โสภณ พรโชคชัย: ผังเมือง กทม. ต้องแก้ตั้งแต่วันนี้

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ตามที่ได้ประกาศใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครแล้ว และมีกำหนดหมดอายุในปี 2560 นั้น แม้ทางราชการจะประกาศว่าสามารถแก้ไขได้ทันที แต่เชื่อว่าคงไม่ได้แก้ไข เพราะลำพังผังเมืองรวมทั่วประเทศ 190 บริเวณก็หมดอายุไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

ในอนาคตร่าง พ.ร.บ.ผังเมืองฉบับใหม่ จะให้ผังเมืองมีการประกาศใช้ได้สำหรับระยะเวลา 10 ปี หากไม่สามารถแก้ไขได้ทัน ก็จะให้คงต่อไปได้อีก 10 ปี และหากไม่สามารถแก้ไขได้ทันอีก ก็ยังต่ออายุได้ 2 ครั้งๆ ละ 2 ปี สิริรวมแล้ว หากผังเมืองฉบับหนึ่งๆ อาจอยู่อย่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และอยู่อย่างไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนถึง 24 ปี

อย่างกรณีผังเมืองรวม กทม. ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงหลายด้าน เช่น

1. ผังเมืองนี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด ไม่มีมาตรการใดที่จะให้ประชาชนเชื่อใจได้ว่าหากเกิดน้ำท่วมอีก กรุงเทพมหานครจะป้องกันได้ ปัจจุบันนี้แม้แต่ฝนตกหนัก น้ำก็ยังท่วม มาตรการที่กำหนดให้ประชาชนต้องเว้นที่ดินไว้ 1/3 เป็นที่ว่างเพื่อให้น้ำซึมผ่านได้นั้น เป็นแนวคิดที่สุดบุพกาล เสมือนกับไม่มีระบบระบายน้ำใดๆ เลย

2. ผังเมืองนี้ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร เพราะไม่ใช่แผนแม่บทในการพัฒนาสาธารณูปโภค หน่วยงานด้านถนน รถประจำทาง ทางด่วน ระบบขนส่งมวลชนต่างพัฒนาไปคนละทิศละทาง แต่ในทางตรงกันข้าม ผังเมืองกลับอ้างว่าวางแผนตามระบบคมนาคม ซึ่งหากผังเมืองหมดอายุในปี 2560 ก็ยังไม่แน่ว่าโครงการเหล่านี้จะได้ก่อสร้างหรือไม่ เท่ากับผังเมือง เอาข้อมูลที่ไม่เป็นจริงมาวางผังเมือง

3. ผังเมืองนี้ไม่ได้ประสานกับหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคเลย เพราะกรุงเทพมหานครไม่ได้ประสานแผนงาน 5 ปีของการไฟฟ้า การประปา การโทรศัพท์ การไปรษณีย์ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ฯลฯ เข้ากับผังเมืองนี้แต่อย่างใด

4. ที่ว่าจะสร้างกรุงเทพมหานครเป็นเมืองสีเขียว (Green City) ในความเป็นจริง ผังเมืองกลับทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองเพิ่มโลกร้อน เนื่องจากไม่ยอมให้มีการก่อสร้างในเมือง แต่หากใครออกไปสร้างนอกเขตกรุงเทพมหานครก็เท่ากับได้รับการ "ปล่อยผี" ทำให้เมืองขยายออกสู่ภายนอกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

5. ผังเมืองนี้ออกมา ทำให้อพาร์ทเมนท์สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่มีขนาด 1,000 ตารางเมตรขึ้นไปและมีอยู่ดกดื่นในเขตชั้นกลางของเมือง ก็จะสร้างไม่ได้อีกต่อไป เพราะเขากำหนดให้สร้างได้เฉพาะที่อยู่ติดถนนที่มีความกว้าง 30 เมตร ซึ่งไม่มีซอยไหนมีขนาดดังกล่าวเลย ก็คือห้ามสร้างนั่นเอง ยิ่งกว่านั้นทาวน์เฮาส์สำหรับผู้มีรายได้ปานกลางในเขตชานเมือง ซึ่งมีอยู่ดกดื่น ก็จะสร้างไม่ได้อีกต่อไป หรือสร้างได้ก็ต้องมีถนนกว้างๆ ซึ่งไม่มีถนนหนมีความกว้างเช่นดังอ้าง

