Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์มติชนออนไลน์ รายงานความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มนิสิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  5 คน ถูกแจ้งย้อนหลังให้พ้นสถานภาพการเป็นนิสิต ในวิชาที่เรียนในระดับชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2 วิชาหนึ่ง ซึ่งเป็นวิชาบังคับที่นิสิตทุกคนต้องเรียน  เพราะเหตุจากการที่อาจารย์ผู้สอนส่งผลคะแนนการศึกษาในวิชาดังกล่าวล่าช้ามากกว่า 2 ปี หรือกว่า 5 ภาคการศึกษา  โดยปัจจุบัน นิสิตกลุ่มดังกล่าวศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 4 แล้ว  ประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในประชาคมจุฬาฯ รวมถึงก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในแวดวงการศึกษา และโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก

โดยล่าสุด วันนี้ (20มิถุนายน) คณะผู้บริหารของคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ได้ประชุมกัน รวมถึงเรียกพบนิสิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯทั้ง 5 คน เพื่อชี้แจงและหาทางออก

ในที่ประชุม ผู้บริหารคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ยอมกล่าวขอโทษนิสิตทั้ง 5 คน ต่อกรณีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่มิได้ชี้เเจงเหตุผลหรือข้อผิดพลาด ซึ่งหลังจากการพูดคุยดังกล่าว ทางคณะกรรมการบริหารของคณะ ชี้แจงกับกลุ่มนิสิตดังกล่าวถึงมาตรการเยียวยา ครั้งที่ 2 ซึ่งมี 2 ข้อเสนอด้วยกันคือ

1)    เมื่อนิสิตได้เรียนจนจบชั้นปีที่ 3 แทนที่จะใช้ผลการเรียนเฉพาะปีที่ 1-2 มาคำนวณ ก็จะให้นำผลการศึกษาทั้งหมดที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมาคำนวณ ถ้านิสิตได้พัฒนาตัวเองมาจนถึงจุดที่ผลการเรียนถึงเกณฑ์ที่สามารถเรียนต่อได้ มหาวิทยาลัยก็จะให้นิสิตสามารถเลือกที่จะเรียนต่อไปในภาคการศึกษานี้ได้ทันที
แต่ถ้าหากผลการเรียนเฉลี่ยรวมทั้งหมดที่ผ่านมาต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะเรียนต่อไปได้มหาวิทยาลัยมีทางเลือกที่ 2 ให้กับนิสิตคือ

2)   รับนิสิตที่พ้นสภาพย้อนหลังครั้งนี้เข้ามาเป็นนิสิตปีหนึ่งใหม่เป็นกรณีพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่ภาคการศึกษานี้เป็นต้นไป ให้นิสิตมีเลขประจำตัวนิสิตใหม่ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตได้แก้ตัวและตั้งใจเรียนเพื่อให้มีผลการเรียนที่ดีโดยคณะจะรับผิดชอบค่าเล่าเรียนของนิสิตทุกคนจนกว่าจะสิ้นสุดการศึกษา

ซึ่งสิทธิดังกล่าวนั้นนิสิตทั้ง 5 คนสามารถที่จะเลือกอย่างไรก็ได้ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีจำนวน 2 คนที่เลือกข้อเสนอข้อหนึ่ง ส่วนนิสิตอีกสามคนที่เหลือ ขอกลับไปปรึกษาทางผู้ปกครองก่อน

ล่าสุด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชน มีเนื้อหาดังนี้

แถลงการณ์จากจุฬาฯ กรณีนิสิตนิติศาสตร์ ถูกพ้นสภาพย้อนหลัง

วันที่ 20 มิถุนายน 2556 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ม.ร.ว.กัลยา ติงศภัทิย์ รองอธิการบดีจุฬาฯ และ ศาสตราจารย์ ดร.ศักดา ธนิตกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับกรณีที่มีนิสิตนิติศาสตร์ จำนวนหนึ่ง ต้องพ้นสถานภาพย้อนหลังไปในปี 2554 ว่า ในเรื่องนี้คณะนิติศาสตร์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารคณะ และมีมติเบื้องต้นเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายรายละเอียดตามที่เป็นข่าว โดยอิงจากแนวคำพิพากษาศาลปกครองที่เคยมี หลังจากนั้นคณะได้นำเรื่องมาปรึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยกับคณะนิติศาสตร์ได้พิจารณาร่วมกันหาทางออกอื่นสำหรับนิสิตกลุ่มดังกล่าว โดยมีข้อสรุปเพิ่มเติม ดังนี้

1)    เมื่อนิสิตได้เรียนจนจบชั้นปีที่ 3 แทนที่จะใช้ผลการเรียนเฉพาะปีที่ 1-2 มาคำนวณ ก็จะให้นำผลการศึกษาทั้งหมดที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมาคำนวณ ถ้านิสิตได้พัฒนาตัวเองมาจนถึงจุดที่ผลการเรียนถึงเกณฑ์ที่สามารถเรียนต่อได้ มหาวิทยาลัยก็จะให้นิสิตสามารถเลือกที่จะเรียนต่อไปในภาคการศึกษานี้ได้ทันที

แต่ถ้าหากผลการเรียนเฉลี่ยรวมทั้งหมดที่ผ่านมาต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะเรียนต่อไปได้ มหาวิทยาลัยมีทางเลือกที่ 2 ให้กับนิสิตคือ

2)    รับนิสิตที่พ้นสภาพย้อนหลังครั้งนี้เข้ามาเป็นนิสิตปีหนึ่ง ใหม่เป็นกรณีพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่ภาคการศึกษานี้เป็นต้นไป ให้นิสิตมีเลขประจำตัวนิสิตใหม่ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตได้แก้ตัวและตั้งใจเรียนเพื่อให้มีผลการเรียนที่ดีโดยคณะจะรับผิดชอบค่าเล่าเรียนของนิสิตทุกคนจนกว่าจะสิ้นสุดการศึกษา

แต่ทั้งนี้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะนิสิตกลุ่มนี้เท่านั้นเพื่อเยียวยาที่ต้องเสียเวลาและเสียโอกาสอันเนื่องมาจากการพ้นสถานภาพย้อนหลังเป็นเวลาถึงสองปี

นอกจากนั้น คณะนิติศาสตร์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อรายงานต่อมหาวิทยาลัยพิจารณาว่าต้องมีการดำเนินการทางวินัยต่อไปอย่างไร รวมทั้งจะวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก

ทั้งหมดนี้เป็นทางเลือกที่มหาวิทยาลัยและคณะเห็นว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับนิสิต รวมทั้งได้พบและแจ้งให้นิสิตที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว โดยจะได้เชิญนิสิตและผู้ปกครองมาหารือร่วมกันถึงทางเลือกและข้อสรุปที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net