Skip to main content
sharethis

'กลุ่มหน้ากากขาว' ชุมนุมดีเอสไอประท้วง 'ธาริต' กรณีระบุนายกฯ เป็นประมุขประเทศ เล็งฟ้องดำเนินคดีหมิ่นสถาบัน 'ธาริต' ชี้ถ้าฟังทั้งบริบทก็จะรู้ไม่เจตนาหมิ่น แจง 'ประมุขประเทศ' เป็นศัพท์รัฐศาสตร์

(15 ส.ค.56) เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน นำโดย บวร ยสินทร แกนนำกลุ่มราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมหน้ากากขาวกว่า 50 คน ประท้วงหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากไม่พอใจกรณีที่ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าว รับคดีตัดต่อภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คู่กับป้ายอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นคดีพิเศษ โดยระบุเหตุผลว่า เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นประมุข ฝ่ายบริหาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี

โดยบวรอ่านหนังสือเปิดผนึกกล่าวโทษนายธาริตว่า กรณีที่นายธาริตแถลงจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการตัดต่อและเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสมต่อนายกรัฐมนตรี และมีการใช้ถ้อยคำให้เหตุผลความจำเป็นที่ดีเอสไอต้องดำเนินคดีนี้ว่า "ดีเอสไอ ไม่ได้รับใช้การเมือง แต่ว่าประมุขของประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีถูกกระทำอย่างนี้ และเป็นความผิดที่ดีเอสไอรับผิดชอบ จึงต้องดำเนินการ" นั้น เป็นถ้อยคำที่บิดเบือนและสร้างความเสียหายต่อประเทศ อันเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายความมั่นคงของชาติ เพราะประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข องค์พระมหากษัตริย์จะถูกผู้ใดละเมิดมิได้

ดังนั้น นายธาริตจึงกระทำผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 นอกจากนี้นายธาริตเป็นข้าราชการระดับสูงเกี่ยวกับคดีความมั่นคงมานานได้รับพระมหากรุณาธิคุณจนได้รับโปรดเกล้าฯเป็นถึงอธิบดีดีเอสไอ การก้าวล่วงเกินองค์ประมุขเช่นนี้ไม่มีเหตุผลควรเชื่อได้ว่า เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล้อ เพราแม้มีผู้ทักท้วงมากมายแล้วแต่นายธาริตก็เพิกเฉยที่จะชี้แจง ทั้งนี้แม้จะเป็นโดยประมาทเลินเล้อความผิดนี้ก็มิอาจยอมความกันได้ ประกอบกับพฤติกรรมของนายธาริต ที่ผ่านมามักไม่ใส่ใจกับคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์เท่าที่ควร จนมีผู้กระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากมาย จึงเป็นข้อสงสัยในความจงรักภักดีของนายธาริตมาโดยตลอด

บวร ระบุด้วยว่า จะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อกล่าวโทษนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีหน้าที่โดยตรงในการรักษาความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และในฐานะผู้มีส่วนเสียกับคำพูดของนายธาริต โดยขอให้พักราชการและตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อนายธาริต

บวร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้บังคับบัญชา ให้พักราชการและตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อนายธาริต รวมทั้งจะยื่นหนังสือต่อพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีต่อนายธาริต ในความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง จะสะท้อนให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี มีความประสงค์เช่นเดียวกับนายธาริต ก็จะดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องในความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157


'ธาริต' แจง 'นายกฯ' ประมุขประเทศเป็นศัพท์รัฐศาสตร์
ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องมีการเปิดแถลงข่าวชี้แจงคำพูดดังกล่าว เพราะถ้าได้รับฟังบริบททั้งประโยคในการแถลงข่าวก็จะทราบเจตนาที่แท้จริงว่า ไม่มีเจตนาไม่เหมาะสม

ธาริต ระบุว่า ข้อเท็จจริงคือเป็นการพูดอ้างจากศัพท์ทางรัฐศาสตร์ ว่าด้วยอำนาจ 3 ฝ่ายของการบริหารบ้านเมือง คือ บริหาร ตุลาการ และ นิติบัญญัติ ไม่ได้มีความหมายเกี่ยวโยงกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า ตนเองจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันมาตลอด ไม่คิดอาจเอื้อมกระทำการเช่นนั้นแน่ ดังนั้น ผู้ที่นำไปกล่าวอ้าง ถือว่าเป็นพวกที่มีอคติ ที่นำเรื่องแบบนี้มาเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งคนที่นำมาพูดอาจจะเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเสียเอง

 


ที่มา: โพสต์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ และเดลินิวส์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net