การประชาสัมพันธ์แบบ "ชัชชาติ"

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
คนเสื้อแดงต่างบอกว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "อ่อน" ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ผลงาน ส่วนคนเสื้อเหลืองบอกว่า รัฐบาลปูแดง นี่ "บ้า" ประชาสัมพันธ์อย่างที่สุด!!
 
คนเสื้อเหลืองก็มองรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ต่างจากที่คนเสื้อแดงมองรัฐบาลอภิสิทธิ์ คือ ต่างก็ใช้เงินไปกับการขึ้นคัตเอาท์ ใช้เงินซื้อสื่อเหมือนกัน พอๆ กันนั่นละ มีการผูกขาดสื่ออย่างเต็มที่ 
 
คนเสื้อแดงบอกว่า รัฐบาล "มีผลงาน" แต่พ่ายแพ้ในพื้นที่ "สื่อ" เสมอมานับแต่ได้อำนาจ ขนาดสื่อของรัฐยังไม่ค่อยมีคนดู ไม่มีรายการฮิต ไม่รวมถึงความล่าช้าในสงครามข่าวสาร ตั้งแต่ การเล่นข่าวหรือแก้ข่าว ส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะเน้นการตั้งรับ และทำได้แค่แก้ข่าวในสื่อออนไลน์เท่านั้น แต่ก็เป็นในลักษณะสงครามปิงปองมากกว่าการเป็นข่าวในสื่อกระแสหลัก พูดง่ายๆ ว่า จัดการสื่อไม่ได้ ก็โดนตีกินมาตลอด 
 
คำถาม ก็คือ การประชาสัมพันธ์ คือ อะไร?
และ ทำไมในมุมมองของคน 2 กลุ่มจึงต่างกันขนาดนี้?
......
 
ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เกิดปรากฎการณ์ "ชัชชาติ" ในสังคมไทย คือ สังคมไทยรู้จัก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมากขึ้นเป็นวงกว้าง แต่ก็ไม่ใช่จากการเป็นผู้กุมบังเหียนโครงการยักษ์ อย่างเรื่องรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ เท่านั้น แต่ "ชัชชาติ" ลงมาเล่นกับปัญหาในระบบคมนาคมของประเทศทุกระดับ ความ "ป๊อป" ของ "ชัชชาติ" นั้น กระทบใจทุกคนนะครับ ยิ่งมีภูมิหลังที่ดี เรียนเก่ง เคยเป็นครูบาอาจารย์ และมาในโควต้า "คนนอก" เขาจึงเปิดมิติการมองอะไรแบบสองขั้ว
 
ตั้งแต่ ขึ้นรถเมล์สาย 8, ลองใช้จักรยาน, ไปตรวจรถไฟตกรางที่ลำปาง, ขึ้นรถไฟหวานเย็นไปสุรินทร์, ไปตรวจท่าเรือคลองแสนแสบ ฯลฯ ล่าสุด เช้าวันนี้ ผมเห็นข่าว คุณชัชชาติจะจัดการกับปัญหา Eaay Pass หรือบัตรที่ใช้ในระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ นี่ถ้าลงไปตรวจหน้าช่องเลยก็คงได้ใจประชาชนขึ้นอีก (ท่านรัฐมนตรี ถึงกับกาหัว ผู้ว่าการทางพิเศษฯ ว่าปัญหานี้ต้องจบโดยเร็ว)
 
แรกๆ คนบางส่วนก็มองว่า "สร้างภาพ" แต่ไม่นาน คนก็เห็นความตั้งใจจริง หรือต่อให้สร้างภาพแต่การทำงานลงภาคสนาม สำรวจปัญหาเอง เดินทางด้วยตนเองประหนึ่งเป็นชนชั้นกลางระดับกลาง-ล่างในสังคม ก็ต้องให้เครดิตรัฐมนตรีหนุ่มท่านนี้
 
ถ้าวิเคราะห์เฉพาะประเด็น "การประชาสัมพันธ์" การทำงานของรัฐมนตรีท่านนี้ เข้ากับ "มุข" ของ "เพจ" ยอดฮิตของฝรั่งในเฟซบุคที่ว่า บุคคลหนึ่ง ทำงานอะไร แล้วชาวบ้านคนต่างๆ ไม่ว่าจะพ่อ แม่ เพื่อน เห็นเขาเป็นคนอย่างไร มองภาพเขาอย่างไร ก็อาจกล่าวได้ว่า การทำประชาสัมพันธ์ในโลกสมัยใหม่ "ไม่ใช่" การไปบอกชาวบ้านว่าตนไปทำอะไร ไม่ใช่บอกว่าไปเปิดป้ายที่ไหน ไปตรวจงานอะไร ในลักษณะข่าวแจกของหน่วยงานต่างๆ (ต่อให้กำลังสิ่งนั้นๆ ทำอยู่ก็ตาม) 
 
