น้ำบึงเกลือเอ่อล้น ฟื้นวิถีชุมชนดอนฮังเกลือ แต่ชาวบ้านยังหวั่นแล้งซ้ำ

น้ำบึงเกลือเต็มเอ่อหลังฝนตกมาอย่างต่อเนื่อง ด้านชาวบ้านหวั่นหากหน่วยงาน อบต.ยังไม่เร่งดำเนินการบริหารจัดการระบบน้ำ คาดช่วงหน้าแล้งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนที่ผ่านมา
 
ภายหลังประสบปัญหาน้ำในบึงเกลือ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘ทะเลอีสาน’ แห้งลงนับแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ระดับน้ำแห้งจนเห็นเป็นลานดินมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พืชผักของชาวบ้านที่ปลูกไว้แห้งตายเกือบหมด ทั้งยังกระทบต่อการหาปลา กระทั่งปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมฝนได้ตกหนักมาอย่างต่อเนื่องหลายวัน
 
นายบุญตา หมุนวงศ์ ชาวชุมชนดอนฮังเกลือ กล่าวว่า ทุกวันนี้น้ำในบึงเกลือเอ่อล้นขึ้นมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านทั้งในชุมชนและละแวกใกล้เคียง ได้ฟื้นคืนการทำมาหากินในหนองน้ำใหญ่นี้อีกครั้ง
 
ทั้งนี้ ‘ทะเลอีสาน’ ที่เป็นผืนน้ำกว้างใหญ่กว่า 5 พันไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งหาปลา แหล่งน้ำทำเกษตรกรรม หล่อเลี้ยงชีวิตชุมชนมาหลายชั่วอายุคน
 
 
บุญตา กล่าวด้วยว่า โดยปกติวิถีชุมชนหาอยู่หากินโดยพึงพิงธรรมชาติ ภายหลังว่างจากนาหว่านไถ ก็ล่องเรือไปหาจับปลา จับกุ้งตามหนองน้ำ รวมทั้งหาเก็บหอย กบ เขียด เก็บผักบุ้ง หรือสิ่งที่สามารถนำมาเลี้ยงชีวิตประกอบอาหารทำกินกันในครอบครัว โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินไปหาซื้อจับจ่ายในท้องตลาดให้มากนัก ถือเป็นการประหยัดรายจ่ายไปในตัว
 
อีกทั้งส่วนที่เหลือจากการจับมายังนำไปขายเพื่อเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งด้วย เพราะในหนองน้ำนั้นมีความหลากหลาย ถือเป็นโรงครัวใหญ่ ที่ชุมชนสามารถเข้ามาประกอบอาชีพกันได้
 
 
สำหรับกิจกรรมวันนี้ ชาวชุมชนดอนฮังเกลือร่วมกันพายเรือไปกลางโคก หรือที่เรียกว่าเกาะกลางลำคลองบึงเกลือ เพื่อไปหาจับหนูพุก หรือหนูนา ครั้งนี้เป็นวันที่ 4 ทีออกตามจับหนู ตั้งแต่เช้ายันเย็น
 
บุญตาเล่าว่า นอกจากจะนำหนูที่ล่าได้มาประกอบอาหารกินกันในครอบครัวแล้ว ส่วนที่เหลือจากการแบ่งกัน เพราะชุมชนดอนฮังเกลือที่มีสมาชิกอยู่ 19 ครอบครัวนี้ ใช้ชีวิตแบบการมีส่วนร่วมหากินทั้งจับปลารวม รวมทั้งทำนารวม แปลงผักสวนครัวรวมในพื้นที่ราว 30 ไร่
 
หากเหลือจากการปันแบ่งกันก็นำออกไปขาย ในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งหนู 2 ตัวจะนำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม และหาการจับหนูแต่ละครั้งจะได้หนูประมาณ 40 - 50 ตัว
 
 
อย่างไรก็ตาม บุญตายังคงกล่าวถึงความกังวลของเขาและชาวบ้านว่า ในช่วงหน้าแล้งนี้ หาก อบต.หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ยังไม่สามารถลงมือบริหารจัดการน้ำอย่างจริงจังโดยการกักน้ำให้พอใช้ตลอดทั้งปีแล้ว วิถีชุมชนซึ่งมีรายได้จากการหาปลา จับสัตว์น้ำ จับหนู ปลูกพืชผักมาเลี้ยงชีวิตได้ อาชีพของพวกเขาคงหายไปกับสายน้ำที่แห้งขอดลงไปเหมือนที่ผ่านมา
 
บุญตา กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้แม้ชาวบ้านจะเสนอให้มีการป้องกันภัยแล้งโดยให้มีการยกระดับฝายกั้นน้ำจากเดิมที่มีระดับต่ำมากให้สูงขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำไม้ให้ไหลออก และทาง อบต.บึงเกลือก็เคยรับปากจะดำเนินการยกระดับฝายให้สูงขึ้น แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
 
ทั้งนี้ ชุมชนดอนฮังเกลือมีความขัดแย้งอยู่กับ อบต.บึงเกลือ เพราะทาง อบต.พยายามขับไล่ชุมชนออกจากพื้นที่ เพื่อจะเนรมิตบึงเกลือทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชาวชุมชนดอนฮังเกลือจึงลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกิน และได้รับการประกาศเป็นพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชน จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2551
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท