ภาคประชาสังคมไทยเคลื่อนพล ประกาศจับตาเอฟทีเอไทย-อียู ถึงที่สุด

เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (19 ก.ย.) เครือข่ายภาคประชาชนกว่า 2,000 คน ประกอบด้วยเครือข่ายเกษตรทางเลือก กลุ่มเกษตรอินทรีย์ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ เครือข่ายงดเหล้า เครือข่ายผู้บริโภคและกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ที่รวมตัวกันในนามกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน FTA Watch และองค์กรภาคี ซึ่งจัดการชุมนุมและเปิดเวทีรณรงค์สาธารณะ มาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.คู่ขนานกับการเจรจาการเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป รอบ 2 ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ (16-20 ก.ย.) นั้นได้เคลื่อนขบวนอย่างสงบ โดยมีการจัดริ้วขบวนรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการเจรจา และเวทีปราศรัยเคลื่อนที่เพื่อนำเสนอชี้แจงข้อห่วงกังวล 4 ประการตามที่ประชาธรรมได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แก่ประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวในบริเวณถนนลอยเคราะห์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย ได้ตั้งแผงสกัดไม่ให้กลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนเข้าไปยังพื้นที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดต้องตั้งเวทีปราศรัยเคลื่อนที่บริเวณหน้าโรงแรมเซ็นทารา ดวงตะวัน ท่ามกลางการให้ความสนใจจากนักท่องเที่ยว และการสนับสนุนจากประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายต่างๆ ได้ขึ้นปราศรัยให้ข้อมูล สลับกับกิจกรรมทางวัฒนธรรม ระหว่างรอพบผู้แทนคณะเจรจาจากทั้ง 2 ฝ่ายลง เพื่อรับหนังสือและข้อเสนอแนะในเวลาประมาณ 14.00 น.

นายอุบล อยู่หว้า เป็นตัวแทนกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน FTA Watch และภาคประชาสังคม กล่าวแสดงความชื่นชมต่อท่าทีของคณะเจราจาฝ่ายไทยที่ไม่ละเลยข้อห่วงใยของภาคประชาชนที่ได้เสนอไปแล้ว ทั้งการไม่ยอมรับข้อเสนอการเจรจาที่มากไปกว่าข้อตกลงทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้าโลก (ทริปส์พลัส) ทั้งในเรื่องยา และทรัพยากรชีวภาพ

อย่างไรก็ตาม องค์กรภาคประชาสังคมยังคงต้องการเห็นจุดยืนที่ชัดเจนของคณะเจรจาที่จะปกป้องไม่ให้การค้าเสรีเปิดช่องให้เกิดการส่งเสริม หรือเร้าให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่ที่อายุน้อยลง ตลอดจนรักษาไว้ซึ่งมาตรการและนโยบายดูแลสุขภาพของประชาชน ถัดมาในด้านการคุ้มครองการลงทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนฟ้องร้องผ่านอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศนั้นต้องถูกยกเว้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม สุขภาพสาธารณะ มาตรการเพื่อปกป้องดุลชำระเงิน และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เป็นต้น ประการสุดท้าย สำหรับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางสุขภาพ สาธารณูปโภค และสวัสดิการทางสังคมควรละเว้นจากการเจรจา

ด้าน น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล เป็นตัวแทนกล่าวย้ำกับผู้แทนคณะเจรจาสหภาพยุโรป ว่า ภาคประชาสังคมไทยยังคงยืนหยัดตามเนื้อหาที่ได้เรียกร้องไปก่อนหน้านี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หากสหภาพยุโรปไม่หยุดคุกคามสิทธิ เสรีภาพ ระบบประชาธิปไตย และระบบสุขภาพของประชาชนไทย ผ่านการกดดันให้รัฐบาลไทยต้องยอมรับเงื่อนไขการเจรจาการค้าที่มีผลผูกพันให้ไทยต้องยอมรับทริปส์พลัส จึงสามารถตีความได้ว่าสหภาพยุโรปถือเอาผลประโยชน์ของบรรษัทข้ามชาติมาก่อนสวัสดิภาพของประชาชน และสวนทางกับเกียรติภูมิของผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ดังนั้น ภาคประชาสังคมไทยจะร่วมมือกับภาคประชาสังคมนานาชาติยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งนอร์เวย์ให้เพิกถอนรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพซึ่งสหภาพยุโรปได้รับเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากรับฟังข้อเสนอของกลุ่ม FTA Watch และภาคประชาสังคมไทย แล้วตัวแทนคณะเจรจาฝ่ายไทยได้กล่าวขอบคุณผู้ร่วมชุมนุมที่ให้การสนับสนุน และเพิ่มอำนาจการต่อรองในอีกทางหนึ่ง ส่วนข้อเสนอแนะนั้นทีมเจรจาจะนำไปพิจารณาและชี้แจงต่อสาธารณะต่อไป ขณะที่ผู้แทนทีมเจรจาสภาพยุโรปกล่าวชื่นชมความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมซึ่งเป็นการแสดงออกตามหนทางของประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังระบุว่า การเจรจาระหว่างไทย-สหภาพยุโรปยังเพิ่งเริ่มต้นที่จะหากรอบการเจรจาที่ลงตัวทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นจึงต้องว่ากันไปตามกระบวนการเจรจา

ทั้งนี้ เมื่อมีการยื่นข้อเสนอต่อคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายแล้วนั้น น.ส.กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา ได้อ่านคำประกาศปิดท้ายการชุมนุมว่า จนถึงบัดนี้พวกเราได้ตระหนักแล้วว่า สหภาพยุโรปยืนยันหนักแน่นในการเดินหน้าผลักดันข้อเรียกร้องหลายประเด็นที่วางอยู่บนผลประโยชน์ของบรรษัทข้ามชาติทั้งด้านยา พันธุ์พืช และนักลงทุนข้ามชาติ ที่คุกคามต่อการอยู่รอดของเกษตรกรรายย่อย ความมั่นคงทางอาหาร และระบบสุขภาพของประชาชน ไปจนถึงนโยบายรัฐ นับเป็นพฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมขัดขวางสันติภาพและการสร้างสมานฉันท์บ่อนทำลายระบบประชาธิปไตย สวนทางกับเกียรติภูมิของผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

"เรายินดีจะเป็นกองหนุนอันเข้มแข็งให้กับทีมเจรจาในการต้านทานแรงกดดัน และความพยายามเอารัดเอาเปรียบของสหภาพยุโรป พวกเราจะติดตามอย่างใกล้ชิดและจะร่วมพลังยืนหยัดคัดค้านจนถึงที่สุด หากสหภาพยุโรปจะผลักดันข้อเรียกร้องใดๆ ที่ส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ และความอยู่รอด พวกเราจะกลับมาอีกแน่นอน ด้วยจำนวนคน ความรู้ กำลังกาย-ใจที่มากขึ้นและเข้มแข็ง เราจะไม่ยอมถอยให้ทุนใหญ่ที่เอารัดเอาเปรียบแม้แต่ก้าวเดียว"

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท