Skip to main content
sharethis
 
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 56 ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์แนวหน้ารายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 8 สิงหาคม บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พังงา หมู่ที่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา เกิดเหตุชาวโรฮิงญา 261 คน ซึ่งถูกคุมขังในด่านตม. ลุกฮือประท้วงพังประตูห้องขังออกมาออกันอยู่หน้าประตูเหล็กอาคารควบคุม ยื่นข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อทำละหมาด เนื่องในวันออกบวชตามประเพณีศาสนาอิสลาม แต่เจ้าหน้าที่ประจำด่านไม่ยอม เพราะมีบางส่วนขอย้ายไปประเทศที่ 3 เกรงถ้าปล่อยออกมาจะหลบหนี ทำให้เหตุการณ์บานปลาย เมื่อชาวโรฮิงญาพยายามพังประตูเหล็กหน้าอาคารเกือบสำเร็จ
 
ต่อมาพล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผบก.ภ.จว.พังงา ซึ่งได้รับรายงานนำกำลังตำรวจ นปพ. ตำรวจชุดปราบปรามการจลาจล เจ้าหน้าฝ่ายป้องกันจังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอสนธิกำลังกว่า 100 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน พยายามเจรจาต่อรองขอให้ออกมาทำละหมาดชุดละ 5 คน เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม แต่ชาวโรฮิงญาไม่ยินยอม ตะโกนโวยวายพยายามพังประตูรั้วเหล็กกั้น เจ้าหน้าที่จึงนำคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพังงา มาเกลี้ยกล่อมจนชาวโรฮิงญาสงบลงได้เพียงชั่วครู่ ก่อนจะลุกฮือขึ้นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงเตรียมพร้อมกระบอง และอุปกรณ์สลายฝูงชน และนำแผงเหล็กกั้นประตูรั้วเหล็กอีกชั้น พร้อมวางแผนระงับเหตุ ทำให้บรรยากาศตึงเครียด เพราะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างสองฝ่าย
 
โดยขั้นแรกใช้วิธีตรึงกำลัง แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ประกอบกับรั้วเหล็กกั้นประตูหน้าอาคารไม่แข็งแรง และมีท่าทีว่าจะพังออกมาได้ จึงใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำสลายกลุ่มโรฮิงญา แต่ไร้ผล จึงทำได้เพียงวางกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามฝูงชนของตร.ภ.จว.พังงา และอส.ฝ่ายความมั่นคง ตรึงกำลังไว้หน้าอาคารอย่างแน่นหนา รวมทั้งปิดล้อมทางเข้า ?เนื่องจากเกรงว่า ถ้าชาวโรฮิงญาออกจากอาคารควบคุมได้จะเป็นอันตราย เพราะบริเวณรอบๆ มีหน่วยงานราชการ โรงเรียนอนุบาล
 
ด้านพล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงาเปิดเผยว่า หลังรับแจ้งผู้ต้องหาชาวโรฮิงญา 261 คน ถูกขังลืมไว้ที่ด่านตม.พังงามาร่วม 6 เดือนแล้วก่อจลาจลขึ้นในห้องขัง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกขังลืมและอยากไปประเทศที่ 3 ตำรวจเตรียมกำลังปราบจลาจลพร้อมอาวุธครบมือ 2 กองร้อยเข้าระงับเหตุ โดยวางแผนตามขั้นตอนกฎหมาย เริ่มตั้งแต่เจรจา และให้พกพาได้เพียงกระบอง ห้ามใช้อาวุธเด็ดขาด
 
กระทั่งเวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ไว้ได้ โดยนำผู้ต้องขังขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา ไปแยกขังตามสถานีตำรวจภูธรในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยใช้เวลาดำเนินการประมาณ 8 ชั่วโมง
 
โดยร.ต.อ.อุดม ทองจีน รรท. ต.ม.จว.พังงายืนยันว่า ผู้ต้องขังชาวโรฮิงญาทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างดี ในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งในการกักผู้หลบหนีเข้าเมืองเป็นการกักขังชั่วคราวไม่เกิน 7 วันตามมาตรฐาน จากนั้นจะส่งกลับประเทศทันที สำหรับชาวมุสลิมโรฮิงญาถือเป็นกรณีพิเศษ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา มีตัวแทนผู้ต้องขังโรฮิงญาขอออกมาทำพิธีละหมาด บริเวณลานหน้าอาคารควบคุมฯ โดยขอออกมาพร้อมกันทั้งหมด 261 คน เนื่องจากเป็นวันสิ้นสุดการถือศีลอดเดือนรอมฎอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.เข้าใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา แต่การที่ขอออกมาจากห้องกักขังพร้อมกัน เจ้าหน้าที่เกรงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ เพราะจำนวนเจ้าหน้าที่มีน้อย? ทำให้ผู้ต้องขังไม่พอใจก่อเหตุประท้วงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากนี้ได้กระจายผู้ต้องขังโรฮิงญาเหล่านี้ไปกักขังตามสถานีตำรวจภูธรต่างๆ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนจะหามาตรการชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net