Skip to main content
sharethis

ทวี ประจวบลาภ อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา โต้โฟนอินทักษิณบอกการชุมนุมนปช.ไม่ใข่ก่อการร้ายอ้างการยกฟ้องคดีเผาเซ็นทรัลเวิร์ลด์ ชี้ศาลอุทธรณ์อาจกลับคำพิพากษา ย้ำคดีอาญาก่อการร้ายของแกนนำก็ยังดำเนินอยู่

20 พ.ค. 56 - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินงานรำลึกครบรอบ 3 ปีการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุการชุมนุมของ นปช. ไม่ใช่ก่อการร้าย โดยยกตัวอย่างที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และคดีที่ศาลแพ่งให้บริษัท เทเวศประกันภัยฯ จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากเห็นว่าการชุมนุมเป็นเพียงการจลาจลไม่ใช่ก่อการร้าย ว่า ที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้นำคดีในศาลอาญากรุงเทพใต้มากล่าวอ้างนั้น คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุดซึ่งหากมีการสู้คดีกันต่อก็ยังต้องใช้เวลาหลายปี และศาลอุทธรณ์ก็อาจกลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ได้ ขณะที่จำเลยที่ถูกฟ้องในศาลอาญากรุงเทพใต้ก็ยังเป็นคนละชุดกัน กับคดีอาญาที่แกนนำ นปช. ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้ายต่อศาลอาญา ซึ่งพยานหลักฐานในการเอาผิดคดีก่อการร้ายที่ศาลอาญานั้นก็มีมากมายกว่า จึงเอามาเทียบเคียงและมีผลผูกพันกันไม่ได้ ส่วนคำพิพากษาศาลแพ่งนั้นก็จะวินิจฉัยคดีที่เป็นทางแพ่งอย่างเดียวเท่านั้น อย่างที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไม่ส่งผลต่อคดีอาญา ขณะที่ตนคิดว่าทั้งสองคดีก็คงจะสู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกาซึ่งต้องใช้เป็นเวลาอีกหลายปีแน่นอน

ขณะที่แหล่งข่าวอัยการระดับสูง กล่าวว่า การฟ้องคดีก่อการร้ายกับ แกนนำ นปช.นั้น ไม่ได้มีประเด็นแค่เรื่องการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เพียงอย่างเดียว ซึ่งการฟ้องคดีนี้ยังมีเหตุการณ์อื่นที่เกี่ยวพันอีกหลายอย่าง เช่น การยิงอาวุธสงครามเข้าสถานที่ราชการหรือสถานที่สำคัญต่างๆ , การปิดถนนกีดขวางการจราจร , การเผาศาลากลางจังหวัด ซึ่งบางคดีศาลมีคำพิพากษาไปแล้วว่ากระทำความผิดจริงและตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยบางคนไปแล้ว ขณะที่การฟ้องคดีของอัยการ ก็มั่นใจในหลักฐานว่า ยืนยันถึงการกระทำความผิดได้ว่ามีการสั่งการ ชักจูงจากแกนนำให้ก่อเหตุ
 
ด้านนายอาคม รัตนพจนาร์ถ ทนายความฝ่ายจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิล์ด ที่ศาลอาญากรุงทพใต้ยกฟ้อง ก็กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระยะเวลาที่คู่วามสามารถขยายเวลาอุทธรณ์ได้ คดีจึงยังไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนคดีที่ศาลแพ่งให้บริษัท เทเวศ ประกันภัยฯ จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ทราบว่า บริษัทยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีต่อไป
 
ทั้งนี้ ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อดีตนายกฯ กล่าวถึงวาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองด้วยว่า วาทกรรมนี้ควรจะจบลงได้แล้ว เนื่องจากศาลอาญาพิพากษายกฟ้องจำเลยเผาเซ็นทรัลเวิลด์ในทุกคดี เนื่องจากหลักฐานอ่อนและวันนี้ต้องบอกว่า วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองควรจะจบได้แล้ว สรุปอีกครั้ง ศาลอาญาพิพากษาจำเลยเผา CTW ทุกคดี ชี้หลักฐานอ่อน รวมทั้งหยิบยกคำเบิกความของ พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร ที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยของห้างเซ็นทรัลที่ระบุว่า หากเจ้าหน้าที่ห้างไม่ถูกไล่ออก ไม่มีห้างไม่มีทางไหม้ได้เนื่องจากระบบการป้องกันดีเยี่ยม แต่เพราะถูกกลุ่มผู้ถืออาวุธไล่เจ้าหน้าที่ออก นอกจากนี้ยังหยิบยกกรณีที่ศาลแพ่งพิพากษาให้บริษัทเทเวศน์ประกันภัยจ่ายเงินสินไหมให้ CTW โดยชี้ว่าไม่ใช่การก่อการร้าย 
 
“ประชาธิปัตย์ใช้วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองไปสองรอบ รอบแรก กิน ส.ส.กทม. รอบสองกินผู้ว่ากทม. เพราะเขารู้ว่าคนกรุงเทพขี้ตกใจ ธรรมชาติมนุษย์ ถ้าช่วยตัวเองได้ดี จะเกิดความระแวงความกลัวได้ง่ายกว่าเกิดความรักความผูกพัน เวลาบอกว่าจะทำอะไรดีๆ เขาพิจารณาทีหลัง แต่เอาเรื่องที่กลัวไว้ก่อน ประชาธิปัตย์รู้จุดอ่อนนี้ดี จึงสร้างให้กลัวพวกเราตลอดเวลา แต่ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้วก็อยากให้พี่น้อง กทม.ตื่นเถิด” ทักษิณกล่าวพร้อมระบุว่า ใครก็ตามหรือพรรคประชาธิปัตย์ชี้ช่องให้จับกุมผู้วางเพลิงตัวจริงได้ เขาพร้อมจะมอบเงินรางวัลให้ 10 ล้านบาท  
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีก่อการร้ายที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นฟ้อง 24 แกนนำ นปช.นั้น ขณะนี้ได้สืบพยานโจทก์ไปแล้ว 2 ปาก คือ พ.อ.ธนากร โชติพงษ์ นายทหารปฏิบัติการ กรมข่าวทหารบก ที่เบิกความเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นก่อน ศอฉ.จะประกาศใช้ พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ได้เบิกความยืนยันว่า ยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยเจรจากับแกนนำ นปช.แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งการชุมนุมของ นปช.นั้นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มนปช. คือ มีคนกลุ่มที่ใช้อาวุธสงครามคุกคามสถานที่ราชการและสถานที่ต่างๆ ด้วย เช่น เหตุการณ์คนร้ายยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม การยิงปืนเข้าไป ธ.กรุงเทพฯ หลายสาขา
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net