Skip to main content
sharethis

19 พ.ค. 56 - เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า เมื่อเวลาเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง.ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.สามารถ ศิริวิบูรณ์ชัย รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง และพ.ต.ท.จีรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง ยกกำลังชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานีและชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง กว่า 100 นาย นำหมายศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจค้นบ่อนตีไก่ชนคลองสี่ หมู่ 6 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีคนพกพาอาวุธปืนเข้ามาเล่นพนันตีไก่ชน

ที่เกิดเหตุ เป็นบ่อนไก่ขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังกันปิดล้อม และขอกำลังสนับสนุนสายตรวจจราจรร่วมกันค้นรถทุกคันที่เข้ามาจอดภายในบ่อน ซึ่งมีจำนวนกว่า 300 คัน จากนั้นกำลังอีกชุดเข้าไปตรวจค้นภายในบ่อนและห้องพักผู้ดูแลบ่อน ผลปรากฎว่าพบตัวนายสุพัฒน์ หรือนายเบนซ์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกับนายสุพจน์ หรือนายแบงค์ ศิลารัตน์ พี่น้องฝาแฝด อายุ 32 ปี ทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และแกนนำนักวิชาการนิติราษฎร์ ล่าสุดเพิ่งก่อคดียิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือ ทนายเปี๊ยก ได้รับบาดเจ็บ
 
จากการตรวจค้นพบว่า นายสุพัฒน์พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 2 กระบอก คือ ปืนยี่ห้อซีแซด ขนาด 9.มม เหน็บอยู่ที่เอว พร้อมกระสุน 12 นัดอยู่ในรังเพลิงขึ้นลำพร้อมยิง อีกกระบอกเป็นปืนขนาด 11 ม.ม. ยี่ห้อโคลท์ และกระสุน 13 นัด ส่วนนายสุพจน์ ฝาแฝดอีกคน ยืนคุมเชิงอยู่ปากทางเข้าหน้าบ่อนไก่ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย 
 
นอกจากนั้น ตำรวจยังตรวจค้นรถยนต์ของผู้ที่มาเล่นตีไก่ พบอาวุธปืนอีก 6 กระบอก ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 6 คนนำมาสอบสวนที่โรงพัก แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วนแก่พฤติการณ์ 
 
พ.ต.อ.สุนทร ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี หัวหน้าชุดจับกุมเปิดเผยว่า บ่อนไก่แห่งนี้เป็นของผู้ใหญ่ลี อดีตผู้ใหญ่บ้านผู้กว้างขวางในเรื่องวงการตีไก่ ร่วมหุ้นกับสจ.เมืองนนทบุรีคนหนึ่ง เปิดตีไก่มาราวๆ 5-6 เดือนแล้ว ทั้งสองคนได้ชักนำนายสุพจน์และนายสุพัฒน์ พี่น้องฝาแฝดมาคอยติดตามและคุมบ่อนไก่ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนว่าเห็นพี่น้องฝาแฝดพกพาอาวุธปืนและข่มขู่ผู้เล่นอยู่เป็นประจำ เกรงจะเกิดเหตุไม่คาดคิด ตำรวจจึงรีบนำกำลังเข้ามาตรวจค้นเสียก่อน และยังจับกุมนายสุชาติ สาดและ อายุ 31 ปี หรือนายบัง อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 13ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีเพื่อนสนิทของฝาแฝดทั้งสองได้อีกด้วยฐานพกพาอาวุธปืน 2 กระบอก 
 
“จากการตรวจสอบพบว่า นายสุพัฒน์มีอาวุธปืนขนาด 9มม. อย่างถูกต้อง โดยเพิ่งจะขอใบอนุญาตเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 56 ออกให้โดยนายสุวิทย์ คำดี นายอำเภอคลองหลวง เซ็นอนุมัติออกไปอนุญาติเลขที่ 345/2556 ส่วนอีกกระบอกเป็นขนาด 11 มม.ยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่นายสุพัฒน์รับว่าเป็นของตัวเองทั้งสองกระบอก” พ.ต.อ.สุนทร กล่าว
 
ด้านพ.ต.อ.สามารถ รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ระบุว่า การตรวจค้นและจับกุมครั้งนี้ปฏิบัติตามนโยบายของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ที่มอบหมายผ่านมาทางพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เป็นการตรวจค้นเพื่อป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมในปทุมธานี สถานที่ดังกล่าวมีคนและอาวุธปืนจำนวนมากจึงเสี่ยงต่อการก่อเหตุอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นสนามชนไก่มีเอกสารใบอนุญาตถูกต้อง 
 
“ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์เรื่องการควบคุมอาวุธเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม รวมทั้งกวดขันในเรื่องอาวุธปืน เพราะช่วงหลังการก่อเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะปล้นธนาคาร จี้ชิงทรัพย์ พยายามฆ่า หรือแม้กระทั่งการก่อนเหตุทะเลาะวิวาทนั้นนำไปสู่การใช้อาวุธปืนยิงกัน” พ.ต.อ.สามารถ กล่าว
 
สำหรับประวัตินายสุพัฒน์ และนายสุพจน์ ศิลารัตน์ พี่น้องฝาแฝด มีคดีถูกจับกุมข้อหาทำร้ายร่างกายหลายท้องที่ อาทิ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สภ.ธัญบุรี และสภ.คูคต ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.พ. 2555 ทั้งสองคนก่อเหตุบุกชกต่อยทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังโดนจับกุมอ้างว่าไม่พอใจที่นายวรเจตน์เคลื่อนไหวสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ตำรวจส่งฟ้องในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ศาลตัดสินจำคุกและอยู่ระหว่างประกันตัวต่อสู้คดี 
 
ล่าสุด เมื่อเดือนเม.ย. 2556 เข้ามอบตัวสู้คดีใช้ปืน 9 มม. ยิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก อยู่บ้านเลขที่ 512/14 หมู่ 4 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี สาเหตุสอบเบื้องต้นพบว่า ฝาแฝดมาแก้แค้นให้กับอดีตผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อนไก่ที่ตร.เข้าตรวจค้นวันนี้ หลังจากนายจงกลรับว่าความให้อดีตผู้ใหญ่บ้านแล้วทำเรื่องประกันตัวให้ไม่ได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net