Skip to main content
sharethis

ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์กรภาคประชาชนด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก ชี้พบแนวโน้มกีดกันสิทธิของผู้ลี้ภัยในสวิส หลังจากหน่วนงานท้องถิ่นออกกฎห้ามไม่ให้ผู้อพยพที่เข้ามาลี้ภัยใช้บริการสระว่ายน้ำ สนามกีฬาและโรงเรียน โดยก่อนหน้านี้มีการโหวตห้ามสร้างหออะซาน และล่าสุดคือการเลือกปฏิบัติต่อพิธีกรดังอย่างโอปราห์ วินฟรีย์

นายแกรี่ ซิมส์สัน นักวิจัยอาวุโสด้านผู้อพยพและผู้แทนองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า เมืองเบรมการ์เท้น(Bremgarten) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับนครซูริค เมืองใหญ่ของสวิส ได้ออกกฎห้ามไม่ให้ผู้ลี้ภัยทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าว ใช้บริการสระว่ายน้ำหรือศูนย์กีฬาของเมือง โดยหนังสือพิมพ์ของสวิส รายงานเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า นายมาริโอ้ กัตติเกอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการอพยพ ได้ประกาศข้อตกลงระหว่างกระทรวงฯ กับเทศบาลเมืองเบรมการ์เท้น  อนุญาตให้หน่วยงานราชการออกกฎห้ามผู้ลี้ภัยใช้บริการสระว่ายน้ำ ศูนย์กีฬาและโรงเรียนได้


ตามคำกล่าวของนายกัตติเกอร์ระบุว่า กฎดังกล่าวใช้เฉพาะผู้ลี้ภัย เพราะว่าพวกเขาเป็นผู้ลี้ภัย และมีความจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและความไม่พอใจระหว่างชาวเมืองที่อาศัยกว่า 6,500 คนกับผู้ลี้ภัยไม่กี่สิบคนซึ่งอาจเพิ่มขึ้นถ้ามีผู้ลี้ภัยจำนวน 50คน เล่นฟุตบอลหรือว่ายน้ำพร้อมกัน

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นเหตการณ์ล่าสุดที่แสดงให้เห็นแนวโน้มของปัญหาการเลือกปฏิบัติในสวิตเซอร์แลนด์ จนกลายเป็นประเด็นและมีการตั้งคำถามในเรื่องนี้ทั้งจากชาวสวิส ต่างประเทศและสื่อ หลังเกิดกรณีกับนางโอปรา วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดังชาวอเมริกัน ที่ถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติจากพนักงานร้านกระเป๋าหรูในนครซูริค เป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2552 ประชาชนชาวสวิสลงคะแนนเสียงห้ามการก่อสร้างหออะซานประจำสุเหร่า  (หอคอยสูงที่ใช้สำหรับประกาศเรียกและกระจายเสียงเวลาละหมาด) และในปีถัดมา ยังได้รับรองให้เนรเทศชาวต่างชาติได้ทันที หากถูกตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาที่ร้ายแรง ซึ่งหมายรวมถึงความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ แต่รัฐบาลกลางได้ยับยั้งเรื่องดังกล่าวแล้ว ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ชาวสวิสได้ออกเสียงรับรองให้เพิ่มความเข้มงวดกับกฎหมายผู้ลี้ภัยให้มากขึ้น โดยเฉพาะยกเลิกการขอสถานะผู้ลี้ภัยกับสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ และปรับลดสวัสดิการพื้นฐานของผู้ลี้ภัย ทำให้หน่วยงานผู้ลี้ภัยขององค์การสหประชาชาติต่างออกมาวิจารณ์

ภายใต้กฎหมายของสหภาพยุโรปและกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลสวิสต้องอธิบายได้ถึงความชอบธรรมในการออกกฎที่เป็นข้อยกเว้นเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายและเดินทาง ซึ่งรัฐบาลสวิสต้องอธิบายได้ว่า การออกกฎไม่อนุญาตให้เข้าไปในสระว่ายน้ำสาธารณะ หรือการใช้พื้นที่อำนวยความสะดวกของโรงเรียนรัฐนั้นเป็นไปตามหลักความได้สัดส่วน และไม่ขัดต่อหลักเรื่องการเลือกปฏิบัติระหว่างพลเมืองสวิสกับชาวต่างชาติ ซึ่งแกรี่ ซิมส์สัน ชี้ว่า หากพิจารณาตามหลักกฎหมายทั้งของยุโรปและกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว การออกกฎห้ามผู้ลี้ภัยเข้าใจพื้นที่สาธารณะเหล่านี้ล้วนละเมิดหลักที่กล่าวมา

ผู้ลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบจากการออกกฎครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงผู้ลี้ภัยจำนวน 23 คนที่อาศัยอยู่ก่อน แต่จะรวมถึงผู้ลี้ภัยอีก 125 คนที่กำลังจะเข้ามาพำนักในศูนย์รับผู้ลี้ภัยของรัฐบาลในเมืองเบรมการ์เท้น ซึ่งได้เปิดทำการไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ผู้ลี้ภัยที่จะเปิดในเมืองแอลป์นาใน นวันที่ 19 สิงหาคมนี้ แต่ผู้ว่าการเมืองแอลป์นาชได้กล่าวว่า อาจมีการออกกฎห้ามผู้ลี้ภัยไม่ให้เข้าโรงเรียน ศูนย์กีฬา บ้านพักคนชรา และย่านที่อยู่อาศัยทั้งหมด และผู้ว่าการเมืองเมนซิงเก้น ซึ่งกำลังจะมีศูนย์ผู้ลี้ภัยภายในปี 2558 ก็ตรียมออกกฎห้ามลี้ภัยเข้าพื้นที่อ่อนไหว อย่างเช่นพื้นที่ใกล้โรงเรียน โดยให้เหตุผลว่า การอนุญาตให้เข้าใกล้พื้นที่อ่อนไหวเช่น โรงเรียนจะทำให้ผู้ลี้ภัยมีโอกาสพบกับเยาวชน เด็กนักเรียนชาย-หญิงที่เป็นพลเมืองสวิสได้

แกรี่ ซิมส์สัน ระบุในท้ายรายงานของเขาว่า สวิตเซอร์แลนด์มีผู้อพยพที่ลงทะเบียนแล้วจำนวน 75,000 คน และสวิสเซร์แลนด์ยังมีโอกาสที่จะไม่ทำให้ตัวเองเป็นทีน่าอับอายในทางระหว่างประเทศได้ ฮิวแมนไรช์วอทช์จึงขอเรียกร้องสวิตเซอร์แลนด์ ผูกพันตนและปฏิบัติตามหลักการและหลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการเคารพในความแตกต่างหลากหลายและอดทนอดกลั้นอันเป็นหลักการพื้นฐานของสหประชาชาติที่สำนักงานก็ตั้งอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์เอง ซิมส์สันยังเรียกร้องต่อรัฐบาลกลางว่าควรให้คำแนะนำกับเมืองเบรนทาร์เก้นให้เคารพหลักการไม่เลือกปฏิบัติและเคารพสิทธิการเดินทางอย่างเสรีของผู้ลี้ภัย รวมทั้งทำให้มั่นใจว่า ข้อตกลงทั้งหมดที่ใช้บริหารศูนย์ผู้ลี้ภัยของรัฐบาลจะดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน

 

ที่มา: Asylum Seekers? Stay Out of the Pool In Switzerland

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net