Skip to main content
sharethis

ขนซากปืนใหญ่พญาตานีจำลองกลับไปซ่อมที่นครปฐม หลังถูกลอบวางระเบิดหักกลาง จังหวัดเล็งทำเวทีสอบถามประชาชน ก่อนนำกลับมาติดตั้งใหม่ ชี้พวกไม่พอใจไม่ได้ของจริงเลยวางบึ้ม คนรัฐยันไม่ได้เหยียดหยาม แต่ต้องการให้เยาวชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์


ภาพถ่ายโดย Muhammadsoray Deng

ขนซากปืนกลับไปซ่อมที่นครปฐม

เมื่อวันที่  12 มิถุนายน 2556 นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางศรวี วาเล๊าะ การท่องเที่ยวและนันทนาการกีฬาจังหวัดปัตตานี นายอภิรัฐ สะมาแอ นายอำเภอเมืองปัตตานี ได้ร่วมกันตรวจสอบความเสียหายของปืนใหญ่พญาตานีจำลอง ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้ามัสยิดโบราณกรือเซะ หมู่ที่ 3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโล๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังจากถูกลอบวางระเบิดเสียหายเมื่อคืนที่ผ่านมา

จากนั้นได้มีการขนปืนใหญ่ที่เสียหายนำขึ้นรถบรรทุก 18 ล้อ เพื่อนำกลับไปซ่อมแซมที่ช่างหมู่สิบ กรมศิลปากร จ.นครปฐม โดยระหว่างการขนย้ายมีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก

 

เล็งเปิดเวทีฟังความเห็นก่อนเอากลับมาใหม่

นายเสรี กล่าวว่า คาดว่าต้องใช้เวลาในการซ่อมประมาณ 3 เดือน เมื่อซ่อมเสร็จแล้ว จะนำกลับมาอีกครั้งหรือไม่นั้น ทางจังหวัดมีแนวคิดที่จะให้มีการทำเวทีรับฟังความคิดเห็นของคนหลายฝ่ายก่อนว่าจะต้องการเอาปืนใหญ่พญาตานีจำลองกลับมาวางไว้ที่เดิมหรือไม่

นายเสรี กล่าวว่า ปืนใหญ่กระบอกนี้ จำลองมาจากปืนใหญ่ที่วางไว้หน้ากระทรวงกลาโหม ใช้เวลาในการหล่อนานเกือบ 1 ปี ส่วนประกอบเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ที่มาจากทองแดงผสมดีบุกในอัตรา 30-70

 

เชื้อมาจากกลุ่มที่ไม่พอใจเพราะไม่ได้ของจริง

นายทหารระดับผู้บังคับกองร้อยในพื้นที่นายหนึ่ง เปิดเผยว่า เหตุลอบวางระเบิดปืนใหญ่ครั้งนี้ มี 2 สาเหตุ คือ 1.เกิดจากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจที่ได้ปืนใหญ่พญาตานีจำลอง และ 2.การสร้างสถานการณ์ความรุนแรงหรือการสร้างสถานการณ์ก่อนจะมีการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐกับฝ่าย BRN ในวันที่ 13 มิถุนายน 2556

นายทหารคนนี้ กล่าวต่ออีกว่า ตนคิดว่า อาจเกิดจากสาเหตุแรกมากกว่า เพราะชาวปัตตานีอยากได้ปืนใหญ่พญาตานีที่ตั้งอยู่หน้ากระทรวงกลาโหมมากกว่าปืนจำลอง แต่ไม่สามารถนำปืนใหญ่ของจริงกลับมาได้ เพราะเป็นสินสงคราม ส่วนการหล่อปืนใหญ่พญาตานีที่ปัตตานีนั้น ทางการบอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะจะต้องลงทุนสูงมาก ทางการไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ รวมทั้งอุปกรณ์และวัสดุไม่พร้อมที่จะหล่อที่ปัตตานี อีกทั้งไม่มีผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ด้วย

“การจำลองปืนใหญ่พญาตานีนั้น ไม่ได้ทำเพื่อที่จะซ้ำเติมหรือเหยียดหยามชาวปัตตานี แต่เพราะต้องการที่จะทำเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวให้แก่เยาวชนรุ่นหลังได้รู้ถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์ปัตตานี” นายทหารคนเดิม ระบุ

นายทหารคนเดิม กล่าวว่า หลังจากซ่อมแซมเสร็จ คิดว่าจะต้องนำกลับมาติดตั้งที่เดิมอีกครั้ง เพราะเป็นความตั้งใจของชาวปัตตานี ที่ต้องการให้เป็นศูนย์การเรียนรู้และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของปัตตานี โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาซ่อมแซมระยะหนึ่ง ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้

 

ชี้ซากยืนยันจำลองไม่ได้มาตรฐาน

ผู้ผลิตสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้คนหนึ่ง ให้ความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุน่าจะมาจากคนที่ไม่เห็นด้วยกับการได้มาของปืนปลอม ซึ่งตนเองก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ชาวบ้านต้องการปืนใหญ่พญาตานีที่ตั้งอยู่หน้ากระทรวงกลาโหมกลับมามากกว่าของจำลอง

ผู้ผลิตสารคดีคนเดิม กล่าวว่า เมื่อไม่สามารถนำปืนใหญ่ของจริงกลับมาได้ ชาวบ้านก็อยากจะให้มีการหล่อปืนที่ปัตตานีเสียเลย แต่ทางรัฐบอกว่าไม่สามารถจำลองที่ปัตตานีได้ เพราะอุปกรณ์และอื่นๆ อีกหลายไม่พร้อม แต่ก็สัญญาว่าจะหล่อปืนใหญ่พญาตานีจำลองให้เหมือนของดั้งเดิมมากที่สุด

“แต่เท่าทีเห็นซากในวันนี้ เป็นการหล่อหรือการจำลองที่ไม่ได้มาตรฐาน มันเหมือนแค่เศษเหล็กมากกว่าการหล่อด้วยทองเหลืองที่มีคุณภาพดี” ผู้ผลิตสารคดีคนเดิม กล่าว

ผู้ผลิตสารคดีคนนี้ กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากให้รัฐรับผิดชอบ แต่ต้องการให้รัฐอธิบายความเป็นมาของการหล่อปืนใหญ่พญาตานีว่า เป็นการหล่อแบบไหน ทำไมไม่เหมือนของดั้งเดิมเลย รัฐต้องการจะสื่อถึงอะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจไม่เกี่ยวกับสถานการณ์รายวันหรือการเจรจาที่จะมีขึ้นวันที่ 13 มิถุนายน 2556

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net