Skip to main content
sharethis

นายศรีสุวรรณ  จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผย สมาคมฯใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 62 ได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา 279 วรรคสาม เหตุเพราะไม่ยอมรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลต่อรัฐสภาภายในกำหนดหนึ่งปีตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 75 บัญญัติไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว และผิดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2551 ข้อ 6 ประกอบข้อ 8 และข้อ 9 อันเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลหรือมาตรฐานทางจริยธรรม ถือเป็นการกระทำความผิดอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการตามมาตรา 270 เพื่อส่งเรื่องให้วุฒิสภาใช้อำนาจถอดถอนต่อไป

เขาระบุว่า หลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2554เป็นต้นมา ปวงชนชาวไทยไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่านับแต่นายกรัฐมนตรีและหรือคณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ได้ตรากฎหมายใด ดำเนินการตามนโยบายใด ในระยะเวลาใด เพื่อบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐใดแล้วหรือไม่ เพียงใด เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องรายงานผลการดำเนินการต่อรัฐสภาปีละหนึ่งครั้ง แล้วไม่ยอมดำเนินการย่อมถือได้ว่าจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว จึงไม่สมควรที่ทำหน้าที่บริหารประเทศอีกต่อไป

นอกจากนี้ สมาคมฯยังได้ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัย กรณีพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 ที่ผ่านมามาตรา 28 เข้าข่ายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ที่กำหนดให้คณะรัฐมนตรีสามารถใช้จ่ายเงินงบประมาณโดยไม่จำต้องผ่านรัฐสภาก่อนได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการขัดต่อหลักนิติธรรม ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 3 ที่บัญญัติการใช้อำนาจอธิปไตย ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ใช้อำนาจนั้นผ่านทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรีและศาล และอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อแผ่นดินและระบบการเงินการคลังของชาติได้ อีกทั้งจะกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน จากโครงการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินงบประมาณให้ดำเนินการไปโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาได้ เช่น โครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน โครงการลงทุนด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาท

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net