16 ส.ค. 56 - นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาปฎิรูป กล่าวว่าหากรัฐบาลต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคมให้มาร่วมกันปฎิรูปประเทศอย่างจริงจัง ควรเริ่มต้นด้วยการนำข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูปที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานและข้อเสนอของคณะกรรมการสมัชชาปฎิรูปที่มีนายแพทย์ประเวศ วะสี เป็นประธาน มาดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรม

 

ข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูปที่สำคัญคือ ข้อเสนอการปฎิรูปโครงสร้างอำนาจ เป็นการคืนอำนาจหรือกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนท้องถิ่น ให้ชุมชนจัดการตนเอง ท้องถิ่นจัดการตนเอง จังหวัดจัดการตนเอง นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอในการสร้างความเป็นธรรมในระบบงบประมาณเพื่อลดความเหลื่อมลำ้ในสังคม ได้บอกวิธีการดำเนินการอย่างครบถ้วนสามารถนำไปปฎิบัติได้เลย โดยเสนอไว้เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2554

 

สำหรับข้อเสนอของคณะกรรมการสมัชชาปฎิรูปนั้น เป็นมติ 21 มติจากเวทีสมัชชาปฎิรูประดับชาติ 3 ปีติดต่อกัน (พ.ศ.2554 มี 8 มติ พ.ศ.2555 มี 6 มติ และ พ.ศ.2556 มี 7 มติ) โดยเครือข่าย 239 กลุ่มเครือข่ายจากภาคส่วนในสังคมไทย

 

นายแพทย์ชูชัยได้เปิดเผยความจริงให้ทราบว่า มติสมัชชาปฎิรูประดับชาติครั้งที่สองนั้น มีจำนวน 6 มติ ทางประธานคณะกรรมการสมัชชาปฎิรูปคือนายแพทย์ประเวศ วะสีได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เสนอให้คณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบและส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการ แต่ไม่มีการนำเข้าคณะรัฐมนตรีแม้เพียงเพื่อรับทราบ ทั้งๆ ที่ทางคณะกรรมการติดตามดำเนินงานตามมติสมัชชาปฎิรูป มีผู้แทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้แทนสภาพัฒน์ฯ ร่วมอยู่ด้วย ทางคณะกรรมการติดตามฯ จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาจัดทำร่างกฎหมายสี่ฉบับเพื่อให้เป็นไปตามมติสมัชชาปฎิรูปคือร่างพรบ. ธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน ภาษีที่ดิน และกองทุนยุติธรรม เพื่อการจัดสรรทรัพยากรที่ดินอย่างเป็นธรรมและคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนในกรณีถูกจับกุมคุมขังด้วยข้อหาบุกรุกที่ดินทำกินของตนเอง ต่อมาภาคประชาสังคมนำไปขับเคลื่อนโดยเรียกว่ากฏหมายเพื่อคนจนหรือ 4 Laws for the Poor เพื่อให้มีผู้สนับสนุน 1 ล้านรายชื่อ

 

"ดังนั้นหากรัฐบาลเริ่มต้นจากสิ่งดีๆที่มีอยู่แล้ว เริ่มต้นปฎิรูปจากข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูปและข้อเสนอจากเวทีสมัชชาปฎิรูปที่มีส่วนร่วมของเครือข่าย 239 กลุ่มเครือข่ายจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวางทั่วประเทศในช่วงสามปีที่ผ่านมา จะเป็นย่างก้าวที่สำคัญและมั่นคงของการปฎิรูปเพื่อก้าวต่อไปในอนาคต" อดีตประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาปฎิรูป กล่าวในที่สุด