Skip to main content
sharethis

นักกิจกรรมนักศึกษากราบทะเล ขอโทษที่ปล่อยให้เขามาย่ำยีเสม็ด ชี้เป็นการเเสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ผ่าน “ภาพเล่าเรื่อง” ต่อกรณีน้ำมันรั่ว ซึ่งปตท.ไม่เคยเข้ามารับผิดชอบในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ

กราบขอโทษธรรมชาติ บริเวณหน้าหาดสวนสน จังหวัดระยองภาพโดย กันต์ แสงทอง 

เมื่อวันที่ 14-15 กันยายนที่ผ่านมา ตัวแทนนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยอาทิ เช่น กลุ่มลูกชาวบ้าน ม.บูรพา กลุ่มรามอีสาน ม.รามคำแหง ชมรมอาสากลาง ม.เชียงใหม่ สมาพันธ์นักเรียน เยาวชน นักศึกษานราธิวาส นิสิตม.เกษตรฯ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)และกลุ่มคนรุ่นใหม่ในภาคตะวันออก ได้มีการจัดเวทีพูดคุยทบทวนบทบาท "กิจกรรมนักศึกษาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน" ขึ้นที่จรรยารีสอร์ท หาดสวนสน จ.ระยอง

นอกจากนั้นยังมีการพูดคุยในหัวข้อ "ชีวิตและความใฝ่ฝัน" ของแต่ละคน และการพูดคุยแนวทางการเคลื่อนไหวกิจกรรมของแต่ละกลุ่ม สรุปบทเรียนข้อผิดพลาดและจุดมุ่งหมายของแต่ละองค์กร พร้อมทั้งร่วมกันหาทางออกและแนวทางการเคลื่อนไหวกิจกรรมในอนาคตร่วมกัน

นายปณิธาน ผัสสะผล ผู้ประสานงานเวที  กล่าวว่า "ขบวนการนักศึกษาในปัจจุบันยังลงเหลือพลังในการเปลี่ยนแปลง แต่ในบางกลุ่มกลับยึดติดภาพการเคลื่อนไหวทางสังคมของขบวนการนักศึกษาในอดีต จนกระบวนการทำงานกิจกรรมทางสังคมไม่สอดคล้องกับสภาพของนักศึกษาในปัจจุบัน เวทีนี้ทำหน้าที่เพียงทบทวนตนเอง ยอมรับความเป็นจริง และค้นหาแนวทางการทำกิจกรรมจนถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบใหม่ในยุคสมัยที่เป็นของเรา"

โดยในช่วงท้ายของกิจกรรม ทางกลุ่มนักศึกษากลุ่มดังกล่าวได้มีการ ปฏิบัติการแสดงความรู้สึกต่อท้องทะเลระยอง จากกรณีน้ำมันรั่วที่ผ่านมา โดยการ กราบขอโทษทะเลที่ปล่อยให้เขามาย่ำยี ที่บริเวณชายหาดสวนสน

นายรัชชานนท์ เชนพิมาย สมาชิกกลุ่มลูกชาวบ้าน กล่าวว่า "กิจกรรมในวันนี้เป็นการเเสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อกรณีน้ำมันรั่ว ซึ่งปตท.ไม่เคยเข้ามารับผิดชอบในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติเลย มีเพียงการชดเชยเงินให้ชาวบ้าน ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับทรัพยากรธรรมชาติที่เสียไป การแสดงออกของเราก็เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามารับผิดชอบในการฟื้นฟูธรรมชาติ โดยการกราบเป็นการแสดงออกเผื่อสะท้อนสิ่งที่ปตท.ทำไว้กับธรรมชาติ เป็นการแสดงออกเชิงประชดประชันอย่างสุภาพ แต่เราไม่ได้นอบน้อมต่อคนทำลายธรรมชาตินะ เราขอโทษธรรมชาติ ที่ปล่อยให้เขามาย่ำยี ผมอยากชวนให้ติดตามว่า พวกเราจะทำอะไรต่อ หลังจากกิจกรรมในวันนี้ครับ"

ผู้ใช่นามสมติว่า ‘ขวัญใจ ไก่เบตง’ รายงานถึงแอคชั่น “แสดงความเสียใจและกราบขอโทษธรรมชาติ” ด้วยว่า การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ของนักศึกษาที่เน้นให้รูปภาพนั้นเล่าเรื่องราวและส่งสารสาระถึงผู้พบเห็นนับเป็นกระบวนการการสื่อสารที่ดึงความสนใจได้ดีทีเดียวในยุคสมัยแห่งความรวดเร็วทันใจไร้ความอดทน  “ภาพเล่าเรื่อง” ผ่านทางโซเชียลเนตเวิร์กหรือที่รู้จักกันดีก็คือเฟสบุค หลังจากได้ตื่นเต้นกับกระแสของน้องอั้ม เนโกะ สาวสวยจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มิเพียงสวยแต่เค้าหน้า จิตใจ และความคิดของเธอยังแหลมคมและผ่ากลางใจของคนไทยทั้งประเทศได้อย่างรวดเร็วผ่านทางชุดภาพถ่ายอันเซกซี่และเย้ายวนกิเลสดิบเถื่อนของมนุษยชาติไทย

ขวัญใจ อธิบายถึงความหมายของการกราบว่าเป็นการแสดงออกเพื่อขอบคุณและขอโทษที่มีความหนักแน่นและชัดเจนที่สุดในวัฒนธรรมไทยพุทธ ในภาพมีความร่วมมือกับพี่น้องมุสลิมที่ยืนอยู่ด้านหลัง มือชี้ออกไปบอกตำแหน่งถึงเกาะเสม็ดที่อยู่ตรงหน้า จุดประสงค์คือนักศึกษาต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ ทะเล ที่ถูกทำร้าย  เพื่อชี้ให้เห็นและตระหนักถึงความไม่ชัดเจนของกระบวนการแก้ไขปัญหาน้ำมันดิบรั่วของบริษัทปตท. ซึ่งบริษัทยังไม่ชี้แจงเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและไม่มีทีท่าว่าจะรับผิดชอบต่อต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา

“เกาะเสม็ดอาจเป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวแบบชิคๆ ของบางคนคนที่เป็นคนเมืองซึ่งในวันๆหนึ่งได้เหยียบพื้นดินจริงๆกันสักกี่ครั้ง ทะเลที่จะถูกนึกถึงก็ต่อเมื่อมีช่วงวันหยุดพักผ่อนเพื่อใช้เงินแลกความผ่อนคลายจากการทำงาน ในขณะเดียวกันอีกด้านของสังคม ทะเลซึ่งไม่ว่าจะเป็นทะเลไหนก็เป็นโลกอีกโลกของผู้อาศัย ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสรรพสัตว์ที่ต่างก็ต้องพึ่งพาทะเล เพราะทะเลคือสถานที่ทำงาน คือการเดินทางสัญจร คือบ้าน คือชีวิต เพราะพวกเราคือมนุษย์ในฐานะคนไทย คนเอเชีย และประชากรของโลก ผู้ตระหนักรู้และมีจิตสำนึก” ขวัญใจ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net