6. กรุงเทพมหานครวางแผนว่าจะตัดถนนกว้างๆ อีก 140 ถนน เพื่อแก้ปัญหาจราจร แต่ในความเป็นจริง ไม่มีงบประมาณ เป็นแค่การขีดเขียนไว้ในผังเมืองเท่านั้น ถนนหลายเส้นวางผังมาตั้งแต่ผังเมืองฉบับก่อน ก็ยังไม่ได้ทำเลย แต่กลับสร้างปัญหากับประชาชน เพราะหากจะขออนุญาตก่อสร้าง ต้องใช้แนวตามแนวถนนเสนอแนะเหล่านี้ เช่น ถนนซอยปัจจุบันกว้าง 10 เมตร หากในผังเมืองกำหนดว่าจะขยายเป็น 16 เมตรก็เท่ากับเราต้องถอยร่นจากที่ดินของเราเองไปข้างละ 3 เมตร กรณีนี้เป็นการรอนสิทธิที่ชัดเจน

7. ที่ว่าผังเมืองนี้ให้โบนัสพิเศษแก่ที่ดินที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้านั้น เป็นการโอ่เกินจริง เพราะต้องเป็นสถานีที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่สถานีที่กำลังก่อสร้างด้วยซ้ำ แล้วใครจะไปขออนุญาตทัน ที่สำคัญโบนัสเหล่านั้นยังเป็นโบนัสที่รับไม่ได้ เช่น ให้เจ้าของที่ดินสร้างอาคารเพิ่มได้อีกนิดหน่อย หากจัดหาที่จอดรถให้ชาวบ้านที่ไปขึ้นรถไฟฟ้าได้จอดรถฟรี ลำพังที่จอดรถของอาคารก็ไม่พอแล้ว แล้วใครจะอยากได้โบนัสพิเศษแบบปลอมๆ เช่นนี้

โดยสรุปแล้ว ผังเมืองนี้ เป็นการแก้ปัญหาเมืองแบบซุกปัญหาไว้ใต้พรม เพราะแทนที่จะจัดระเบียบการใช้ที่ดินที่ดี กลับปัดปัญหาออกไปนอกเมือง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรของกรุงเทพมหานครลดลงในระยะหลายปีที่ผ่านมา เพราะประชาชนไม่สามารถอยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครได้ เพราะความพยายามทำเมืองให้หลวม กรุงเทพมหานครควรคิดใหม่ ทำเมืองให้หนาแน่น (High Density) แต่ไม่แออัด (Overcrowded) แต่ปัจจุบันกลับทำในทางตรงกันข้าม

นอกจากนี้ควรให้การเคหะแห่งชาติและหน่วยงานอื่นโดยควรใช้วิธีจัดรูปหรือเวนคืนที่ดินชานเมือง เช่น เขตหนองจอก ราว 10,000 – 20,000 ไร่ สร้างเมืองใหม่แบบปิดล้อมแต่มีระบบขนส่งมวลชนเข้าสู่ใจกลางเมืองโดยตรง แล้วจัดสรรที่ดินที่มีสาธารณูปโภคครบ (serviced land) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ศูนย์ธุรกิจ เป็นต้น ร่วมกรมธนารักษ์เพื่อนำที่ดินใจกลางเมืองมาพัฒนาเป็นศูนย์ธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจมีการรวมศูนย์ สาธารณูปโภคไม่ต้องขยายตัวอย่างไร้ขอบเขต เป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจด้วยกันเองในพื้นที่ และร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อจัดสร้างนิคมให้โรงงานได้ใช้ในราคาถูกเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม และเพื่อห้ามการก่อสร้างโรงงานตามท้องนาหรือย่านชานเมืองเช่นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ต้องเร่งแก้ไขผังเมืองแต่วันนี้ เพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม อย่าปล่อยให้ผังเมืองเป็นการดำเนินการตามระบบราชการที่ขาดความเข้าใจในการพัฒนาเมืองอย่างแท้จริง
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท