาบ้านเราเลย มิหนำซ้ำกลับทำให้เราถูกเพื่อนบ้านหรือนานาชาติมองว่า นักศึกษาไทย ป่าเถื่อน ล้าหลังและ ขาดการใช้เหตุผล สั่งสอนให้นักศึกษาอดทนต่อความอยุติธรรมมากกว่าการใช้เหตุผลและการพึงรักษาสิทธิแห่งตน กลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ ซึ่งกลุ่มของเรา รณรงค์ให้มีการแก้ไขปรับปรุงพิธีกรรมรับน้องซึ่งไม่สอดคล้องกับโลกเสรีประชาธิปไตย โดยเรารณรงค์มา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๕๔ จนถึงวันนี้กลุ่มเราได้มีสมาชิก ในกลุ่มกว่า ๔,๗๐๐ คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงได้จัดงานประชุมใหญ่สมาชิกประจำปีและมีการเสวนา ในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖ ที่ ห้องประชุม ชั้น ๓ อาคาร ประชาสังคมอุดมพัฒน์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหิดล ศาลายา ในหัวข้อ "การรับน้องกับการศึกษาไทยในอนาคต" โดยเราได้เชิญกลุ่ม นิสิต นักศึกษา จากทั่วประเทศเข้าร่วมงานในครั้งนี้และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ กลุ่มแสงเสรี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กลุ่มรับน้องสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน เป็นต้น และได้เชิญ ตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ ตัวแทนนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยบูรพาและ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดังนั้นเราจะถือโอกาสที่ได้เปิดเวทีให้นักศึกษาได้ร่วมกันหาทางออกและวางแนวทางแก้ไขกิจกรรมรับน้องของไทยที่ มีระบบ SOTUS เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ โดยเราได้ร่วมกันร่างหนังสือ เพื่อนำมาเสนอต่อ ฯพณฯ รัฐมนตรี ซึ่งข้อร้องเรียนร่วมดังกล่าวมีดังต่อไปนี้ ๑. ขอให้มีการปรับปรุงแก้ไข ประกาศกระทรวงฯว่าด้วยการรับน้อง ให้รัดกุมและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงต่อ นิสิต นักศึกษา มากขึ้น และขอเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรืออื่นๆ ว่าด้วยเรื่องการรับน้องในมหาวิทยาลัยและต้องลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎ อย่างจริงจัง ทั้งทางวินัยและทางอาญาตามที่ระบุโทษไว้ ๒. กระทรวงศึกษาหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแล กิจกรรมการรับน้องใหม่ ควรมีการสอดส่องและเอาใจใส่มากขึ้นก่อนที่กิจกรรมเหล่านี้จะก่อปัญหาขึ้นในอนาคต ๓. กระทรวงศึกษาหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ควรจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์กระจายไปทุกๆโรงเรียน ทุกๆมหาวิทยาลัย ได้เข้าใจถึงการรับน้องที่ถูกต้องตามหลักการและความเหมาะสม ๔. พวกเราทุกคนขอเสนอให้วันที่ ๕ มิถุนายน ของทุกปีเป็นวัน “รักน้องใหม่” เนื่องจากว่า ในวันดังกล่าวเป็นช่วงมีการรับน้องใหม่เกิดขึ้นในหลายสถาบันเพื่อเป็นการรณรงค์ให้เกิดกิจกรรมรักน้องมากกว่าการทำกิจกรรมที่ส่อไปในทางความเป็นรุ่น และที่สำคัญ ๕ มิถุนายน เกิดเหตุการณ์สำคัญต่อสังคมการศึกษาประเทศไทย ดังนี้ ในวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๔๘ นิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชื่อ โชคชัย รุ่งเรืองศรีศักดิ์ ได้ยิงตัวตายจากการทนรับสภาพการรับน้องที่ป่าเถื่อนและส่อไปทางลามก สร้างความอับอาย และการกดขี่จากรุ่นพี่ไม่ไหว จึงเกิดเหตุสลดดังในหน้าสื่อทั่วไป เป็นที่น่าเวทนายิ่ง และทำให้ในปีดังกล่าวต้องยุติกิจกรรมรับน้องทั่วประเทศไปปริยาย ในวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ นักรัฐศาสตร์บางท่านเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ปฏิวัติดอกคูน” เนื่องจาก ดอกคูนเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และจากชื่อ ปฏิวัติดอกคูน เป็นเหตุการณ์ที่ นักศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กลุ่มหนึ่งไม่พอใจต่อการรับน้องที่ผู้เป็นรุ่นพี่ เผด็จการและใช้อำนาจเกินขอบเขต พวกเขาได้ออกมาถือป้ายประท้วงอย่างสันติ ในบริเวณสถานที่จัดงานประชุมเชียร์ จนนำมาสู่การปะทะคารมอย่างรุนแรง และท้ายที่สุด ผู้ใหญ่ก็ไม่เห็นความสำคัญในเรื่องเลวร้ายดังกล่าวที่เกิดขึ้น มิหนำซ้ำ อธิการบดี ในขณะนั้นเอง ได้ให้ สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า พวกนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องนั้น ต่างร้อนวิชา สิทธิมนุษยชน การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความคิดที่คับแคบของผู้บริหารสถานศึกษา ที่จำเป็นต้องใช้ระบบนี้ เพื่อการควบคุมนักศึกษาให้อยู่ในกรอบคิดและอำนาจของผู้บริหารอีกทีหนึ่ง ๕. ขอความกรุณา ท่านรัฐมนตรีหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ช่วยชี้แนะช่องทางสำหรับการแจ้งเรื่องร้องเรียนปัญหาที่มีสาเหตุมาจากการรับน้อง ให้ทราบโดยทั่วกัน หากเป็นไปได้ กลุ่มของเรายินดีเป็นอีกหนึ่งศูนย์ที่พร้อมทำงานเป็นกลุ่มอาสา รับเรื่องร้องเรียนเพื่อนำข้อมูลที่กลั่นกรองแล้ว ประสานให้กับหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับชอบอีกทอดหนึ่ง เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา การร้องเรียนและขอความช่วยเหลือเข้ามายังกลุ่มฯ มีมาตลอด แต่เราก็ไม่อาจจะช่วยเหลือเขาได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะเราไม่ทราบว่าช่องทางใดหรือหน่วยงานใดของรัฐที่จะเป็นที่พึ่งสำหรับนิสิต นักศึกษา เหล่านั้นได้ จึงเรียนมา เพื่อขอ ฯพณฯ รัฐมนตรีได้โปรดพิจารณาข้อเสนอข้างต้น เพื่อเป็นการพัฒนาให้การรับน้องของประเทศไทยไม่ถูกมองจากสังคมโลกโดยเฉพาะสังคมอาเซียนว่ามีความล้าหลัง ป่าเถื่อน และที่สำคัญเพื่อเป็นการตัดต้นต่อของระบบอุปถัมภ์ที่เป็นเนื้อร้ายต่อสังคมไทยนี้มานาน ได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามความถูกต้องดีงามต่อไป
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
(ปิยรัฐ จงเทพ) เลขาธิการ กลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ
|
เมื่อถามถึงความรู้สึกของตัวแทนกลุ่มว่ารู้สึกอย่างไร ปิยรัฐ จงเทพ เลขาธิการ กลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ กล่าวว่า ความตั้งใจแรกเราต้องการยื่นหนังสือกับท่านรัฐมนตรี หรือคณะผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจ แต่เนื่องจากว่าท่านติดภารกิจเร่งด่วนและเป็นความผิดพลาดในระหว่างประสานแจ้งกำหนดการกับทางกระทรวง จึงไม่เกินที่คาดการณ์ไว้เท่าไร แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ สำนักงานรัฐมนตรี ทุกท่านบริการดีมากและไม่ได้กีดกั้นการเข้าพบรัฐมนตรีแต่อย่างไร อนุญาตให้เรารอพบได้แต่ทางคณะเราเองก็ไม่อาจจะอยู่รอพบ เนื่องด้วยไม่ทราบเวลาเสร็จสิ้นการประชุมที่แน่นอน จึงตัดสินขอให้ท่านส่งตัวแทนที่สามารถประสานงานเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด จึงเป็นไปตามที่รายงานไปตั้งแต่ต้น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)