Skip to main content
sharethis

กอ.รมน.สรุปเหตุไฟใต้ช่วงรอมฎอนน้อยที่สุดตั้งแต่ปี2550 รวม 69 เหตุการณ์ ส่วนใหญ่มุ่งเป้าเจ้าหน้าที่รัฐ ชี้สอดคล้องกับป้ายผ้า–พ้นสีไล่ทหาร ระบุมีเป้าหมายอ่อนแค่ 5 รวมลอบยิงอิหม่ามมัสยิดกลางปัตตานี ชี้ตั้งแต่เริ่มพูดคุยสันติภาพมีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเป้าลดลง แต่เจ้าหน้าที่ตกเป็นเป้าเพิ่ม

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2556 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) สรุปสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเดือนรอมฏอน 2556 ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในห้วงเดือนรอมฏอน ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม ถึง 7 สิงหาคม 2556 พบว่า ปรากฏเหตุการณ์ทั้งสิ้น 69 เหตุการณ์ ส่วนใหญ่เป็นการก่อเหตุลอบวางระเบิดต่อเป้าหมายเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ทหาร สอดคล้องกับการติดแผ่นป้ายผ้าและการพ้นสีสเปรย์ โดยมีข้อความในทำนองขับไล่ทหารออกจากพื้นที่

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุอีกว่า แต่อย่างไรก็ตามในเดือนรอมฏอนปีนี้ไม่เกิดเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมในเขตเมืองหรือเขตเศรษฐกิจ ซึ่งแตกต่างจากเดือนรอมฏอนปี 2555 ที่เกิดเหตุคาร์บอมในเขตเมืองและเขตเศรษฐกิจ ทั้งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อ 20 กรกฎคม 2555 และที่โรงแรมซีเอส.ปัตตานี เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2555

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุต่อไปว่า ส่วนการก่อเหตุลอบยิงก็เช่นกัน เป้าหมายหลักยังคงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีเป้าหมายอ่อนแอที่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์มีเพียง 5 เหตุการณ์เท่านั้น รวมถึงเหตุลอบยิงนายยะโก๊บ หร่ายมณี โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาสายกลางไม่นิยมความรุนแรง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตามในเดือนรอมฏอนปีนี้ได้เกิดเหตุการณ์ใช้ระเบิดเพลิงเพื่อทำลายต่อเป้าหมายในเชิงสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจ เช่น โรงงาน บริษัท และร้านค้า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุอีกว่า หากเปรียบเทียบในเชิงปริมาณ พบว่าเดือนรอมฏอน 2556 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนรอมฏอน 2555 แต่ยังน้อยกว่าในห้วงเดือนรอมฏอนของทุกปีนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุว่า หากเปรียบเทียบในเชิงคุณภาพด้านความสูญเสีย พบว่าเดือนรอมฏอน 2556 มีผู้เสียชีวิตเพียง 23 คน ซึ่งน้อยกว่าในห้วงเดือนรอมฏอนของทุกปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ 2550 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข้อสังเกตว่าในเดือนรอมฏอนปีนี้ หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว จะพบว่าเป้าหมายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ลดลง

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่เริ่มกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทย และตัวแทนของกลุ่มผู้เห็นต่าง เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นมา ปรากฏว่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุลดลง เฉลี่ยวันละ 0.31 คนต่อวัน ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐตกเป็นเป้าหมายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 0.43 นายต่อวัน

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ระบุว่า กอ.รมน.ภาค 4 สน. จะยังคงดำรงความมุ่งหมายตามมาตรการที่กำหนดไว้ด้วยการมุ่งเน้นเพื่อปกป้องและคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพร้อมกับจะใช้มาตรการทางกฎหมายในการติดตามคนร้ายที่กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net