Skip to main content
sharethis

ส.ว.สรรหา เตือนว่าหากนายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไข รธน. ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ขึ้นทูลเกล้าฯ โดยไม่รอศาล รธน.วินิจฉัย ถือเป็นการมิบังควร ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท และผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และอาจมีผู้ยื่นเรื่องต่อศาล รธน. ว่านายกรัฐมนตรีผิด รธน. ม.68 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

เอเอสทีวี ผู้จัดการออนไลน์ รายงานวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อขอให้ระงับการดำเนินการทูลเกล้าฯ ถวายร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่มา ส.ว. เนื่องจากวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมากลุ่ม ส.ว.ได้ยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ส่งความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 ว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยล่าสุดทราบว่าประธานวุฒิสภากำลังให้ฝ่ายธุรการตรวจสอบลายมือชื่อ ส.ว.และจะส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบในสัปดาห์นี้ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีควรระงับการดำเนินการทูลเกล้าฯ ถวาย จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการอ้างว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 20 วันนั้นใช้ในกรณีที่ร่างกฎหมายไม่มีการยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ แต่หากยื่นให้ศาลตรวจสอบตามมาตรา 154 แล้ว ต้องระงับการทูลเกล้าฯ ถวายไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย แม้จะพ้นกำหนด 20 วันแล้วก็ตาม ซึ่งล่าสุดกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ก็เลยกำหนดการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 20 วันแล้วเช่นเดียวกัน

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า หากนายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาขึ้นทูลเกล้าฯ อย่างเร่งรีบผิดปกติ ตามคำแนะนำของบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาและจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการตรวจสอบร่างกฎหมายที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เชื่อได้ว่าอาจจะมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีนำร่างกฎหมายที่มีปัญหามากมายยังไม่สิ้นข้อสงสัย และอยู่ในระหว่างการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่กลับนำขึ้นทูลเกล้าฯ อย่างเร่งรีบ เป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง เพราะทำให้ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจถูกกล่าวโทษว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 157 จึงหวังว่านายกรัฐมนตรีจะระงับนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทยถึงได้เร่งรีบให้นายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายอย่างเร่งรีบ ไม่ทราบว่าเป็นการทำเพื่อรักษาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือต้องการสนองความต้องการบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะขณะนี้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะว่าร่างฉบับนี้มีหลายอย่างที่ไม่เรียบร้อยค่อนข้างมาก เช่น การแปรญัตติ การกดบัตรแทนกัน และที่สำคัญร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่ามีความสำคัญและมีศักดิ์สูงกว่าร่าง พ.ร.บ.จึงไม่สมควรที่จะผ่านออกไป โดยไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงความถูกต้องก่อน

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ที่ผ่านมาถือเป็นประเพณีปฏิบัติว่า หากเรื่องใดยังไม่ได้ข้อยุติหรือยังมีความสงสัย ต้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด และขณะนี้มีผู้ยื่นเรื่องแล้ว และยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ จะเป็นการระคายเคืองหรือไม่ และอยากเตือนไม่ให้นายกรัฐมนตรีนำเรื่องนี้ขึ้นไป เพื่อให้เป็นพระราชภาระ ซึ่งอาจจะมีผู้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่านายกรัฐมนตรี กระทำการเข้าข่ายล้มล้างการปกครองขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68

อนึ่งก่อนหน้านี้ "ประชาไท" สัมภาษณ์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ รองศาสตราจารย์ด้านกฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. ได้ เนื่องจาก มาตรา 154 เป็นกรณีของร่างพระราชบัญญัติที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ส่วนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นกฎหมายคนละชนิดกัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นอำนาจของรัฐสภา (อ่านต่อที่นี่)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net