แต่เป็นการทำในสิ่งที่ประชาชนเขาอยากให้ทำ สิ่งที่เขาอยากเห็น ทำในสิ่งที่คนเขามองมาแล้ว เขารู้สึกว่า มัน "เกี่ยวข้อง" กับเขา เกี่ยวข้องกับเงินในบัตรเติมเงินของเขา หรือเอาเรื่องเดือดร้อนล่าสุดมาทำจริงๆ ไม่ใช่ไปเปิดป้ายหรือนั่งประชุมอะไรที่มันดูห่างไกลจากปัญหา ห่างไกลจากชีวิตประจำวันของประชาชนจนหาจุดเชื่อมโยงไม่เจอ 
 
"ชัชชาติ" ทำให้คนชั้นกลางระดับกลาง-ล่าง เห็นว่า รถเมล์สาย 8 เกี่ยวกับพวกคุณนะ, เรื่องหมอชิตใหม่เดี๋ยวก็จะเกี่ยวกับพวกคุณ, รถตู้โดยสารก็ด้วย, ทางด่วนก็ด้วย … และผมก็อยู่ด้วยกับพวกคุณ อยู่กับสิ่งที่พวกคุณพบเจอทุกวัน ไม่ใช่แก้ปัญหาสาย 8 ในห้องประชุม
 
ผมไม่ได้อยู่กับแค่ "โครงการในฝัน" ต่อให้วันนี้ "เงิน" ยังไม่มา แต่ผมก็ทำงานในส่วนที่ผมทำได้ ผมไม่รอ!!!
 
ทีมงาน "จาตุรนต์" ไปดูได้เลย รับรองเฟซบุ๊กของรัฐมนตรีศึกษาฯ ฮิตตามมาแน่ ถ้าจับจุดเป็น ไม่งั้นก็รอวันหายไปกับกระแส!! 
.............
 
การจะทำให้ "เสื้อเหลือง" และ "เสื้อแดง" ปราศจาก "อคติ" ทางการเมืองของตนนั้นเป็นเรื่องยากแสนยากครับ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยก็ว่าได้ ยิ่งใช้การประชาสัมพันธ์แบบเดิมๆ อาจจะยิ่งเติมความไม่พอใจขึ้นอีก เช่น บอกว่า การที่นายกฯ บินไปเมืองนอกบ่อยๆ นี่ไปทำงานนะ ชี้แจงตามหลังอย่างเชื่องช้าว่า ได้อะไรติดมือกลับมาบ้างก็ยังไม่เป็นผล (เพิ่งชี้แจงเมื่อวานนี่เอง) แถมคนรับสารก็ไม่เข้าใจอีกว่า การลงทุนที่ต่างชาติบอกจะเข้ามานั้น เข้ามา ตรงไหน อย่างไร ตัวเลขจาก BOI ยังห่างจากชีวิตประจำวัน การปูพรมให้คนรักด้วยการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวจึงเป็นเรื่องเก่า ตราบใดที่ไม่ลงไปนั่งคลุกกับปัญหาให้เขาเห็นก็ยากจะได้ใจ 
 
การนำเสนอผลหรือการขยายผลในสิ่งที่ทำไปแล้วนั้น จะต้องทำในแบบที่เข้าถึงใจคน คือ สามารถกระทบความรู้สึกผู้คนได้ จึงจะสามารถช่วยลดอคติการเมืองเรื่อง "สี" ลงไป ให้ประชาชนมาดูที่ผลงานและความตั้งใจจริงของคนทำงาน คนบางส่วนจะเริ่มกลับมาใช้เหตุผล เริ่มมองเห็นความทุ่มเทของเสนาบดีที่เดินออกจากหอคอยงาช้าง มาร่วมชมบ้านเมืองในระดับสายตาเดียวกับพวกเขา และหากทำต่อเนื่อง วิสัยทัศน์ใดๆ ที่นักการเมืองเสนอมาก็ยากจะถูกปฏิเสธจากอคติที่เกิดจากฤทธิ์เดชของการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวจากปางก่อน

 

................
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท