ฟิลิปปินส์บรรลุข้อตกลง"แบ่งทรัพยากร" กับกลุ่มกบฏมุสลิมโมโร

รัฐบาลฟิลิปปินส์ ประสบความสำเร็จในการเจรจาหาข้อตกลงแบ่งปันทรัพยากรธรรมชาติกับฝ่ายกบฏมุสลิมโมโร ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่อาจนำไปสู่การทำข้อตกลงสันติภาพแบบถาวรร่วมกันในเร็วๆ นี้

 
15 ก.ค. 56 - หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจาของฟิลิปปินส์ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการหารือรอบใหม่กับตัวแทนของขบวนการปลดปล่อยอิสลามโมโร หรือเอ็มไอแอลเอฟ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ฟิลิปปินส์ และกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟ สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการแบ่งปันรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ เตรียมประกาศให้เป็นเขตปกครองตนเอง หากสามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพร่วมกับฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวมุสลิมได้
 
ภายใต้ข้อตกลงล่าสุด รัฐบาลฟิลิปปินส์ยินดีมอบส่วนแบ่งร้อยละ 75 ของรายได้ทั้งหมดจากทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ รวมถึงแร่โลหะที่หาได้ในพื้นที่ ให้กับฝ่ายกบฏมุสลิม ส่วนรายได้จากทรัพยากรด้านพลังงาน อาทิ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ จะมีการแบ่งกันฝ่ายละครึ่ง
 
ผู้แทนเจรจาของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นย่างก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการหาทางออกร่วมกันระหว่างรัฐบาล กับฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนมุสลิม บนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ หลังจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วราว 1 แสน 5 หมื่นราย
 
นอกจากนี้ ทางการฟิลิปปินส์ยังคาดว่า ข้อตกลงล่าสุดจะนำไปสู่การหาข้อสรุปเกี่ยวกับสนธิสัญญาสันติภาพร่วมกันกับกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟได้ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด ในเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม ในปลายเดือนนี้
 
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลฟิลิปปินส์ กับฝ่ายกบฏเอ็มไอแอลเอฟ สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นร่วมกัน โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์รับปากจะอนุญาตให้ฝ่ายกบฏมุสลิม จัดตั้งเขตปกครองตนเองขึ้นบนเกาะมินดาเนา ภายใต้ชื่อว่า "บังสะโมโร"
 
พื้นที่ดังกล่าวเชื่อว่าอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งทองคำ ทองแดง และแร่อื่นๆ รวมมูลค่าราว 8 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 26 ล้านล้านบาท
 
อย่างไรก็ตาม แม้ล่าสุดทั้งฟิลิปปินส์ และกบฏเอ็มไอแอลเอฟ จะสามารถบรรลุข้อตกลงแบ่งสันทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันได้แล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่า การเจรจารอบต่อไปยังมีเรื่องท้าทายอื่นๆ และคาดว่าอาจต้องถกเถียงกันรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเด็นด้านการปลดอาวุธฝ่ายกบฏ และขอบเขตอำนาจของรัฐบาลท้องถิ่นในอนาคต
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท